
กินดี ไปกับ GREENDEE : สวนเงินมีมา
ใครที่ชื่นชอบการจิบกาแฟยามบ่าย พร้อมกินของว่าง และใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการกวาดสายตาบนหนังสือเล่มขนาดกระชับมือ ท่ามกลางบรรยากาศย่านเมืองเก่าที่ไม่มีความวุ่นวายเข้ามารบกวน ขอแนะนำร้านกรีนสบายๆ ชื่อ “สวนเงินมีมา”
ใครที่เคยมาจังหวัดน่านในฤดูหนาว แล้วต้องมนต์เสน่ห์ดินแดนขุนเขา สายหมอก คุณอาจจะเคยสัมผัสอากาศหนาว ดาวเต็มฟ้า แต่รู้ไหมว่า ความสวยงามตระการตาของ จ. น่าน นั้นอยู่ในหน้าฝน ในฤดูที่ความเขียวขจีปกคลุมไปทุกพื้นที่ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวสดตัดกับสายหมอกขาว สวยงามเกินบรรยาย
วันนี้ นายรอบรู้นักเดินทาง จึงถือโอกาสพาเที่ยว 5 ไฮไลค์ห้ามพลาด เมื่อมาเที่ยวน่านในหน้าฝน
เริ่มต้นกันที่วัดภูเก็ต ชื่อวัดนี้มีที่มาจาก “ภู” หรือ ภู หรือ ดอย ส่วน “เก็ต” นั้นมาจากบ้านเก็ต ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดภูเก็ตนั่นเอง วัดภูเก็ต จึงหมายถึงวัดที่ตั้งอยู่บน ภูเขาของบ้านเก็ต นั่นเอง
เมื่อเข้ามาสู่บริเวณวัดจะได้ยินเสียงดนตรีพื้นเมือง จากพ่ออุ๊ยที่คอยบรรเลงให้เราฟังระหว่างอยู่ในวัด เดินมาเรื่อยๆ จะพบกับพระอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์ ภายในประดิษฐสถานหลวงพ่อแสนปัว หรือหลวงพ่อพุทธเมตตา พระพุทธรูปที่ชาวบ้านเคารพนับถือ
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลค์คือทุ่งนาเขียวขจีด้านหลังวัด ที่มีฉากหลังเป็นดอยภูคา ภาพความสวยงามนั้นตระการตา ทุ่งนาที่ตัดกับขนำหลังน้อย สลับกับม่านหมอกที่อยู่เบื้องหลัง…ใครที่เห็นก็ต้องตกตะลึง
ถัดมาไม่ไกลคือ วัดร้องแง วัดที่มีศิลปะไทลื้องดงาม ชื่อวัดร้องแง มีที่มาจากคำว่า “ร่อง” หรือ ร่องน้ำ ส่วน “แง” มาจากต้นมะแง ต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายต้นส้ม
สิ่งที่น่าสนใจคือวิหารของวัดที่มีความสวยงาม หน้าบันประดับด้วยไม้ฉลุลายก้านขด แกะสลักรูปเทพพนม ภายในวิหารประดิษฐานพระประธานปูนปั้นฝีมือช่างพื้นบ้าน มีจิตรกรรมฝาผนังด้านหลังพระประธานเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ ยังมีธรรมาสน์บุษบกฐานปูนปั้น ตัวเรือนเป็นเครื่องไม้ ยอดเป็นปราสาทซ้อนชั้น นอกจากนี้ยังมีตุงล้านนาและดอกไม้พันดวง ประดับอยู่ภายในวิหารโดยรอบ ดูน่าชม
วัดร้องแงมีประเพณีถวายดอกไม้พันดวง ซึ่งจะจัดในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยชาวบ้านจะนำดอกไม้นาๆ ชนิดมาประดับไว้ในตะแกรงทรงสี่เหลี่ยมที่ทำจากไม้ไผ่สาน เรียกว่า ดอกไม้พันดวง หรือ ดอกไม้ปันดวง นำไปถวายวัดเพื่อเป็นพุทธบูชา และจะแขวนไว้ภายในวิหารจนกว่าจะถึงพิธีถวายดอกไม้ในปีหน้า ซึ่งเป็นประเพณีไทลื้อที่หาดูได้ที่วัดร้องแงที่เดียวเท่านั้น
มาต่อกันที่วัดต้นแหลง ซึ่งเป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี มีความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม ภายนอกของวิหารเป็นหลังคาทรงจั่วคลุมด้วยหลังคาทรงปีกนก ลักษณะคล้ายหงส์กางปีก หรือที่เรียกว่า สถาปัตยกรรมไทลื้อฮ่างหงส์
ภายในวิหารประดิษฐานหลวงพ่อมหานิโคตรฤกษ์เป็นพระประธาน มีธรรมาศน์บุษบกเก่าแก่ที่ยังใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมี หลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปสำริดองค์เล็ก ที่จะนำออกมาให้ชาวบ้านได้กราบไหว้เฉพาะช่วงวันปีใหม่เมือง หรือวันสงกรานต์ วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ปีละ 3 ครั้ง เท่านั้น
