
อร่อยคาวหวานที่ร้อยเอ็ด
คราวนี้ขอจัดหนัก พาไปแซบซี้ดซ้าดกับอาหารอีสานพื้นบ้านเมืองร้อยเอ็ด ทั้งรสนัวกลมกล่อมถูกปากคนเมือง ทั้งปลาร้าคั่กๆ ของแท้ไม่ปลอมปน ถูกใจคนอีสานบ้านเฮา จากนั้นดับความเผ็ดซี้ดด้วยข้าวเหนียวสังขยาหอม นุ่ม แต่หวานน้อย
กลับมาอีกครั้งกับงานใหญ่แห่งปีที่คนรักดอกไม้รอคอย กับงาน Nai Lert Flower & Garden Art Fair 2020 ที่จะกลับมาอีกครั้งพร้อมคอนเซ็ปต์ “The World” งดงามไปกับความอลังการของประติมากรรมดอกไม้ ตื่นตาตื่นใจไปกับ Flower Carpet พรมกลีบดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และศิลปะโคมไฟจีนสุดตระการตา พร้อมกิจกรรมพิเศษสุดประทับใจ ณ ปาร์คนายเลิศ ซอยสมคิด ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2563
Nai Lert Flower & Garden Art Fair 2020 จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจําทุกปี โดยครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 34 เพื่อมุ่งเน้นการสืบทอดงานศิลปวัฒนธรรมไทย และงานหัตถศิลป์จากชุมชนสู่บุคคลทั่วไป อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจให้ความสําคัญและชื่นชมกับธรรมชาติรอบตัวมากยิ่งขึ้น
งานในปีนี้ ที่จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “The World” มีกิจกรรมมากมายที่ไม่ควรพลาด ได้แก่
FLOWERS X ART พบกับการจัดแสดงประติมากรรมดอกไม้ นิทรรศการศิราภรณ์ดอกไม้ของนางในวรรณคดี รวมทั้งตื่นตาตื่นใจกับ ‘Chinese Lantern Extravaganza’ เยี่ยมชมแสงสีจากโคมไฟอันสวยงามจากประเทศจีน
FLOWERS X FASHION ตลาดนัดที่รวบรวมสินค้า Luxury ตลอดจนงานแฮนด์เมดจากศิลปินและผู้ประกอบการรุ่นใหม่มากกว่า 50 ร้าน เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ สิ่งทอ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย
FLOWERS X TASTE คุณจะได้ลิ้มลองอาหารอร่อยเด็ดมากมายจากร้านอาหารชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นร้านมา เมซอง ร้านเลดี้ แอล รวมทั้งอาหารจีนจากเชฟชาวจีน
FLOWERS X PLAY กิจกรรมเวิร์คชอปต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนได้เพลิดเพลิน แสดงทักษะและความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ อาทิการเพ้นท์ตุ๊กตา การทําศิลปะตัดกระดาษ การจัดช่อดอกไม้ การทําขนมผกากรอง และเวิร์คชอปที่ส่งตรงมาจากประเทศจีน อาทิ การเพ้นท์หน้ากากจิ๋วจีน การทําโคมไฟกระดาษ เป็นต้น
FLOWERS X COMPETITIONS การแข่งขันประกวดประติมากรรมดอกไม้ภายใต้แนวคิด “FLORAL CHANDELIER” หรือโคมระย้าดอกไม้ และการแข่งขันจัดสวนภายใต้แนวคิด “APOTHECARY GARDEN” หรือ “พลังพฤกษาแห่งความยั่งยืน” เพื่อให้เยาวชนและคนรุ่นใหม่ได้พัฒนาทักษะทางด้านงานศิลปะ และงานฝีมือผ่านการประกวดเพื่อต่อยอดและส่งเสริมอาชีพให้เป็นที่ยอมรับ มีชื่อเสียง ในระดับประเทศและนานาชาติ ซึ่งผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ เงินรางวัล และประกาศนียบัตร พร้อมบินลัดฟ้าไปร่วมชมงานดอกไม้ เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ 2020 (Chelsea Flower Show 2020) ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เชื่อว่ากิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในงาน Nai Lert Flower & Garden Art Fair 2020 จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานได้อย่างแน่นอน โดยบัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 150 บาท เด็กและนักเรียนราคา 80 บาท
รายได้จากการจัดงานจะนําไปมอบให้กับโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก เพื่อช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่อไป
ที่ตั้ง ซอยสมคิด ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ
งานจัดขึ้นวันที่ 30 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2562
เวลา 09.00 น. – 21.00 น.
