
K of Dye – สะเก็ดธรรม
“ผ้าครามได้ขึ้นชื่อว่า #ราชาแห่งสี เพราะไม่มีสีชนิดใดที่มีความสัมพันธ์กับขนมธรรมเนียมและประเพณี เทียบเท่ากับสีคราม”
ชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่าผลผลิตจากไร่หมุนเวียนของตนนั้นมาจากตนร่วมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่าง ๆ ดังนั้น หลังจากปลูกข้าวเสร็จแล้วชาวกะเหรี่ยงจำทำพิธี “บว่อ ฆึ” ซึ่งเป็นการเลี้ยงเจ้าที่เจ้าทางที่อยู่ในไร่รวมทั้งคอยช่วยดูแลปกป้องไร่หมุนเวียนให้มีความอุดมสมบูรณ์ปลอดภัยไร่โรคร้ายรวมไปถึงผู้ที่ทำไร่หมุนเวียนให้มีความปลอดภัยอยู่ดีมีความสุข
พิธี “บว่อ ฆึ” เป็นพิธีกรรมที่ทำในครอบครัวที่ทำไร่หมุนเวียนด้วยกัน โดยทั่วไปพิธีนี้เริ่มต้นจากบ้านผู้นำทางจิตวิญญาณ “ฮีโข่” แล้วตามด้วยครอบครัวอื่น ๆ
ในการประกอบพิธี “บว่อ ฆึ” นั้นหัวหน้าครอบครัวแต่ละบ้านจะเป็นผู้ประกอบพิธีส่วนสมาชิกคนอื่นๆจะช่วยเตรียมเครื่องประกอบพิธีกรรมเช่นหมูไก่ตัวผู้และไก่ตัวเมียข้าวพืชผักเหรียญโบราณสร้อยลูกปัดและที่ขาดได้เลยคือเหล้าส่วนแท่นพิธีนั้นทำด้วยไม้ไผ่
• เจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา วันนี้ขอท่านทั้งหลายจงมารับคำขอขมาที่นำมาถวายด้วย หมู ไก่ เหล้าขอให้มากินชิ้นส่วนสำคัญที่นำมาถวายด้วยขอให้ทุกคนรอบพ้นจากอตรายรอบพ้นจากการเจ็บไข้ได้ป่วยขอให้ผลผลิตสวยงาม เขียวขจี ออกดอกออกผล
• เทพแห่งไฟเอย ไฟคือผู้ที่ร้อนที่สุด คือผู้ที่เผาไหม้ทุกสรรพสิ่ง วันนี้มาเลี้ยงเจ้า เจ้าจึงรับคำขอขมา ให้มากินชิ้นส่วนสำคัญที่นำมาถวาย แล้วดลบันดาลให้ข้าวในไร่สวยงาม เขียวขจี ออกดอกออกผล
หนึ่งในคำอธิฐานจิตของผู้นำจิตวิญญาณและเจ้าของไร่หมุนเวียนแปลงนั้นที่แสดงถึงการทดแทนบุญคุณเจ้าที่เจ้าทางในพื้นที่เหล่านั้น ที่ได้ให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์ รวมไปถึงขอบคุณธรรมชาติ ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ ที่เกื้อกูลให้พืชผลเจริญงอกงามให้มนุษย์และสัตว์ได้ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย
ณ. ที่แห่งนี้ ไร่หมุนเวียน บ้านแม่อมยะ ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เมล็ดพันธุ์ไร่หมุนเวียนกำลังเบ่งบาน ปีนี้บ้านแม่อมยะ ทำไร่หมุนเวียนแปลงใหญ่ 900 ไร่ โดยใช้กรรมสิทธิ์หน้าหมู่ แปลงรวม หรือ โฉนดชุมชน โดยระบบแปลงรวมนี้ีได้รักษาความหลากหลายทางเมล็ดพันธุ์ ทีมวิจัยชุมชนได้รวบรวมเมล็ดพันธุ์ในไร่หมุนเวียน พบว่า บ้านแม่อมยะ มีพันธุ์ข้าว และพืชผักชนิดอื่น ๆ ที่ปลูกในไร่หมุนเวียน รวมแล้ว 80 ชนิด
พื้นที่บ้านแม่อมยะ มีจำนวนประชากร 402 คน จำนวนครัวเรือน 63 หลังคา ผู้หญิง 178 คน ผู้ชาย 224 คน ร่วมกันดูแลรักษาผืนป่าแผ่นดินแม่ ที่เรียกว่า พื้นที่จิตวิญญาณ “ดูเส่อวอ เลอต่าโอะมู” จำนวน 15,664.51 ไร่ โดยใช้ความเชื่อเป็นเครื่องมือจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่มายาวนานกว่า 200 ปีตามหลักฐานการตั้งถิ่นตามประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ชุมชนที่วัฒนธรรมประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน กำลังได้รับความเดือดร้อนการประกาศพื้นที่ป่าตามกฏหมายทับพื้นที่ชุมชน ชุมชนบ้านแม่อมยะ เป็น 1 ใน 49 ชุมชน แม่ฮ่องสอน – ตาก ที่ได้รับผบกระทบจากการประกาศอุทยานแห่งชาติแม่เงา (เตรียมการ)
