กรุงเทพมหานคร

กรุง​เทพฯ ดุจ​เทพสร้าง เมืองศูนย์กลาง​การปกครอง วัด วัง งาม​เรืองรอง เมืองหลวงของประ​เทศ​ไทย

เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2325 พระองค์ได้ย้ายศูนย์กลางการปกครองจากธนบุรีข้ามมายังฝั่งตะวันออกหรือฝั่งที่ตั้งพระบรมมหาราชวังในปัจจุบัน การสร้างพระนครแห่งใหม่แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2328 พระราชทานนามเมืองใหม่ว่า “กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์ฯ” ในสมัยรัชกาลที่ 4 ปรับเป็น “กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ฯ” กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการปกครองและศูนย์กลางความเจริญมาจนปัจจุบัน

กรุงเทพมหานครมีอาณาเขตทางบกติดต่อกับจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนอาณาเขตทางทะเลอ่าวไทยตอนใน ติดต่อจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดชลบุรี โดยมีรายละเอียดดังนี้

ทิศเหนือ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี

ทิศตะวันออก มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดฉะเชิงเทรา

ทิศใต้ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดสมุทรปราการและอ่าวไทย (ส่วนที่เป็นอ่าวไทยที่เป็นพื้นที่เดิมของจังหวัดธนบุรี ปัจจุบันคือเขตบางขุนเทียน ซึ่งมีอาณาเขตทางทะเลติดต่อทางอ่าวไทยกับจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ จุดที่อยู่ใต้สุดอยู่ที่ละติจูด 13 องศา 13 ลิปดา 00 ฟิลิปดาเหนือ, ลองจิจูด 100 องศา 27 ลิปดา 30 ฟิลิปดาตะวันออก ซึ่งเป็นการแบ่งตามพระราชบัญญัติกำหนดเขตจังหวัดในอ่าวไทยตอนใน พ.ศ. 2502)

ทิศตะวันตก มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดนครปฐม

 

ตราประจำจังหวัด

        

พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ที่ตั้ง : อยู่บน ถ. หน้าพระลานเขตพระนคร
เป็นสัญลักษณ์ของศูนย์กลางของฝ่ายอาณาจักรและฝ่ายพุทธจักรรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้ถ่ายแบบผังพระราชวังหลวงในกรุงศรีอยุธยามาใช้มีพื้นที่ทั้งหมด 152 ไร่ 2 งานแบ่งออกเป็นสามส่วน คือพระราชฐานชั้นนอก เป็นที่ตั้งของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) และหน่วยงานราชการรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระอารามหลวงหรือวัดประจำวังขึ้น คือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในเขตพระราชฐานเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ในพระราชวังหลวงสมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนา มักเรียกกันว่า วัดพระแก้ว เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตหรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร วัดพระแก้วไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา  พระราชฐานชั้นกลาง เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และใช้ประกอบพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกและพระราชฐานชั้นใน เป็นที่ประทับของพระมเหสีเจ้าจอม และพระราชธิดาส่วนพระราชฐานชั้นกลางนั้นมีพระที่นั่งที่น่าสนใจ เช่น พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นที่เก็บพระอัฐิของพระมเหสีและพระบรมวงศานุวงศ์บางพระองค์ และเป็นสถานที่รับรองทูตานุทูตจากต่างแดนที่มาเข้าเฝ้า พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพของกษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เป็นที่ประดิษฐานพระสยามเทวาธิราช เป็นต้น

วัดอรุณราชวรราม (วัดแจ้ง)

ที่ตั้ง : อยู่บน ถ. อรุณอัมรินทร์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่
เป็นวัดเก่าแก่มีมาแต่ครั้งอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอกนอก ในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นวัดในพระราชวังของพระองค์ที่เรียกว่าพระราชวังเดิม วัดอรุณฯ ได้รับการบูรณะมาโดยตลอด โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้เสริมองค์ปรางค์เดิมให้สูงใหญ่มั่นคงยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นมหาธาตุสำหรับพระนคร ทว่ามาเสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