ว่ากันว่าเที่ยวหน้าฝนต้องมานอนโฮมสเตย์ และคงจะดีไม่น้อยหากการพักผ่อนของเรา มีทั้งธรรมชาติ กาแฟร้อนๆ และเรื่องราวน่ารักของชาวบ้าน
ที่สกาดดีโฮมสเตย์ นอกจากจะมีห้องพักแสนน่ารัก และวิวหลักล้าน ที่นี่ยังมี ชัยยินดิ์ สุมทุม อดีตคุณครูที่ผันตัวมาเป็นคนนำเที่ยว และเป็นเจ้าของโฮมสเตย์สกาดดีแห่งนี้
คุณชัยยินดิ์นั้นเป็นคนดอยสกาดแต่กำเนิด จึงมีเรื่องราวสนุกๆ ของคนสกาดเล่าให้ผู้มาเยือนอย่างเราฟัง ตั้งแต่พื้นเพของชาวบ้านที่เป็นชาติพันธุ์ลัวะ เรื่องราวของลัวะในประวัติศาสตร์ ไปถึงต้นกำเนิดของชาและเหมี้ยงที่คนเมืองอย่างเราอาจไม่รู้มาก่อน บทสนทนาของเจ้าบ้านที่เป็นกันเอง ประกอบกับกาแฟร้อน หรือชาร้อนสีชมพูทำให้พวกเราสนุกสนานเกินกว่าแค่การมานอนโฮมสเตย์ทั่วไป
ที่ดอยสกาดยังมีกิจกรรมอีกหลากหลาย ทั้งเดินเล่นชมหมู่บ้าน กิจกรรมเดินป่าแบบไปกลับและค้างคืน ที่ทำให้คุณสัมผัสดอยสกาดได้ตามแบบที่คุณชอบจริงๆ
บ่อเกลือเป็นอำเภอหนึ่งที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ ผืนนากว้างใหญ่เต็มไปด้วยต้นข้าวเขียวขจีที่ผลิใบแข่งกันทั่วทั้งทุ่ง หากคุณมีโอกาสมา อ. บ่อเกลือ แนะนำให้ตื่นแต่เช้า แล้วเดินเล่นชมวิวรอบ บ้านบ่อเกลือหลวง…รับรองจะฟินสุดๆ เลยคุณ
เราเริ่มเดินเล่นกันที่โรงเรียนบ้านบ่อหลวง ต. บ่อเกลือใต้ ท่ามกลางสายฝนปรอยๆ ในยามเช้า หมอกที่ไหลมากระทบกับสันเขานั้นสวยเกินบรรยาย เดินลัดเลาะเข้าไปตามถนนสายเล็กๆ ผ่านทุ่งนา หมู่บ้านหลังเล็กที่เรียงรายกันอย่างน่ารัก ในช่วงฤดูฝนเช่นนี้มองไปทางใดก็มีแต่ความชุ่มชื้น แม่น้ำมางที่มีน้ำไหลเต็ม ไปจนถึงเฟิร์นต้นน้อยที่บานสะพรั่งอย่างไม่เกรงใจพื้นถนนคอนกรีต
เดินเล่นชิลล์ๆ ชมบรรยากาศยามเช้า พอให้ร่างกายได้ยืดเส้นยืดสาย ท้องเริ่มหิว แล้วค่อยไปเอร็ดอร่อยกับมื้อเช้าก็คงจะดีไม่น้อย…ว่าไหม
ที่ตั้ง ต. บ่อเกลือใต้ อ. บ่อเกลือ จ. น่าน
ช่วงเวลาเช้าตรู่ เหมาะแก่การเดินเล่น ชมหมู่บ้านที่สุด
ลองมาเดินป่า ชมน้ำตกท่ามกลางฝนปรอยๆ ฟังเสียงสายน้ำ สัมผัสความเย็น คุณอาจหลงใหลน้ำตกสะปันจนโงหัวไม่ขึ้น
น้ำตกสะปัน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีน้ำไหลตลอดทั่งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนเช่นนี้ ความชุ่มชื้นทำให้ผืนป่าดูร่าเริงกว่าฤดูใด ทั้งต้นไม้ มอส เฟิร์น ต่างเบ่งบานแบบไม่น้อยหน้ากัน
การเดินทางเข้าสู่น้ำตกสะปันในหน้าฝนเช่นนี้จึงสะกดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชม เพราะเส้นทางชมน้ำตกที่ต้องเดินเท้าเข้าสู่น้ำตก ตลอดเส้นทางคุณจะพบกับต้นไม้น้อยใหญ่ เฟิร์นหลากหลายชนิด ที่ขึ้นเขียวครึ้มอยู่บนทางเดินคอนกรีต เป็นมุมน่ารักที่คือเสน่ห์ของน่าฝนจริงๆ
ที่ตั้ง ต. ดงพญา อ. บ่อเกลือ จ. น่าน
โทร 084 483 7240 อุทยานแห่งชาติขุนน่าน
ปิดท้ายทริปกันที่วัดพระธตุเขาน้อย มาไหว้พระขอพร พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ที่ประดิษฐานโดดเด่นอยู่บนยอดเขาน้อย องค์พระพุทธรูปปางประทานพรที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ดูแล้วเหมือนพระพุทธรูปกำลังมองลงไปสู่เมืองน่านเบื้องหน้า
คุณยังสามารถมาชมวิวเมืองน่านจากมุมสูงได้ที่จุดเดียวกันนี้ ทิวทัศน์ด้านบนนั้นมองเห็นตัวเมืองน่าน ที่มีทั้งวัดวาอาราม บ้านเรือน ทั้งที่เป็นของเดิมและสร้างใหม่ ตัดกับสีเขียวชอุ่มของภูเขาและผืนป่าที่เป็นฉากหลัง เป็นภาพที่สวยงามชวนหลงใหลเหลือเกิน
ที่ตั้ง ต. ผาสิงห์ อ. เมืองน่าน จ. น่าน
เปิด 06.00 – 18.00น.
