
Pacamara Coffee Roasters x Specialty Coffee Lab
ในยามบ่ายกลางสายฝนเราพาตัวเองไปนั่งจิบกาแฟ ชมภาพถ่ายขาวดำที่ทำให้ใจชุ่มเย็น ในร้านพาคามารา สาขาใหม่ล่าสุดที่ทองหล่อ
ช่วงเดือนแห่งความรักแบบนี้ หลายคนคงมองหาสถานที่สวยๆ เพื่อพาคนรักและครอบครัวไปพักผ่อน
“นายรอบรู้” ขอแนะนำ 3 จุดเช็คอินเชียงใหม่ ที่ไม่ว่าจะมาเดือนไหน ก็สนุกครบรส ไม่มีตกเทรนด์
สวนดอกไม้ที่กำลังเป็นกระแสที่สุดบนโลกโซเชียลตอนนี้ คงนี้ไม่พ้นสวนดอกมากาเร็ต ที่ อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ ทั้งดาราซุปตาร์ตัวแม่ ยังไปโพสต์ท่าถ่ายรูปเก๋ๆ ท่ามกลางสวนดอกมากาเร็ต โพสต์ลง IG เรียกยอด Like แบบถล่มทลาย ส่วนใครที่ไม่อยากตกเทรนด์ต้องรีบมาถ่ายรูปเช็คอินกันนะ
สวนดอกไม้ที่ อ. แม่ริม มีนับสิบๆ สวนที่เปิดให้เข้ามาโพสต์ท่าถ่ายรูป แต่ละสวนก็จะอยู่ในละแวกเดียวกันหมด บางสวนถึงกับต้องจองล่วงหน้าเพราะเขามีบริการเซ็ต Afternoon Tea ให้นั่งจิบชาสไตล์ผู้ดีอังกฤษท่ามกลางสวนดอกไม้ แต่สวนส่วนใหญ่ไม่ต้องจอง walk in เข้าไปได้เลย “นายรอบรู้” ขอแนะนำ We Flower Village สวนของป้าเอี้ยง เป็นสวนดอกไม้ที่ตั้งอยู่ที่บ้านดอนตัน หมู่ 5 ต. เหมืองแก้ว อ. แม่ริม ที่เต็มไปด้วย ดอกมากาเร็ตทั้งสีม่วง สีชมพู และสีขาว ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งสวยงามเต็มทุ่งกว้าง แถมยังมีพร็อพสวยๆ อย่างเปียโนสีขาวตั้งโดดเด่นอยู่กลางทุ่ง ให้โพสต์ท่าถ่ายรูปสวยๆ ไว้โพสต์บนโซเชี่ยล ยังมีซุ้มน้ำชาให้นั่งโพสต์ท่าเหมือนจิบชาท่ามกลางทุ่งดอกไม้ มีตู้โทรศัพท์สีแดงสวยแข่งกับสีสันของดอกไม้ และมีร่มล้านนาให้เดินถือบังแดด และเป็นพร็อพถ่ายรูปได้อีกด้วย อากาศที่เย็นสบายบวกกับวิวสวนดอกไม้ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งกว้างเป็นภาพสุดประทับใจ ที่ต้องมาถ่ายรูปเช็คอินให้ได้สักครั้งในชีวิต
บ้านดอนตัน หมู่ 5 ต. เหมืองแก้ว อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่
ตรอกเล่าโจ๊ว ถนนสายเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณกาดหลวง หรือตลาดวโรรสซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี แล้ว โดยถนนเส้นนี้มีชื่อเรียกว่าเป็น “ถนนไชน่าทาวน์ของเชียงใหม่” แต่ชื่อจริงๆ นั้นคือ “ถนนข่วงเมรุ” ซึ่งหมายถึงสถานที่ตั้งกู่อัฐิของเจ้าหลวงเชียงใหม่ ก่อนที่จะย้ายไปวัดสวนดอก
ตรอกเล่าโจ๊ว มีศาลเจ้ากวนอู เป็นศูนย์กลางความศรัทธาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ที่เข้ามาค้าขายกับคนเชียงใหม่ตั้งแต่บรรพบุรุษและตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่นี้ มากกว่า 100 ปี และเป็นอีกย่านเศรษฐกิจที่สำคัญของชาวเชียงใหม่มาช้านาน โดยในพื้นที่แน่นขนัดไปด้วยร้านค้ามากมายหลายประเภท ทั้งร้านขายผ้าฝ้ายลายสวยแบบเป็นม้วน แบ่งขายเป็นเมตรสำหรับผู้ที่ชื่นชอบผ้าฝ้าย ร้านขายเสื้อผ้าดีไซต์เก๋ที่ตัดเย็บจากผ้าพื้นเมือง ผ้าย้อมฮ่อมและผ้าย้อมคราม มีร้านขายปิ่นโตและภาชนะเครื่องเคลือบ เครื่องสังกะสี แบบวินเทจ ร้านขายเครื่องจักสานหลากดีไซต์ที่ทำจากหวายและไผ่ อย่างหมวก กระเป๋า รองเท้า โคมไฟ เป็นต้น