มาถึงตรงนี้เราเพียงอยากนำเสนอมิติของการดำรงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ ตาม มติ ครม. 3 สิงหาคม 2553 แนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ในประเด็น การจัดการทรัพยากร ข้อที่ 6 ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพในชุมชนบนพื้นที่สูง เช่น การรักษาความหลากหลายของการสร้างพันธุ์พืช การสร้างความมั่นคงทางอาหาร การสร้างความสมดุลของระบบนิเวศผ่านกระบวนการระบบ ”ไร่หมุนเวียนมรดกภูมิปัญญาโลก”
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
“ผ้าครามได้ขึ้นชื่อว่า #ราชาแห่งสี เพราะไม่มีสีชนิดใดที่มีความสัมพันธ์กับขนมธรรมเนียมและประเพณี เทียบเท่ากับสีคราม”
ตลาดน้ำกวางโจว สถานที่ท่องเที่ยวสุดชิลล์ใน ต. ยางน้ำกลัดเหนือ อ. หนองหญ้าปล้อง จ. เพชรบุรี แต่เดิมอุทยานน้ำตกกวางโจว ได้ถูกทำลายระบบนิเวศน์จนน้ำตกธรรมชาติแห้งแล้งขาดสมดุล แต่ในปี พ.ศ.2550 ได้มีการริเริ่มจัดทำโครงการฟื้นฟูพื้นที่นี่ขึ้นมาใหม่
เพราะว่ารักและใส่ใจ จึงมอบมื้ออาหารดีๆ แทนความรัก ต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์
กับ 5 คาเฟ่ออร์แกนิก ที่ทำด้วยใจ ใส่ใจ และคัดเลือกวัตถุดิบจากคนที่ผลิตด้วยหัวใจเหมือนกัน
“นายรอบรู้” ตั้งกล้องล็อกมุมเก็บภาพความงาม ณจุดชมทะเลหมอกบ้านบนนานับเป็นจุดไฮไลต์ของการชมทะเลหมอกที่ต้องมาสัมผัส
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ใครจะรู้บ้างบนเกาะหลีเป๊ะ จ. สูตล มีร้านอร่อยๆ รสชาติกลางๆ ไม่จัดจ้านมากซ่อนตัวอยู่ ในไอดีลลิก รีสอร์ต (Idyllic concept resort) ร้านนี้มีชื่อว่า “The Cove bistro”
หากคุณมาย่านพระโขนงแล้วกำลังมองหาร้านอาหารดีๆ อาหารอร่อย ราคาเป็นมิตร เราอยากแนะนำ เราภูมิในนำเสนอ หรือเราอยากโฆษณาให้คุณลองเดินเข้าไปในซอยสุขุมวิท 69 หรือซอยข้างไปรษณีย์พระโขนง แล้วจะพบกับร้าน Okinawa Kinjo ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอกินาว่า ที่ขอบอกเลยว่า ร้านนี้เป็นร้านแนะนำติดดาว 500 ดวง และเป็นร้านในดวงใจของเราจริงๆ
ใครแวะมาเดินแถวพาหุรัดแล้วรู้สึกหิว มาเติมพลังด้วยของอร่อยหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่างมีของกินให้เลือกมากมาย “นายรอบรู้”ขอคัดแบบเด็ดๆ มา 3 ร้านมาแนะนำกัน
เชียงใหม่ : มากล่าวคำอำลากับฤดูฝน แล้วพร้อมใจต้อนรับฤดูหนาวที่รอคอยกันดีกว่า ปีนี้ได้ข่าวว่าอากาศจะหนาวสุดขั้วหัวใจกว่าหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นมาเตรียมงัดเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอขนฟู ถุงมือนุ่มๆ ออกมารับมือกับอากาศหนาวๆ ละอองน้ำค้าง และสายหมอกยามเช้ากันได้เลย
© 2018 All rights Reserved.