
9 ร้านสตรีตฟู้ดในตำนาน
Growing Diversity Shop & Cafe หรือร้านกินเปลี่ยนโลกคาเฟ่และช็อป “เป็นเสมือนประตูให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาสัมผัสกับความคิดและกิจกรรมของชีววิถี”
จากซัวเถาโล้สำเภามาแบบเสื่อผืนหมอนใบ บุ้นแซ แซ่ลิ้ม เจ้าของสูตรลูกชิ้นปลาเต้นได้ ส่งไม้ต่อมายังรุ่นลูกคือตั่ว-พรพิมล บริบูรณ์ชัยศิริ ที่ยังคงรักษาคุณภาพและเคล็ดลับการทำลูกชิ้นปลาให้เนื้อแน่น กรอบ เด้งราวเต้นได้
กว่า 68 ปี ในตรอกเล็กๆ บนถนนทรงวาด ร้านลิ้มเล่าซาคึกคักไปด้วยลูกค้าขาประจำ บ้างอุดหนุนมาตั้งแต่รุ่นพ่อ จนตอนนี้หอบลูกจูงหลานมากินด้วย รสชาติกลมกล่อมคงเส้นคงวาทำให้กูรูนักชิมจากหลายสำนักต่างแวะเวียนมาให้รางวัลการันตีความอร่อย จนล่าสุดได้รางวัล ‘Michelin Bib gourmand ปี 2019’
ทีเด็ดอยู่ที่ลูกชิ้นปลาทำใหม่สดทุกวัน เลือกใช้เฉพาะปลาดาบยาวและปลาหางเหลือง ขูดเอาแต่เนื้อแล้วผสมเข้าด้วยกัน บด นวด ให้เป็นเนื้อเดียวจนได้ลูกชิ้นปลาแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื้อแน่นเด้งแบบไม่ผสมแป้งและบอแรกซ์ ยังมีเกี๊ยวปลาที่ปั้นด้วยมือทุกขั้นตอน ตั้งแต่นวดเนื้อปลาเป็นแผ่นแล้วใส่เนื้อหมูปรุงรสห่อเป็นตัวเกี๊ยวใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง รวมทั้งฮื่อก้วยก็ทำเองทั้งหมด
แนะนำให้สั่งบะหมี่แห้ง เป็นบะหมี่ไข่เส้นแบนสูตรพิเศษราดซอสจิ๊กโฉ่วหมักสมุนไพรจีน หรือจะสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำก็หวานซุปเอียเล้ง เส้นอื่นๆ ก็น่าลิ้มลอง เส้นใหญ่ยังทำจากข้าวสาลี เส้นเล็กใช้เส้นจันท์ ลวกแล้วเหนียวนุ่มไม่เละ
ใครจะมาลิ้มลองขอแนะนำให้โทรถามล่วงหน้าจะได้ไม่เสียเที่ยว เพราะร้านนี้มีวันหยุดไม่ประจำ และรับออกงานนอกสถานที่ด้วย
ที่ตั้ง ถ. ทรงวาด แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
เปิด 18.00-22.00 น.
โทร. 081-339-1299, 081-551-493, 02-212-6541
(โทรถามล่วงหน้า ร้านมีวันหยุดไม่ประจำ)
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
Growing Diversity Shop & Cafe หรือร้านกินเปลี่ยนโลกคาเฟ่และช็อป “เป็นเสมือนประตูให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาสัมผัสกับความคิดและกิจกรรมของชีววิถี”
นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักกุยช่ายหนุ่มผมยาวแห่งตลาดพลู ซึ่งโด่งดังในโลกโซเชียลฯ ด้วยปรากฏการณ์ขายกุยช่าย 500 กว่าลูกในเวลาเพียงไม่ถึงยี่สิบนาทีก็หมดเกลี้ยง ทุกเที่ยงครึ่ง พี่ง้วง-อธิศ เจ้าของฉายา ‘กุยช่ายหนุ่มผมยาว’ เข็นรถเข็นคันเล็กขนาดพอวางหม้อสแตนเลสใบใหญ่พร้อมกล่องใส่ถุงบรรจุซอสสูตรเข้มข้นเผ็ดหน่อยๆ จอดใต้สะพานข้ามแยกตลาดพลู ลูกค้าบางคนมารอต่อคิวก่อนกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อให้ได้คิวลำดับต้นๆ บางคนมาเป็นวันที่ 3 เพิ่งถึงคิวลุ้นใจจดใจจ่อยิ่งกว่าลุ้นหวย ทีเด็ดเคล็ดลับของเจ้านี้คือพิถีพิถันทำแบบโฮมเมดทุกขั้นตอน มีเพียงกุยช่ายและเผือกขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ลูกละ 50 สตางค์ ปรับราคาตามยุคสมัยจนมาถึงรุ่นพี่ง้วงคือลูกละ 10 บาท ปรับสูตรให้แป้งบางขึ้น แต่เหนียวนุ่ม ไส้แน่น รสกลมกล่อมเหมือนเดิม
พิษณุโลก จังหวัดนี้มีแต่ของอร่อย หากใครไม่ได้มาบ่อยๆ ก็คงคิดว่าที่นี่ไม่มีอะไรให้เลือกกินสักเท่าไหร่ งั้นครั้งนี้ “นายรอบรู้” จะพาไปแนะนำพิกัดของกินอร่อยสุดว้าวในตัวเมือง จะกินมื้อกลางวันก็ดี กลางคืนก็ได้
ข้าวแกงในตำนานย่านเยาวราช เสิร์ฟความอร่อยมาตั้งแต่รุ่นอากงหาบขาย มีเก้าอี้ไม้ทรงเตี้ยให้ลูกค้านั่งกินข้างหาบ ส่งต่อเคล็ดลับสู่รุ่นลูกคือเจ๊เฉี๋ย-ทัศนีย์ ธนัญชัยกุล ปัจจุบันดูแลโดยทายาทรุ่นที่ 3 คือเฮียนัท-ธรรมรัตน์ ธนัญชัยกุล จากหาบเปลี่ยนเป็นรถเข็น จากเก้าอี้ไม้กลายเป็นเก้าอี้พลาสติกสีแดงตั้งเรียงรายริมทางเท้า เก้าอี้แดงเด่นหน้าบานเฟี้ยมสีเขียวซีดที่เต็มไปด้วยใบปิดโฆษณาเลือนรุ่ยหลุดลอกตามกาลเวลา เป็นภาพสุดคลาสสิกของร้าน แต่ไม่กี่เดือนมานี้ทั้งรถเข็นและเก้าอี้ขยับเข้าในซอย ตั้งหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามประตูวัดมังกรกมลาวาส(วัดเล่งเน่ยยี่) แม้จะหลบมุมแต่ลูกค้าก็ยังเข้าคิวจับจองเก้าอี้ สมกับฉายา ‘ข้าวแกงเก้าอี้ดนตรี’ “หมู-เชียง เนื้อ-เชียง ปู-เชียง ไก่-โล้ ปู-โล้…” คือเมนูที่มีออเดอร์ตลอดวัน มีแกงกะหรี่หมู แกงกะหรี่เนื้อกินคู่กุนเชียงเป็นเมนูเด่น อีกทั้งแกงเขียวหวานไก่ เขียวหวานลูกชิ้น ไข่พะโล้อบ ผัดปู
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
“ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา เลอค่ามรดกโลก”
อยุธยา ดินแดนล้ำค่าแห่งมรดกโลก ราชธานีเก่าที่สวยงามแต่แฝงไปด้วยเรื่องราวมากมายให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และค้นหา สถาปัตยกรรมที่สวยงามหลายแห่งในจังหวัดอยุธยา ล้วนมีอดีตที่บอกเล่าถึงความเก่าแก่และล้ำค่าของสิ่งเหล่านั้น ร่องรอยอารยธรรมและวิถีชีวิต ถูกถ่ายทอดผ่านศิลปะและสถาปัตยกรรมที่ประณีตและมีเอกลักษณ์ จึงทำให้จังหวัดอยุธยาถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งองค์การสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 ณ กรุงคาร์เธจ ประเทศตูนิเซีย โดยเป็นที่มาของงาน ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก
แม้ร้านไม่ติดริมน้ำแต่บรรยากาศก็เลิศไม่เป็นสอง ด้วยมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นกลางร้านพร้อมตกแต่งด้วยไม้ใบหลากชนิด ทั้งจัดเป็นซุ้ม ทางเดิน ห้อยบนเพดาน มองไปตรงไหนก็ล้วนมีแต่ต้นไม้เขียวขจี ดูแล้วสดชื่นสบายตา ที่สำคัญโปร่งโล่งลมพัดเย็นสบายอีกด้วย
วันนี้ นายรอบรู้ ขอแนะนำร้านเด็ด อ. ภูเขียว จ. ชัยภูมิ พาไปกินไก่ย่าง ส้มตำรสเด็ด ต่อด้วยจิบกาแฟ กินของหวาน ใครที่มีโอกาสได้ไปภูเขียว เราแนะนำว่าต้องไปลอง
จะดีแค่ไหนถ้าได้กินอาหารอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี “นายรอบรู้” ขอแนะนำร้านโป่งแยงแอ่งดอย ร้านอาหารที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาลำเนาไพรและมองเห็นวิวน้ำตกแม่สาที่ไหลผ่านตลอดปี
© 2018 All rights Reserved.