
เมืองโบราณเจิ้นหย่วน…ล่องเรือชมความงาม “เวนิสแห่งตะวันออก”
สุดยิ่งใหญ่อลังการกับเมืองโบราณที่ถูกขนานนามว่าเป็น “เวนิสแห่งตะวันออก”
เย็นวันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2565) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว
และกีฬา พร้อมด้วย Mr. Almusaed Musaed Muhammed, Assistant Vice President of International Regions สายการบินซาอุดีอาระเบีย นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. และนายเดชา ปิ่นอารีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการผู้โดยสาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของ สายการบิน Saudia Airlines เที่ยวบิน SV846 บินตรงจากเมืองเจดดาห์ – กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร นับเป็น
นิมิตหมายอันดีในการกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มตลาดซาอุดีอาระเบีย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เที่ยวบินปฐมฤกษ์ SV846 สายการบิน Saudia Airlines บินตรงจากเมืองเจดดาห์ – กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เดินทางถึง
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 18.05 น. นำคณะนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบีย เดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย จำนวน 71 คน นับเป็นการเปิดเส้นทางบินครั้งแรกในรอบ 32 ปี จากกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย – กรุงเทพฯ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการเชิญชวนและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาท่องเที่ยว
ในประเทศไทย พร้อมกันนี้ ททท. ได้เตรียมพร้อมกิจกรรมการต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ อาทิ ของที่ระลึก การแสดงทางวัฒนธรรมไทย (โขน ตอนยกรบ) และอุโมงค์น้ำ (Water Salute) เพื่อแสดงมิตรไมตรีและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยครั้งนี้ด้วย
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. เผยว่า ด้วยความร่วมมือระหว่าง
สายการบิน Saudia Airlines จะทำการบินมายังประเทศไทยจำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วันจันทร์-พุธ-ศุกร์)
ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง (Boeing) 789 จำนวน 298 ที่นั่ง เริ่มเปิดเส้นทางบินตรง ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565
เป็นต้นไป ซึ่ง ททท. คาดว่าเที่ยวบินตรงนี้ จะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับความสำเร็จในการส่งเสริมการเดินทางมายัง
ประเทศไทย ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ได้อย่างสะดวก ลดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตลอดจนเป็นโอกาสต่อยอดในการขยายตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เช่น ยุโรปและ
ตะวันออกกลาง ไม่เพียงเท่านั้น ททท. จะผลักดันแคมเปญสื่อสารตลาดต่างประเทศ Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters ที่สอดคล้องกับโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว
(Bio – Circular – Green Economy) โดยเสนอมุมมองใหม่ผ่านสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว 3 กลุ่มหลัก
คือ สุขภาพ (Medical และ Health and Wellness) ทะเล (Beaches) และช้อปปิง (Shopping) เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ และแลกเปลี่ยนการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งจะมุ่งเน้นเรื่องความสะดวกสบาย
ในการเดินทาง (Ease of Travelling) พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ (Millennials)
กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางครั้งแรก (First Visit) กลุ่มรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพ (Medical และ Health and Wellness) และกลุ่มครอบครัว (Family) นอกจากนี้ ททท.จะหารือกับพันธมิตร ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดรูปแบบ B2B (Business to Business) และ B2C (Business to Customer) อาทิ การจัดกิจกรรม Tradeshow Roadshow และ Consumer Fair รวมทั้ง Joint Promotion ร่วมกับพันธมิตร มอบสิทธิพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อเป็น
การกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมากยิ่งขึ้น
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
สุดยิ่งใหญ่อลังการกับเมืองโบราณที่ถูกขนานนามว่าเป็น “เวนิสแห่งตะวันออก”
ยามเช้าต้นฤดูหนาว ที่อำเภอปาย มีสายลมเย็นๆ พัดผ่าน ใครได้มาเดินบนสะพานโขกู้โส่ ที่คดโค้งไปมาเหนือนาข้าวสีเหลืองทอง คงได้รับความรู้สึกสุดแสนพิเศษ
ตรุษจีน เป็นหนึ่งในเทศกาลไหว้เจ้าที่ใหญ่ที่สุดในรอบปี ช่วงนี้ตามตลาดขายของไหว้เจ้า ทั้งเป็ด ไก่ ผลไม้ ขนม เครื่องกระดาษ ฯลฯ จะคึกคักสุดๆ
“ผ้าครามได้ขึ้นชื่อว่า #ราชาแห่งสี เพราะไม่มีสีชนิดใดที่มีความสัมพันธ์กับขนมธรรมเนียมและประเพณี เทียบเท่ากับสีคราม”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
นิทรรศการ ร่องรอยชีวิตของชาวนา โดย นัฐวุฒิ กองลี จัดแสดง 2 มีนาคม – 27 มีนาคม 2565 ณ People’s Gallery ห้อง P1
นิทรรศการDISSECTION OF BREATHING โดย สิทธิพนธ์ เลาะไชยสงค์ จัดแสดง 3 มีนาคม- 27 มีนาคม 2565 ณ People’s Gallery ห้อง P2
นิทรรศการ ลวดลายในธรรมชาติ โดย วิริยะพร จิตราภิรมย์ จัดแสดง 2 มีนาคม 2565 – 27 มีนาคม 2565 ณ People’s Gallery ห้อง P3
ใครไปเที่ยวอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ไม่ควรพลาดการนวด “ยองเส้น” อันแสนเร้าใจสูตรไทเลยของแม่คำก้อย – อุไรรัตน์ ทิพย์รส ซึ่งเปิดให้บริการเพียงหนึ่งเดียวในเชียงคาน และอาจจะเป็นหนึ่งเดียวในประเทศ
คลื่นจากระยะไกล โดย Rafael Alvarez | BODYBUILDERS (โปรตุเกส / ญี่ปุ่น)
(การแสดง) contemporary dance performance โดย Noeli Kikuchi และ Rafael Alvarez
4 – 5 มีนาคม 2565 | 19:00 น. BACC | หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกุรงเทพมหานคร ห้องสตูดิโอ ชั้น 4
รอบการแสดง วันศุกร์และเสาร์, 4-5 มีนาคม เวลา 19:00 น. ** พิเศษสุดช่วงโปรโมชั่น ซื้อบัตร 1ใบ ฟรี อีก 1 ใบ ทันที **
เลย : พ้นหนาวไปหลายเดือนแล้ว แต่ความทรงจำจากเมืองเลยที่เขาว่ากันว่า “สุดหนาวในสยาม” ก็ยังไม่จางไปจากใจ ยามใดที่ได้ถือกาแฟให้อุ่นมือสักถ้วย ยามนั้นเป็นต้องหวนคิดถึงร้านกาแฟน่ารักๆ อย่าง Love เลย Coffee
© 2018 All rights Reserved.