ที่ตั้ง : อยู่ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ถ. หน้าพระธาตุ เขตพระนคร
เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของวังหน้าในเขตพิพิธภัณฑ์มีพระที่นั่งหลายองค์ แต่ละพระที่นั่งจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ เช่น พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน จัดแสดงเรื่องราวยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์และเครื่องราชบรรณาการที่กษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ทรงได้รับมา พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ซึ่งอัญเชิญมาจากเชียงใหม่ พระที่นั่งพิมุขมณเฑียรจัดแสดงเครื่องราชยานและคานหามพระที่นั่งทักษิณาภิมุข จัดแสดงเครื่องการละเล่นต่างๆ เช่น หุ่น หัวโขน หนังใหญ่ เครื่องแต่งกายละคร ฯลฯ พระที่นั่งวายุสถานอมเรศ จัดแสดงเครื่องราชูปโภค พระพุทธรูป พระพิมพ์ต่างๆ

วัดบวรนิเวศวิหาร

ที่ตั้ง : อยู่บน ถ. พระสุเมรุแขวงบางลำพู เขตพระนคร
กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพทรงสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2367-2375 ในสมัยรัชกาลที่ 3 พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระอนุชาคือเจ้าฟ้ามงกุฎ (หรือรัชกาลที่ 4) ซึ่งยังทรงผนวชอยู่ มาจำพรรษา ณ วัดนี้ และเปลี่ยนชื่อวัดใหม่ดังเช่นปัจจุบัน ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินสีห์ซึ่งอัญเชิญมาจากวัดพระศรีรัตมหาธาตุ จ. พิษณุโลก และหลวงพ่อโตหรือพระพุทธสุวรรณเขตจากวัดสระตะพาน จ. เพชรบุรี และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือภาพจิตรกรรมผลงานของขรัวอินโข่ง ศิลปินชั้นยอดสมัยรัชกาลที่ 4

เริ่มแล้ว! ททท. จัดเต็มแสง เสียง กับงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร” ดึงเทคโนโลยีล้ำสมัย สะท้อนศิลปะและความเชื่อคนไทย ใน 3 พื้นที่แลนด์มาร์ก กรุงเทพมหานคร
News

ททท. จัดงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร”

เริ่มแล้ว! ททท. จัดเต็มแสง เสียง กับงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร” ดึงเทคโนโลยีล้ำสมัย
สะท้อนศิลปะและความเชื่อคนไทย ใน 3 พื้นที่แลนด์มาร์ก กรุงเทพมหานคร

News

นิทรรศการ “Allegory ชาดก”

เพราะ “ชาดก” ที่เราเคยได้ยินได้ฟังมานั้น คือนิทานหรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ที่เต็มไปด้วยคำสอนโดยเล่าผ่านตัวอักษร รวมถึงการพูดต่อๆ กันมา 
“นายรอบรู้” อยากชวนทุกคนไปชม “ชาดก” ที่เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวที่ต่างออกไป กับ “นิทรรศการศิลปะ ชาดก” เป็นนิทรรศการเดี่ยว ครั้งที่ 8 ของวีรพงษ์ ศรีตระกูลกิจการ หรือที่รู้จักกันว่า “อายิโน๊ะ”

Travel

เที่ยวงานวัดบางยี่ขัน ชมจิตรกรรมงานชั้นครูในพื้นที่บ้านสวนฝั่งธนฯ

สำหรับงานวัดบางยี่ขันจัดขึ้นทุกปีในช่วงวันมาฆบูชา เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ภายในคึกคักไปด้วยเครื่องเล่น อาหารการกิน เด็กในชุมชนวิ่งเล่นกันสนุกสนาน มีทั้งเสียงหัวเราะและคราบน้ำตาของเด็กที่งอแงจะเอาของเล่น เป็นสีสันของงานวัดกับเด็กน้อยที่ไม่เคยเลือนหายไปไหน