ตรอกเล่าโจ๊วยังเชื่อมต่อกับ “กาดม้ง”ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบงานฝีมือสไตล์ชนเผ่า กาดม้ง คือตลาดผ้าพื้นเมืองพี่น้องชาวม้ง เป็นที่รวบรวมสารพันเครื่องสวมใส่หลากหลายชาติพันธุ์ ที่มีทั้งเสื้อผ้า กางเกง กระโปรง รวมไปถึงเครื่องประดับอย่างเครื่องเงิน ทั้งหมวก สร้อย ต่างหู กำไลข้อมือ รวมไปถึงรองเท้า มีครบตั้งแต่หัวจรดเท้า
เรียกว่าเดินเพลินๆ ได้ทั้งวัน ถนนสายนี้ถือเป็นสวรรค์ของนักช็อปงานคราฟต์ และสินค้าพื้นเมืองเลยล่ะ
ไม่ว่าจะมาเวลาเช้า สาย บ่าย อากาศก็เย็นสบายจนถึงหนาวเหน็บ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เป็นทางเดินยาวถึง 3 กิโลเมตร และมีทางเดินเลาะเลียบสันเขามองเห็นแนวเมฆอยู่ระดับเดียวกับสายตา ใครมาเช้าต้องมาเฝ้ารอแสงแรกของวันที่จุดชมทิวทัศน์ กม. ที่ 42 ด้านหน้าทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่งของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
พอถึงเวลาเปิดเส้นทางเราก็ตามไกด์ชาวม้งเข้าไป เดินไม่กี่ก้าวก็เจอผืนป่าสีเขียวสวยงามร่มรื่น ป่าชุ่มชื้นตามใบไม้มีน้ำค้างเกาะพราวไปทั่ว แสงสว่างอันน้อยนิดทำให้ผืนป่าดูครึ้มมืด ทั้งเต็มไปด้วยสายหมอกจนดูพร่าเลือนราวกับอยู่ในความฝัน ไกด์บอกว่าป่าประเภทนี้คือป่าดิบเขาระดับสูง พบเฉพาะพื้นที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 2,000 เมตรขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งในประเทศไทยพบเพียงไม่กี่แห่ง ด้วยพื้นที่ป่านี้อยู่สูงระดับเดียวกับก้อนเมฆ จึงมีอีกชื่อเรียกว่า “ป่าเมฆ” ซึ่งมีความชื้นสูงมากและอากาศหนาวเย็น พืชพรรณที่ชอบอากาศชื้นจึงเติบโตงอกงามขึ้นปกคลุมไปทั่ว โดยเฉพาะมอสส์และเฟินที่มีกว่า 100 ชนิด บนเส้นทางมีน้ำตกขนาดเล็กไหลผ่านผาหิน เดินต่ออีกไม่ไกล สภาพป่าก็เปลี่ยนไปเป็นทุ่งหญ้าโล่งที่หน้าผาปลายสุดท้องทุ่งมีแนวเมฆสีขาวทอดตัวยาวไกลสุดตา พวกเราอยู่สูงกว่าเมฆ ใกล้แทบจะเอื้อมมือจับก้อนสีขาวเหมือนปุยนุ่นนั้นได้ และรับรู้ถึงความเย็นชื่นอย่างที่ไม่อาจสัมผัสได้
ความสนุกยังไม่จบสิ้น ใครยังแรงเหลือต้องเดินต่อมาตามสันเขาที่เรียกว่า “กิ่ว” (แปลว่าแคบ) ซึ่งเป็นส่วนที่แคบที่สุดของภูเขาด้านขวามือคือหน้าผาที่มองเห็นเทือกเขาทอดยาวอยู่เบื้องล่าง ส่วนด้านซ้ายเป็นทุ่งหญ้าที่พบพันธุ์ไม้หายากขึ้นแซมตลอดทาง พันธุ์ไม้เด่นสุดเป็นกุหลาบพันปี ดอกสีแดงสดของมันตัดกับท้องฟ้าสีเข้มอย่างโดดเด่น เส้นทางช่วงสุดท้ายเรากลับเข้ามาในป่าดิบเขาอีกครั้ง ไกด์ให้หยุดนิ่งฟังเสียงป่า ฟังเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว เสียงน้ำไหลในลำธาร สรรพเสียงสอดประสานเป็นท่วงทำนองของธรรมชาติฟังรื่นรมย์คงไม่มีใครรู้หรอกว่าสวรรค์หน้าตาเป็นเช่นไร แต่ถ้ามีใครให้บรรยายภาพสวรรค์ในจินตนาการ เราจะนึกถึงกิ่วแม่ปานเป็นลำดับแรก !
