
ซุ้มอาหารจงเจริญ
อยเอ็ด : สารพัดเมนูท้องถิ่นตามฤดูกาลมีที่นี่ อย่างหน้าร้อนต้องลาบไข่มดแดงเม็ดขาวเต่ง คลุกเคล้าด้วยพริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดง ผักชีฝรั่งซอย เติมน้ำปลานิด บีบมะนาวหน่อย หรือจะเป็นก้อยไข่มดแดง อ่อมไข่มดแดงใส่ผักหวานป่า
จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ หน่วยงานภาครัฐ/เอกชน และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดจัดกิจกรรมงาน “แต่งงานและจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง” ครั้งที่ 13 ประจำปี 2563 ในระหว่างวันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ และ ร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิตสืบสานประเพณีการแต่งงานแบบชนพื้นเมืองดั้งเดิมของสุรินทร์ให้คงอยู่สืบไป
นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานสุรินทร์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างและการประกอบพิธีแต่งงาน แบบชาวกวยหรือ “พิธีซัตเต” ของชาวพื้นเมืองดั้งเดิม ของจังหวัดสุรินทร์ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวในโลก เจ้าบ่าวแต่งกายด้วยการนุ่งโสร่งไหม เสื้อแขนยาวสีขาว ผ้าไหมพาดบ่า ศีรษะสวมด้ายมงคล 3 สี เจ้าสาวนุ่งผ้าซิ่นไหมลายกวย เสื้อแขนกระบอกสีอ่อนพาดด้วยสไบสีแดง และศีรษะสวม “จะลอม” (มงกุฎที่ทำจากใบตาล) เข้าประกอบพิธีตามลำดับความสำคัญ คือ พิธีสวมด้ายมงคลบ่าว-สาว บายศรีสู่ขวัญ และพิธีถอดคางไก่ทายชีวิตคู่บ่าว-สาวโดยหมอพราหมณ์รวมถึงเลี้ยงอาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล และการจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในโลกจากนั้นร่วมบันทึกความหวานเป็นภาพประวัติศาสตร์สุดประทับใจ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ตามแผนตลาดการท่องเที่ยว ปี 2563 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ ตามโครงการ Cool วันธรรมดาน่าเที่ยว @สุรินทร์ – ศรีสะเกษ
ททท.สำนักงานสุรินทร์.จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมพิธีแต่งานบนหลังช้างสมัครได้ที่องก์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ค่าใช้จ่ายในการสมัครฟรี
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ 044 – 511975
ททท. สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0 4451 4447-8 – E-mail : tatsurin@tat.or.th
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
อยเอ็ด : สารพัดเมนูท้องถิ่นตามฤดูกาลมีที่นี่ อย่างหน้าร้อนต้องลาบไข่มดแดงเม็ดขาวเต่ง คลุกเคล้าด้วยพริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดง ผักชีฝรั่งซอย เติมน้ำปลานิด บีบมะนาวหน่อย หรือจะเป็นก้อยไข่มดแดง อ่อมไข่มดแดงใส่ผักหวานป่า
โปรโมชั่นพิเศษช่วงเปิดตัว ลูกค้าที่สั่งยอดขั้นต่ำตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป รับฟรีเสื้อยืดบิ๊กบอย 1 ตัวต่อการสั่งต่อใบเสร็จตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2563 หรือจนกว่าของจะหมด กรุณาดูข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติม สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ลูกค้าสามารถติดตามบิ๊กบอย ประเทศไทยได้ที่ Facebook.com/TwiceAsBigTwiceAsGood
บุรีรัมย์ : มาเที่ยวเมืองปราสาทขอม อย่าลืมถามหา “กุ้งจ่อม” ของดีของเด็ดประจำเมืองไปเป็นของฝาก โดยเฉพาะกุ้งจ่อมสามรสกินกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยทุกคำที่เข้าปากเลยทีเดียว
‘วันสบาย ๆ ที่รู้สึกอยากกินไอศกรีม’ คือคอนเซปต์แรกของร้าน SIMPLE DAY ร้านไอศกรีมเจลาโต้โฮมเมดที่ “นายรอบรู้” การันตีความอร่อย ตั้งในโครงการ The Bloc ราชพฤกษ์ คอมมูนิตี้เล็ก ๆ ที่รวมขนม กาแฟ และของดีไซต์ไว้ในตู้คอนเทรนเนอร์
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
“ผัก” คำที่เราคุ้นเคย ที่พอเอ่ยถึงแล้วก็รู้ได้ว่าคือตัวแทนแห่งคุณค่าทางโภชนาการ และถ้าใครสักคนบอกกับเราว่า “กินผักสิ ผักมีประโยชน์ต่อร่างกาย” ก็แปลได้ว่าเขาห่วงใยและปรารถนาดีต่อเรา ร้าน “PAAK” ก็เช่นกัน
“แลกโปสการ์ด” นิทรรศการสุดโรแมนติกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แลกเปลี่ยนความสุขและคำอวยพรดีๆ ให้กับคนแปลกหน้า
ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน จ. เพชรบูรณ์ ก็ยังเป็นปลายทางที่ผู้คนแวะเวียนมาสัมผัสธรรมชาติแบบไม่ขาดสาย เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งล้วนงดงามตระการตา และที่สำคัญอาหารการกินก็หลากหลาย แถมรสชาติก็ดีงาม จนต้องท้าให้ลองกับ 8 ร้านเด็ดที่ต้องลองในเมืองรอง จ. เพชรบูรณ์
โอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ ศรีราชา โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แห่งใหม่ใจกลางเมืองศรีราชา จัดโปรโมชั่นห้องพักสำหรับคู่รัก “Lover Package” แพคเกจพักผ่อนสุดพิเศษ!!! เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยมาตรฐานบริการระดับโลก
© 2018 All rights Reserved.