หัวใจของการฟ้อนเจิง
หัวใจของการฟ้อนเจิงนั้นจำเป็นต้องมีขุม อาจจะงงกันว่ามันคืออะไร
คือลักษณะการเดิน การวางเท้า อารมณ์เหมือนเวลาเราเต้นเพลงสากลแล้วมีจังหวะ 5 6 7 8 ถ้าเราเข้าใจวิถีของขุมก็จะทำให้เรามีศักยภาพในการย่างก้าวให้สง่างามและชำนาญได้
ต่อจากนั้นก็จะเริ่มร่ายรำโดยใช้หัวใจที่สองนั้นก็คือลายมือ ไม่ใช่การเขียนให้สวยงามตามท้องเรื่อง แต่เป็นการวาดมือไปในตำแหน่งต่างๆ ให้เป็นท่าทางเพื่อแสดงพลังและความแข็งแกร่ง
สิ่งที่เพิ่มเติมนั้นคือการอบอุ่นร่างกายโดยการ “ตบมะผาบ” ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เมื่อก่อนนั้นผู้คนนิยมสักเพื่อเพิ่มความขลังและความน่าเกรงขามให้แก่ตน รอยสักแต่ละรอยก็จะมีความหมายหรือความสำคัญที่แตกต่างกัน
ดังนั้นการที่จะปลุกรอยสักขึ้นมานั้นก็คือการตบมะผาบตามจุดต่างๆ ที่มีพร้อมกับท่องคาถาไปด้วย ทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อทางจิตใจ เพื่อให้มีกำลังใจในการต่อสู้ทั้งสิ้น
ท่ารำ
ท่าเริ่มต้นสำหรับการเริ่มฟ้อนเจิง เมื่อทำท่าบิดบัวบาน (แบบไม่จีบ) ไปเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ ขยายวงออก ทำอยู่ประมาณ 1-2 นาที เมื่อหยุดทำพบว่า แขนจะรู้สึกมีน้ำหนักขึ้น แล้วสัมผัสได้ถึงเลือดที่เคลื่อนไหวภายในร่างกาย
หลังจากนั้นเราก็จะรู้สึกผ่อนคลายไปอย่างบอกไม่ถูก นี่แหละคือผลลัพธ์ที่สัมผัสได้ของการฟ้อนเจิง
ปกติถ้าพูดถึงการฟ้อน จะมีท่ารำที่เป็นมาตรฐาน มีแบบแผน มีลำดับขั้นตอนก่อนหลัง แต่การฟ้อนเจิงจะมีความแตกต่างในแต่ละชุมชน
แต่ละสำนักท่าทางการฟ้อนก็จะแตกต่างกัน ลำดับของท่าขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้แสดงด้วยเช่นกัน เมื่อเริ่มการแสดงจะเป็นจังหวะกลองที่ช้าๆ แล้วจะเริ่มปรับเป็นเร็วในตอนท้าย เพื่อเป็นการสร้างความฮึกเหิมและสร้างขวัญกำลังใจก่อนออกรบ
เสียงกลองก้นยาว หรือกลองปู่เจ่ เสียงฉาบและฆ้องที่ดังขึ้นในงานบุญต่างๆ ช่างเป็นเสียงที่สร้างจังหวะแสนเร้าใจแก่ผู้ร่วมงานและผู้แสดง แต่ด้วยความลื่นไหลของวัฒนธรรมที่มีการปรับเปลี่ยน จากเครื่องดนตรีเดิมๆ ก็สามารถฟ้อนได้กับเครื่องดนตรีสมัยใหม่ที่สร้างจังหวะแทนได้
เปลี่ยนจากการป้องกันตัวเป็นศิลปะการแสดงเพื่อถ่ายทอดทางวัฒนธรรม นอกจากนี้สามารถนำไปเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพได้
สำหรับใครที่เคยฟ้อนเจิงจะรู้สึกได้เลยว่า ตัวเองนั้นไม่มีพุงแน่นอน นอกจากนี้เป็นกิจกรรมคลายเหงื่อที่ดีมาก ส่งผลให้เรานอนหลับสบาย เพราะเวลาฟ้อนเจิงนั้นต้องกำหนดลมหายใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ระบบการหายใจจึงทำงานได้ดีเลิศ ถึงแม้ไม่มีกล้ามแต่ก็จะไม่มีพุง