ต. บ้านหลวง อ. จอมทอง จ. เชียงใหม่
เปิดให้เข้าชมเวลา 06.30-16.30 น.
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ในยามบ่ายกลางสายฝนเราพาตัวเองไปนั่งจิบกาแฟ ชมภาพถ่ายขาวดำที่ทำให้ใจชุ่มเย็น ในร้านพาคามารา สาขาใหม่ล่าสุดที่ทองหล่อ
เต้าหู้ดำแม่เล็ก เจ้าแรก เจ้าเดิม เจ้าอร่อย แห่งโพธาราม หากจะพูดถึงอาหารที่เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่กินง่าย แถมได้ประโยชน์อีกก็คงจะหนีไม่พ้น “เต้าหู้” เต้าหูทั่วไปที่รู้จักจะมีสีขาว หรือ สีเหลือง แต่ เต้าหู้ดำแม่เล็ก นั้นมีสีดำ!! ซึ่งเป็นเจ้าแรกของอำเภอโพธาราม “นายรอบรู้” ขอพาคุณไปรู้จักและลองชิมว่าเต้าหูดำของร้านนี้จะดำและอร่อยขนาดไหน….. ร้านแม่เล็กเปิดขายยาวนานมากกว่า 50 ปี มีลักษณะภายนอกสีดำ แต่ภายในสีขาวนวล ทำโดยนำเต้าหู้ก้อนไปต้มกับเครื่องสมุนไพร เวลารับประทานจะมีสัมผัสที่อ่อนนุ่ม กัดเข้าไปจะมีน้ำออกมากจากตัวของเต้าหูดำ หอมกลิ่นเครื่องพะโล้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเนื้อเต้าหู้มีความพิเศษคือไม่ใส่แป้ง ทำให้ต้มแล้วเนื้อเต้าหู้นุ่ม ไม่เสียง่าย เก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน
เพื่อนหญิงคนหนึ่งของผมเคยลั่นวาจาไว้เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน สมัยที่เราทั้งกลุ่มยังเป็นนักเรียนอุดมศึกษาร่วมชั้น แล้วทุกเที่ยงวันก็เที่ยวตระเวนกินหมี่เนื้อวัวตุ๋นน้ำแดง ลาบ – น้ำตกแซ่บๆ เนื้อย่างติดมันตามร้านข้างทาง หรือบางทีก็เป็นผัดพริกกะเพราเนื้อสับรสเผ็ดจัดจ้านที่เราผลัดกันไปทำกินที่ครัวบ้านเพื่อนคนนั้นทีคนนี้ที, เธอว่า “…ชีวิตนี้ถ้าชั้นกินเนื้อ (วัว) ไม่ได้เมื่อไหร่ ต้องแย่แน่ๆ เลย…”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยสู่มิติใหม่ สะท้อนสัญญาณความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 40 ประจำปี 2565”ระหว่างวันที่ 18 – 22 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย 2565 และ “Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters” มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ปลอดภัย ประทับใจ และแตกต่าง ผสานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับเทคโนโลยีการท่องเที่ยวที่พร้อมชูมาตรการสาธารณสุขจัดงานรูปแบบ Covid Free Event
© 2018 All rights Reserved.