Eat

สมศักดิ์ปูอบ ยืนหนึ่งเรื่องความสด

จากคนสู้ชีวิตที่ทำงานรับจ้างตามร้านอาหารกว่า 20 ปี เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเริ่มสร้างกิจการด้วยการเปิดร้านอาหาร ทั้งลองผิดลองถูก ล้มลุกคลุกคลานจนมาเป็นร้านสมศักดิ์ปูอบที่มีคิวยาวเหยียด สมศักดิ์ ศรีแก้วฟ้าทอง หรือเฮียสมศักดิ์ ขายหอยแครงลวกและหอยแมลงภู่อบมาตั้งแต่ปี 2528 ตั้งร้านเป็นรถเข็นริมทาง มีโต๊ะให้นั่งแค่สองโต๊ะเท่านั้น พอขายดีมีทุนก็ทยอยซื้อโต๊ะเพิ่ม และเริ่มขายปูอบวุ้นเส้น และกุ้งอบวุ้นเส้น เคล็ดลับที่ทำให้ขายดิบขายดีคือความมานะและซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ด้วยเน้นแต่ของดีมีคุณภาพ ปูทะเลทั้งปูเนื้อและปูไข่ทางร้านสั่งปูเป็นๆ จากมหาชัยวันต่อวัน ทุกตัวกล้ามแน่น เนื้อสด รสหวาน ส่วนกุ้งอบวุ้นเส้นก็ใช้กุลาดำบิ๊กไซต์ “สี่ตัวโล” อบทีละหม้อ วุ้นเส้นสั่งพิเศษโดยเน้นส่วนผสมของถั่วเขียวมากกว่าแป้ง จึงเหนียวนุ่ม เมื่อผสมกับน้ำปรุงและน้ำมันหอยสูตรเฉพาะได้รสเข้มข้นจนอยากเลียให้เกลี้ยงหม้อเลยละ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดที่โขลกพริกกระเทียมบีบมะนาวสดใหม่ทุกวันและน้ำจิ้มถั่วรสหวาน

Eat

ส้มตำอุทุมพร สุดแซ่บย่านบางลำพู

แม้จะเป็นร้านรถเข็นดูบ้านๆ ไม่ได้โด่งดังมีชื่อในวงกว้าง แต่ก็จอดขายส้มตำอยู่ข้างธนาคารกสิกรไทย สาขาบางลำพู มานานกว่า 25 ปี ลูกค้าในละแวกต่างรู้จักกันดีแถมการันตีว่า อร่อย ถูก คุณภาพคับจาน พี่ใจ-อุทุมพร สาวอีสานมหาสารคาม เคยคว้ารางวัลชนะเลิศจากการเข้าร่วมแข่งขัน “สูตรเด็ดส้มตำ” ของทางช่อง 3 สูตรเด็ดอยู่ที่การเลือกใช้พริกถึงสามชนิด ทั้งพริกแห้ง พริกขี้หนู และพริกกะเหรี่ยง ส่วนปลาร้าก็ต้มสุกปรุงรสด้วยกะปิจนกลมกล่อมหอมฉุย ที่ขาดไม่ได้คือมะนาว ไม่ว่าจะถูกจะแพงพี่ใจก็ใช้มะนาวสดเท่านั้น เมนูห้ามพลาดคือตำผลไม้ ตำข้าวโพดไข่เค็ม ตำปลาร้าหมูยอ ตำซั่ว ตำลาว และไม่ว่าจะสั่งตำอะไร

Eat

ลิ้มเล่าซา ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเต้นได้

จากซัวเถาโล้สำเภามาแบบเสื่อผืนหมอนใบ บุ้นแซ แซ่ลิ้ม เจ้าของสูตรลูกชิ้นปลาเต้นได้ ส่งไม้ต่อมายังรุ่นลูกคือตั่ว-พรพิมล บริบูรณ์ชัยศิริ ที่ยังคงรักษาคุณภาพและเคล็ดลับการทำลูกชิ้นปลาให้เนื้อแน่น กรอบ เด้งราวเต้นได้ กว่า 68 ปี ในตรอกเล็กๆ บนถนนทรงวาด ร้านลิ้มเล่าซาคึกคักไปด้วยลูกค้าขาประจำ บ้างอุดหนุนมาตั้งแต่รุ่นพ่อ จนตอนนี้หอบลูกจูงหลานมากินด้วย รสชาติกลมกล่อมคงเส้นคงวาทำให้กูรูนักชิมจากหลายสำนักต่างแวะเวียนมาให้รางวัลการันตีความอร่อย จนล่าสุดได้รางวัล ‘Michelin Bib gourmand ปี 2019’ ทีเด็ดอยู่ที่ลูกชิ้นปลาทำใหม่สดทุกวัน เลือกใช้เฉพาะปลาดาบยาวและปลาหางเหลือง ขูดเอาแต่เนื้อแล้วผสมเข้าด้วยกัน บด นวด ให้เป็นเนื้อเดียวจนได้ลูกชิ้นปลาแท้

Previous
Next

Guide ใกล้ : Application คู่ใจคนชอบท่องเที่ยวตัวจริง

Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว