
ภูชี้ดาว ชมทะเลหมอกสุดสายตา @ เชียงราย
ภูชี้ดาว จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสุดสายตาแห่งใหม่ ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้า ไม่อยากให้คุณพลาดเลยถ้ามาเที่ยวเชียงราย
ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์ชุมชนที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของชุมชนในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะ ผ้าทอมือ ที่เป็นผลิตภัณฑ์เด่น สร้างชื่อเสียงให้หลายภูมิภาค
วันนี้ นายรอบรู้ นักเดินทาง จะพาคุณไปรู้จักกับอีกหนึ่งชุมชนที่น่าสนใจใน จ.อุดรธานี ที่นำดอกบัว มาย้อมผ้าไหมให้มีสีที่แปลกใหม่และสวยงามจากธรรมล้วนไม่ผสมเคมี ที่นั้นคือ กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก
บ้านโนนกอก เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2558 คุณอภิชาติ พลบัวไข หรือ ต้น นักปราชญ์ชาวบ้าน เล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนไม่ได้มีการทอผ้ามา 20 ปี และเริ่มสูญหายไป จึงอยากฟื้นภูการทอผ้าของชุมชน ช่วงแรกยังไม่มีตลาด เนื่องจากลวดลายยังไม่สวย และยังดูไม่มีเอกลักษณ์ จนสำนักงานชุมชนเข้ามาแนะนำ หลังจากเริ่มศึกษา ค้นหาวิธีของตัวเอง จนค้นพบวิธรการย้อมผ้าด้วยบัวแดง เอกลักษณ์ที่สำคัญของชุมชน หลังจากที่โพสต์ลง Facebook มีลูกค้ามาบอกว่าสวย จึงเริ่มขายทาง online ขึ้น
ปัจจุบันก็เข้าปีที่ 4 แล้ว ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้น และความเป็นอยู่ดีขึ้น จากอาชีพเสริมไปสู่อาชีพหลัก
นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็น หมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีอันดับ 1 ของ จ. อุดรธานี และยังได้รับรางวัล Knowledge Based OTOP (KBO) การสร้างนวัตกรรมชุมชนระดับประเทศ อีกด้วย
ที่นี่มีการย้อมผ้าที่เป็นเอกลักษณ์คือ การย้อมสีผ้าด้วยกลีบดอกบัว ดอกบัวแดงย้อมได้ถึง 3 สี เป็นสิ่งมหัศจรรย์จากสีธรรมชาติ ไม่ต้องใช้สารเคมี แต่ก็ยังสามารถผสมเคมีแล้วได้ราคาที่ตลาดจับต้องได้ ต่อให้ราคาไม่สูงก็ยังสามารถใช้ผ้าย้อมจากดอกบัวได้ จึงกลายเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน ว่ามาที่โนนกอกต้องมาดูผ้าย้อมบัวแดง
ในการทำผ้าย้อมจะแบ่งออกเป็น 2แบบ คือ ย้อมด้วยกลีบบัวสด ใช้กลีบส่วนกลางมาปั่นและผสมมะนาว เพื่อ ทำให้สีติดดีขึ้น ยิ่งใช้สียิ่งเข้ม และต้องเป็นมะนาวสดเท่านั้น แล้วนำฝ้ายหรือไหมมาย้อมได้เลย โดยขยี้ผ้าประมาณ 30 นาที แล้วทิ้งไว้ 6 ชั่วโมง เรียกว่าวิธีการย้อมเย็น จะได้เป็นสีชมพูหรือสีม่วง ส่วนสีชมพูสด ต้องใช้ดอกบัวที่พึ่งเก็บมาแล้วย้อมเลยทันทีถึงจะได้สีนี้ ซึ่งการย้อมในแต่ละครั้งได้สีไม่เหมือนกัน
ส่วนการย้อมร้อนคือ การนำบัวไปต้มในน้ำสะอาด ย้อมได้ทั้งสดและแห้ง ดอกบัวตากแห้ง จะได้สีน้ำตาลทอง ส่วนสายบัวตากแห้ง จะได้สีเทาเงิน สีที่ย้อมจากบัวแดงจะมีความติดทนนาน สีไม่ตก ผ่านมาตรฐานตามเกณฑ์ของสถาบันอุตสาหกรรมสิ่งทอ
สำหรับใครที่อยากมาชมภูมิปัญญาการทออผ้า ณ บ้านโนนกอก ที่นี่มีทั้งวิถีชีวิตที่เรียบง่ายในชุมชน ตั้งแต่ใส่บาตรในตอนเช้า เก็บดอกบัว ไปจนถึงย้อมดอกบัวให้ได้เห็นกันใน 1 วัน สำหรับคนที่อยากค้างคืนก็มีรีสอร์ทชุมชนให้ได้เข้ามาพักผ่อนด้วยเช่นกัน และในอนาคตจะมีการจัดระเบียบพื้นที่ให้มีทั้ง ที่พัก ที่ศึกษางาน และ ที่รับประทานอาหารอีกด้วย
ที่ตั้ง ต. หนองนาคำ อ. เมืองอุดรธานี จ. อุดรธานี
เปิด ทุกวัน 8:00 – 17:00 น.
โทร. 093-547-8255 คุณต้น
Facebook : กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก จ.อุดร
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ภูชี้ดาว จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสุดสายตาแห่งใหม่ ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้า ไม่อยากให้คุณพลาดเลยถ้ามาเที่ยวเชียงราย
Bangkok Story คาเฟ่เล็กๆ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง และเหมือนได้เข้ามาในร้านกาแฟสมัยที่คุณปู่คุณย่าชอบมานั่งจิบกาแฟ กินอาหารเช้า อ่านหนังสือพิมพ์ และพูดคุยกันท่ามกลางกลิ่นกาแฟหอมอบอวล ร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว-สีเหลืองไข่ไก่สบายตา ประตูหน้าต่างเป็นไม้แบบเก่าทั้งหมด ทั้งยังมีขวดโหลใส่ของแห้งตกแต่งผนังร้าน ชวนให้รู้สึกถึงบรรยากาศร้านขายของในยุคก่อน เลือกที่นั่งได้แล้ว ทางร้านจะเสิร์ฟชุดน้ำชาจีนร้อนๆ เป็นการต้อนรับ มีขนมขาไก่ใส่ไว้ในโหลแก้วให้ลูกค้าตักชิมได้ฟรีไม่คิดเงิน ที่นี่นอกจากจะเป็นร้านกาแฟ ชั้นบนยังเปิดเป็นโฮสเทลด้วย สนนราคาค่าเช่าพักคืนละ 650 บาทเท่านั้น คุณสรรภพ พูลสุวรรณ หรือคุณโจ้ เจ้าของร้าน เปิดบริการห้องพักโฮสเทลอย่างเดียว แล้วลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติชอบไปกินอาหารสตรีตฟู้ด บางร้านถ้าปรุงไม่สะอาด กินแล้วก็ป่วย
จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ หน่วยงานภาครัฐ/เอกชน และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดจัดกิจกรรมงาน “แต่งงานและจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง” ครั้งที่ 13 ประจำปี 2563 ในระหว่างวันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ และ ร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิตสืบสานประเพณีการแต่งงานแบบชนพื้นเมืองดั้งเดิมของสุรินทร์ให้คงอยู่สืบไป
ข้าวแกงในตำนานย่านเยาวราช เสิร์ฟความอร่อยมาตั้งแต่รุ่นอากงหาบขาย มีเก้าอี้ไม้ทรงเตี้ยให้ลูกค้านั่งกินข้างหาบ ส่งต่อเคล็ดลับสู่รุ่นลูกคือเจ๊เฉี๋ย-ทัศนีย์ ธนัญชัยกุล ปัจจุบันดูแลโดยทายาทรุ่นที่ 3 คือเฮียนัท-ธรรมรัตน์ ธนัญชัยกุล จากหาบเปลี่ยนเป็นรถเข็น จากเก้าอี้ไม้กลายเป็นเก้าอี้พลาสติกสีแดงตั้งเรียงรายริมทางเท้า เก้าอี้แดงเด่นหน้าบานเฟี้ยมสีเขียวซีดที่เต็มไปด้วยใบปิดโฆษณาเลือนรุ่ยหลุดลอกตามกาลเวลา เป็นภาพสุดคลาสสิกของร้าน แต่ไม่กี่เดือนมานี้ทั้งรถเข็นและเก้าอี้ขยับเข้าในซอย ตั้งหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามประตูวัดมังกรกมลาวาส(วัดเล่งเน่ยยี่) แม้จะหลบมุมแต่ลูกค้าก็ยังเข้าคิวจับจองเก้าอี้ สมกับฉายา ‘ข้าวแกงเก้าอี้ดนตรี’ “หมู-เชียง เนื้อ-เชียง ปู-เชียง ไก่-โล้ ปู-โล้…” คือเมนูที่มีออเดอร์ตลอดวัน มีแกงกะหรี่หมู แกงกะหรี่เนื้อกินคู่กุนเชียงเป็นเมนูเด่น อีกทั้งแกงเขียวหวานไก่ เขียวหวานลูกชิ้น ไข่พะโล้อบ ผัดปู
© 2018 All rights Reserved.