โทร 054 772 622
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ใครที่ชื่นชอบการจิบกาแฟยามบ่าย พร้อมกินของว่าง และใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการกวาดสายตาบนหนังสือเล่มขนาดกระชับมือ ท่ามกลางบรรยากาศย่านเมืองเก่าที่ไม่มีความวุ่นวายเข้ามารบกวน ขอแนะนำร้านกรีนสบายๆ ชื่อ “สวนเงินมีมา”
พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน จัดงานรื่นรมย์ชมวังปารุสก์ “เปิดประตูสู่กาลเวลา”
ในระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อย้อนรำลึกถึงวิถีชีวิตของคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สืบสานวัฒนธรรมอันดีงามให้คงอยู่คู่สังคมไทย
น่านวันนี้ ก้าวสู่ความเป็นเมืองท่องเที่ยวสไตล์เนิบ เนิบ สโลว์ไลฟ์ เหมาะสำหรับการพักกายพักใจ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องเร่ง หนึ่งในบรรยากาศสบายๆ กับการได้นั่งจับเครื่องดื่มแก้วโปรด รื่นรมย์ในบรรยากาศหลากหลาย เมืองน่านก็มีร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีทั้งกาแฟดีและสิ่งละอันพันละน้อยที่น่าค้นหา ล้วนแล้วแต่มีแนวทางของตัวเองหลายแห่ง อยากรู้ใช่ไหมลองไปแวะดูสิ
“นายรอบรู้” ขอแนะนำร้านอร่อยใน จ. ลำปางที่ส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมือง มีทั้งร้านกาแฟและเบเกอร์รี่น่ารักๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นยักษ์อันเป็นเอกลักษณ์ของลำปาง ร้านอาหารพื้นเมืองอย่างข้าวซอยที่มีให้เลือกหลายเจ้าหลายรสชาติ หรือร้านบรรยากาศดีๆ ที่เหมาะไปนั่งกินมื้อเย็น รวมถึงร้านข้าวต้มรอบดึกเจ้าดังประจำจังหวัด
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
จะดีแค่ไหนถ้าได้กินอาหารอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี “นายรอบรู้” ขอแนะนำร้านโป่งแยงแอ่งดอย ร้านอาหารที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาลำเนาไพรและมองเห็นวิวน้ำตกแม่สาที่ไหลผ่านตลอดปี
ประตูรั้วสีเขียวที่วางตัวอย่างเรียบง่ายและกลมกลืนกับต้นไม้ใหญ่ย่านเอกมัย ถูกเปิดออกและเผยให้เห็นความร่มครึ้มของพื้นที่ภายใน บ้านหลังเล็กที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณและผลงานศิลปะชั้นครู คือบ้านของ 1 ใน 52 นายช่างเอกในรอบ 200 ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ใครที่ชื่นชอบผลงานศิลปะหรือภาพกราฟฟิตี้เท่ ๆ ต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปเช็คอินกันที่ Los Atico บาร์สไตล์เม็กซิกันแห่งใหม่ย่านสุขุมวิท ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารเม็กซิกันคู่กับค็อกเทลและเตกีล่าหลากสไตล์ ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งร้านที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยผลงานศิลปะกราฟฟิตี้สุดคูลจากสามศิลปินชื่อดังในไมอามี่
เปิดศักราชใหม่มาเดือนกว่าแล้ว ถ้าคุณยังรู้สึกว่าดวงของตัวเองยังไม่ปัง ความพังในชีวิตยังไม่หมด นายรอบรู้ นักเดินทาง ขอพาทุกคนมาขอพรกับ 3 วัดดัง 2 ศาลเจ้า สุดปังใกล้กรุงฯ ที่อาจจะเปลี่ยนให้ปีนี้เป็นปีทองของคุณอย่างแน่นอน
© 2018 All rights Reserved.