ลืม! ความแห้งแล้ง พกแรงเล่นน้ำ
ใครกัน? ที่ว่าทุ่งกุลาร้องไห้แห่งนี้ แห้งแล้ง มีแต่แดด ต้นหญ้า ดินปนทราย หรือนั่นเป็นเพียงแค่ตำนานไปเสียแล้ว
เราขอแนะนำสถานที่ซึ่งชาวกุลาเลิกร้องไห้ นั่นก็คือ…“ทะเลสาบทุ่งกุลา” อยู่ในพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
เมื่อก้าวเท้าลงจากรถก็จะพบผู้คนมากมาย บ้างมากันเป็นครอบครัว บ้างมากับเพื่อนๆ ยิ้มกันอย่างมีความสุข สภาพเนื้อตัวเปียกปอน
“หนูจ๋าถ้าจะเล่นน้ำก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำด้านโน้นเลยนะจ๊ะ” เสียงนี้แว่วเข้าหู หันไปดูก็ได้พบกับรอยยิ้มที่เป็นมิตรจากชายสูงอายุ ทำให้รู้สึกว่าวันนี้ต้องได้ลงเล่นน้ำอย่างสนุกสุดมันส์อย่างแน่นอน…
ในระหว่างทางที่เดินลงไป ก็ได้เห็นแหล่งน้ำใหญ่มองไกลสุดสายตา เข้าใจเลยว่าทำไมเขาจึงตั้งชื่อว่าทะเลสาบ
ในทะเลสาบทุ่งกุลามีแพประกอบทุ่นลอยน้ำอยู่หลายหลังให้เลือกสรรสำหรับนั่งพักผ่อน ทานอาหาร และลงนั่งเล่นน้ำ หรือจะเล่นบานาน่าโบ๊ท ที่คนแถวนี้เรียกกันว่า “เรือกล้วย”
แพที่นั่งมีโครงสร้างเหล็กแข็งแรง ปูพื้นด้วยไม้ไผ่เรียงกันแน่นหนา หลังคามุงหญ้าคา ภายในแพมีอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างห่วงยาง เสื้อชูชีพ และเชือกเส้นยาว ทำให้เรามั่นใจที่จะลงแพแบบไม่ต้องกังวลใจ
นั่งได้สักพักก็มีแม่ค้ามากล่าวทักทายและยื่นเมนูอาหาร มีทั้งอาหารไทยและอาหารท้องถิ่นเต็มไปหมด ซึ่งราคาดูแล้วก็ไม่แพง หลังจากสั่งอาหารเสร็จก็มีลุงถอยเรือมาลากแพที่เรานั่งออกไปกลางทะเลสาบ มีลมมาปะทะสัมผัสได้ถึงอากาศที่สดชื่น รู้สึกสงบและผ่อนคลาย มีความเป็นส่วนตัว
เมื่อลุงจอดเรือแล้วโยนสมอที่ผูกเชือกติดไว้กับแพลงน้ำ ฉันมองดูเชือกที่วิ่งตามสมออย่างสงสัยว่าน้ำมีความลึกเท่าไหร่ แต่ก็หาข้อสรุปที่ชัดเจนไม่ได้
ความสวยงามของสายน้ำสีฟ้าคราม ใสแทบจะมองเห็นปลา ฉันได้เพียงแต่นั่งหย่อนขาลงในน้ำเย็นๆ บนกระแสน้ำที่ปลดปล่อยความเหนื่อยล้าและความเครียดที่มีอยู่หายไปโดยที่ไม่รู้ตัว
มองดูเพื่อนๆ และผู้คนรอบข้างต่างหลั่งไหลกันเข้ามาทะเลสาบแห่งนี้ คงจะมีความสุขไม่น้อยกว่าเราเป็นแน่
นับจากวันนั้นทุกครั้งที่ฉันรู้สึกไม่สบายใจ ก็จะคิดอยากจะหายตัวไปให้ถึงสถานที่ที่ดีที่สุด ณ “ทะเลสาบทุ่งกุลา”