โทร. 0 2 253 0123
บัตรเข้าชมผู้ใหญ่ 150 บาท เด็กและนักเรียน 80 บาท
เว็บไซต์ www.nailertflowershow.com
Facebook และ Instagram : Nai Lert Flower & Garden Art Fair
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
คราวนี้ขอจัดหนัก พาไปแซบซี้ดซ้าดกับอาหารอีสานพื้นบ้านเมืองร้อยเอ็ด ทั้งรสนัวกลมกล่อมถูกปากคนเมือง ทั้งปลาร้าคั่กๆ ของแท้ไม่ปลอมปน ถูกใจคนอีสานบ้านเฮา จากนั้นดับความเผ็ดซี้ดด้วยข้าวเหนียวสังขยาหอม นุ่ม แต่หวานน้อย
หมอลำเป็นมหรสพที่อยู่ในวิถีชีวิตของชาวอีสานมาอย่างยาวนาน มีความหลากหลายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่เคยหยุดนิ่ง ทั้งปรากฏอยู่ในพิธีกรรมต่างๆ และเป็นมหรสพเพื่อความบันเทิง ปัจจุบันถูกพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยและเทคโนโลยีมากขึ้น ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม “หมอลำซิ่ง”
“หอมเอ้ยหอมใบอ้ม หอมลอยลมจนคนส่า”
คำผญาอีสานพรรณนาถึงความหอมจนเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาของใบอ้มที่ล่องลอยอยู่ในสายลมที่พัดผ่านไปมา
เข็มสั้นนาฬิกาชี้เลข 5 ในช่วงรุ่งสาง ฟ้ายังไม่ทันสว่าง ณ วัดผาบ่องเหนือ เด็กน้อย อายุไม่เกินบรรพชาสามเณร นั่งในท่าสบาย จับเป็นกลุ่มๆ ล้อมด้วยญาติสนิท มิตรสหายผู้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน และกำลังช่วยกันแต่งหน้าแต่งเติมตา ปะลวดลายคล้ายดอกไม้บนใบหน้า บ้างก็ยืนก็แต่งองค์ทรงเครื่องสีสันสดใสให้ครบตามแบบฉบับของส่างลอง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
หลายครั้งที่เดินทางมายังภาคใต้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพความสวยงามของธรรมชาติและมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนพหุวัตนธรรมยังตราตรึงใจเสมอ ทั้งหมดหล่อหลอมจนเป็นวิถีชีวิตและมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าหลงไหล หนึ่งในนั้นคือ วัดชลธาราสิงเห หรืออีกชื่อ ที่มักเจอในหน้าประวัติศาสตร์ไทยคือ วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย
ลำปางได้ชื่อว่ามีวัดศิลปะพม่ามากที่สุดในประเทศไทย นับเนื่องจากสมัยรัชกาลที่ 5 เมืองลำปางอันอุดมไปด้วยไม้สักจำนวนมหาศาล เป็นที่หมายปองของบริษัทค้าไม้ต่างชาติซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมดินแดนต่างๆรอบๆสยามประเทศอยู่ในขณะนั้น ได้เข้ามาขอสัมปทานค้าไม้จากราชสำนักสยามที่กรุงเทพฯ เข้าทำอุตสาหกรรมไม้ในเขตเมืองลำปาง
พระขโนงเป็นอีกหนึ่งย่านในถนนสุขุมวิทที่มีทั้งที่เที่ยว ที่กิน คาเฟ่ มากมายไว้ให้เลือกได้แบบไม่เบื่อ ใครยังไม่เคยไปลอง เราแน่นำให้รีบไป…
หลายคนคงเคยได้ยินเหตุการณ์ พระเจ้าตากกู้กรุงศรี หรือทุบหม้อข้าวหม้อแกงตีเมืองจันทน์กันมาบ้าง แต่เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับพระเจ้าตากสินนั้นยังมีอีกมาก และวันนี้ “นายรอบรู้” ขอพาคุณไปเยี่ยมชมวัดเขาชะงุ้ม สถานที่ซึ่งมีประวัติศาสตร์ของพระเจ้าตากอีกเรื่องหนึ่งเช่นกัน
© 2018 All rights Reserved.