
บะหมี่เกี๊ยวทะเล แห่งเยาวราช
ร้านบะหมี่เกี๊ยวรถเข็นเล็ก ๆ ในตรอกเจริญไชย ย่านเยาวราช บอกเลยว่ารสชาติไม่ธรรมดา ด้วยเปิดขายมานาน 20 ปีกว่าแล้ว
หน้ากากผ้า กลายเป็นสิ่งของจำเป็นที่ทุกคนต้องมีติดตัวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 บางคนตัดเย็บด้วยตัวเอง แถมตกแต่งแบบไม่เหมือนใครจนกลายเป็นหน้ากากผ้า Rae Item มีเพียงผืนเดียวในโลก
ส่วนใครที่ชื่นชอบเอกลักษณ์ผ้าไทย แต่ไม่มีเวลาตัดเย็บเอง “นายรอบรู้” ขอแนะนำว่าต้องไม่พลาดอุดหนุนหน้ากากผ้าทอพื้นเมืองผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่พลิกวิกฤตผลิตหน้ากากผ้าสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน หน้ากากผ้าทุกผืนที่คุณช้อปออนไลน์หรือสั่งซื้อโดยตรงจากชุมชน เท่ากับการช่วยเหลือให้คนในชุมชุนได้มีอาชีพและรายได้ เรียกได้ว่าช้อปคราวเดียวได้ทั้งหน้ากากผ้าลายท้องถิ่นเก๋ๆ มาต้านโควิด-19 แถมได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกในยามวิกฤตอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มสตรีชนเผ่าที่พำนักในสถานพักพิงชายแดนไทยเมียนมา จังหวัดตาก โดยโครงการผลิตหน้ากากผ้าเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้รับการสนับสนุนโดยองค์กร IRC จัดตั้งโครงการ Livelihood หรือ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อช่วยให้ผู้อพยพสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยพึ่งพาตัวเอง
หน้ากากผ้านี้ตัดเย็บด้วยผ้า 3 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 เป็นผ้าทอมือลายชนเผ่า ชั้นที่ 2 และ 3 เป็นผ้ามัสลิน โดยมีช่องเพื่อใส่วัสดุกรองเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ช้อปได้ที่ โทร. 087-989-2012
ผ้าทอนาหมื่นศรี เป็นผ้าพื้นเมืองของจังหวัดตรัง โดยกลุ่มสตรีทอผ้านาหมื่นศรี เพื่อสืบสานการทอผ้าไม่ให้สูญหาย มีการทอ 3 ชนิด ได้แก่ ผ้าพื้น ผ้าตา และผ้ายกดอก มีลวดลายเฉพาะ อาทิ ลายลูกแก้ว ลายลูกแก้วชิงดวง ลายราชวัตร ลายดอกจัน ลายดอกพิกุล
ปัจจุบันมีลายยอดนิยมเพิ่มอีกกว่า 30 ลาย และนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก เช่น หมวก เสื้อ กระเป๋า ปลอกกล่องทิชชู เป็นต้น และรับผลิตผ้าทอ สั่งตัดเสื้อตามแบบที่ลูกค้าต้องการอีกด้วย
ช้อปได้ที่ โทร. 081-476-4318
ผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมืองของอำเภอหยาดฟ้า จังหวัดยโสธร เป็นผ้าทอลายลูกหวาย หรือผ้าขาวม้า โดยชุมชนได้นำมาดัดแปลงเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ กระเป๋าผ้า หมอนดาว ผ้าพันคอ นอกจากนี้ยังมี การทอผ้าไหม การทำมาลัยดอกตอก และในช่วงสถานการณ์โควิดนี้ได้นำผ้าทอมาผลิตเป็นหน้ากากผ้ากรอง 3 ชั้น มีทั้งตัดเย็บจากผ้าขาวม้า ผ้าฝ้าย ผ้ามัสลิน และผ้าสปันบอนด์
ช้อปได้ที่ โทร. 084-833-5628, 045-799-579
“ผ้าปะลางิง” เป็นผ้าทอมือที่ใช้เทคนิคการพิมพ์ลายบนผืนผ้าด้วย “แม่พิมพ์ไม้โบราณ” แกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลวดลายของผ้าปะลางิง ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมท้องถิ่นและวิถีชีวิตใต้ เช่น ลายจากกระเบื้องโบราณ ลายจากช่องลมตามสถาปัตยกรรมเก่า ลายจากแม่พิมพ์ขนมโบราณ ลายการละเล่นว่าว หรือการแกะลายผ้าโบราณต่างๆ และยังมีลวดลายที่ถูกพัฒนาขึ้นอีกกว่า 200 ลาย
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากโครงการวิจัย “การพัฒนาทุนทางวัฒนธรรมชุมชน ผ่านกลไกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาสังคม เพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่”
ช้อปได้ที่ โทร. 087-837-4007
เพจ SriYala Batik
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ร้านบะหมี่เกี๊ยวรถเข็นเล็ก ๆ ในตรอกเจริญไชย ย่านเยาวราช บอกเลยว่ารสชาติไม่ธรรมดา ด้วยเปิดขายมานาน 20 ปีกว่าแล้ว
“เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2018” : “Chiang Mai Design Week 2018” ในชื่อหัวข้อ ยิ่งขัดเกลา ยิ่งแหลมคม (Keep Refining) เพื่อนำเสนอศักยภาพด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ซึ่งต่อยอดมาจากทักษะฝีมือช่างและทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคเหนือ
นายรอบรู้ช่วนเพื่อนๆ ทุกคน มาเที่ยวเทสกาลสงกรานต์ทั่วไทยกัน มีที่ไหนกันบ้างตามเราไปดูเลย..
ใครมาเที่ยวลำปางช่วงนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะหาร้านอาหารอร่อยๆที่ไหนนั่งชิลล์ ตาม”นายรอบรู้”มาทางนี้เลย เราได้คัดร้านเด็ดๆในจ.ลำปางมาให้ลิ้มลองกันจ้า
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
‘นายรอบรู้’ อยากชวนปิดบ้านพากันไปเที่ยวฟาร์มนมควาย! คุณอ่านไม่ผิดหรอก ที่นี่เขาเลี้ยงควายเพื่อรีดนมจริงๆ เป็นฟาร์มเล็กๆ น่ารัก มีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ทำร่วมกันทั้งครอบครัว ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ แค่ฉะเชิงเทราเท่านี้เอง
ไม่ว่าช่วงเวลาใด ตัวเมืองปราจีนบุรีก็ยังคงมีบรรยากาศเรียบง่ายสมเป็นเมืองเก่าริมฝั่งน้ำบางปะกง ยิ่งเรื่องอาหารการกินด้วยแล้ว บอกได้แค่สามคำ “อร่อย-จัด-เต็ม” ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นกันเลยทีเดียว
วันนี้ นายรอบรู้นักเดินทาง จะพาคุณไปรู้จักกับ กลุ่มไหมแท้ที่แม่ทอ บ้านนาคำ จ. ขอนแก่น ที่แค่ได้ยินชื่อก็ทำให้นึกถึงคุณแม่ที่กำลังนั่งทอผ้าอย่างตั้งใจเพื่อให้ลูกได้ใส่ผ้าสวยไปอวดเพื่อน นอกจากนี้ บ้านนาคำยังเป็นชุมชนที่มีเอกลักษณ์จากการนำส่วนต่างๆ ของต้นไม้มาย้อมสีผ้าไหม ให้มีสี สันที่หลากหลายและแปลกใหม่ขึ้น
“ดึงอีก … ดึงอีก” กองเชียร์ส่งเสียงลั่น ชาวบ้านในทีมชักเย่อก็ออกแรงสุดชีวิต มือดึง เท้าจิกทราย โน้มตัวลงใช้ประโยชน์จากน้ำหนักตัวให้มากที่สุด แต่ละคนหน้าตาเหยเก กัดฟันสู้ไม่ถอย เสียงกลองรัวเร็วขึ้นเมื่อพวกเขากำลังได้เปรียบ
© 2018 All rights Reserved.