
9 ร้านสตรีตฟู้ดในตำนาน
Growing Diversity Shop & Cafe หรือร้านกินเปลี่ยนโลกคาเฟ่และช็อป “เป็นเสมือนประตูให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาสัมผัสกับความคิดและกิจกรรมของชีววิถี”
คลื่นจากระยะไกล
จากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง ร่างทั้งสองแล่นไปในความเงียบพร้อมการเต้นอย่างเปราะบางซึ่งเป็นคลื่นและกระแสของการเผชิญหน้ าและความขัดแย้ง ทั้งใกล้และไกล นักดำน้ำทั้งสองค้นพบตัวเองในบทสนทนาที่มองไม่เห็นของความทรงจำและเรื่องราวที่ย่ำยีจินตนาการ ของเรา การออกแบบท่าเต้นกระดาษที่ดึงมาจากการเต้นรำแบบเปิดของความรู้สึกและการดำน้ำในการอ่านอื่น ๆ – ไกลและใกล้ ใกล้กว่าไกล ตะวันออกและตะวันตก ทั้งสองด้านของมหาสมุทร ทำให้เกิดทะเลแห่งภาพลวงตาขึ้นบนผิวน้ำ แล้วพวกคลื่นนั้นได้สร้างบริเวณสำหรับการเผชิญหน้า (ของอีกคลื่นหนึ่ง)
ภาพเริ่มต้นเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานนาฏศิลป์ร่วมสมัยชิ้นนี้ แม้มองไม่เห็นแต่มีอยู่คือ “คลื่นลูกใหญ่ของคานาวากะ” (The Great Wave of Kanawaga) ผลงานอันโด่งดังของจิตรกรชาวญี่ปุ่น โฮคุไซ (Hokusai) สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2373 และทำซ้ำช่วงปี พ.ศ. 2413 ผ่านชุดภาพพิมพ์หินโดยใช้ เทคนิคการพิมพ์แบบดังเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า Ukiyo (แปลอย่างตรงตัวว่า โลกลอย)
ในโลกที่ลอยอยู่นี้ ไม่มีอะไรเล็กเกินไปหรือไม่มีนัยสำคัญพอที่จะดึงความสนใจของเรา การแสดงเงาแบบเอกรงค์ การปลุกเร้า และหน้ากาก ซึ่งคลื่นโฮกุไซ (Hokusai) ยอมให้รวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นการเชื้อเชิญคู่ให้เดินทางไปในความความเงียบสงัด ในความมืดและในแสงสว่าง มีเพียงสององค์ประกอบนี้ – ร่างกายและกระดาษเปิดเผยในความเป็นพลาสติก ความเปราะบางและไม่เที่ยงตรง พิธีกรรมเชิงสัญลักษณ์ นามธรรม และจินตภาพที่ถูกแช่อยู่ในตะวันออกและตะวันตกในการอยู่ร่วมกันของการอ่านและความหมาย ในที่ที่ยิ่งน้อยยิ่งดี
โดย Rafael Alvarez | BODYBUILDERS (โปรตุเกส / ญี่ปุ่น)
(การแสดง) contemporary dance performance โดย Noeli Kikuchi และ Rafael Alvarez
4 – 5 มีนาคม 2565 | 19:00 น. ที่ BACC | หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกุรงเทพมหานคร ห้องสตูดิโอ ชั้น 4
รอบการแสดง วันศุกร์และเสาร์, 4-5 มีนาคม เวลา 19:00 น.
** พิเศษสุดช่วงโปรโมชั่น ซื้อบัตร 1ใบ ฟรี อีก 1 ใบ ทันที **
จำหน่ายบัตรราคา บุคคลทั่วไป 500 บาท นักเรียนนักศึกษา 350 บาท
เวิร์คช็อปการเต้น Contemporary Dance Workshop “WAVE DANCE Lab” (สำหรับนักเต้นทุกระดับ)
วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม เวลา 14:00-16:00 น.
300 บาทต่อท่าน ราคาพิเศษเมื่อซื้อบัตรชมการแสดงพร้อมกับเข้าร่วมเวิร์คชอป บุคคลทั่วไป 650 บาท นักเรียนนักศึกษา 500 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม จองบัตรเข้าชมการแสดง และสำรองที่เพื่อเข้าร่วมเวิร์คชอปได้ที่
เบอร์โทรศัพท์: 0612688211
แบบฟอร์มการจอง
https://forms.gle/k7N43s7yomyTrtWTA
อีเมล์: wavebangkok.tickets@gmail.com
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
Growing Diversity Shop & Cafe หรือร้านกินเปลี่ยนโลกคาเฟ่และช็อป “เป็นเสมือนประตูให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาสัมผัสกับความคิดและกิจกรรมของชีววิถี”
กาญนะจ๊ะบุรี เอ๊ย! กาญจนบุรี จังหวัดนี้ไม่ไกลเมืองกรุง ไปกี่ทีก็สบาย ช่วงไหนเหนื่อยๆ ขับรถไปนอนพักผ่อน รับอากาศเย็นสดชื่น ดูภูเขา สายน้ำ ธรรมชาติเขียวๆ แค่นี้ก็มีความสุข…
ทุ่งกุลาร้องไห้เป็นที่ราบที่มีอาณาเขตกว้างขวางใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน หากเปรียบกับกรุงเทพฯ มีขนาดใหญ่กว่าถึง 2 เท่า ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ มหาสารคาม ศรีสะเกษ และยโสธร
ร้านนี้เปิดบริการมา 40 ปีแล้ว จานแรกเรียกน้ำย่อยคือลูกชิ้นปลากรายลวกจิ้ม ทางร้านทำเองตั้งแต่ขูดเนื้อปลามาตีจนเหนียว ทำเป็นลูกชิ้นขนาดพอดีคำ ลวกในน้ำเดือดจัด พอสะเด็ดน้ำดีแล้วก็นำใส่จานโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว เวลากินจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟูดรสแซบ ลูกชิ้นกรอบเด้งไม่มีกลิ่นคาว กินเพลินดีค่ะคุณขา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
“นายรอบรู้” มีหนึ่งที่มาแนะนำ นอกจากจะได้ไปพักผ่อนในวันหยุดยาวแล้ว ยังจะได้ไปสัมผัสประเพณีที่งดงามของชาวบ้านและได้ไปทำบุญรับวันปีใหม่ไทยอีก แบบนี้มีแต่ได้กับได้เลยหละคุณ…
เสียงขิมบรรเลงเพลงไทยเดิมที่ดังมาจากศาลา หน้าบ้านไม้หลังเก่า “บ้านโสมส่องแสง” ทำให้หวนนึกถึงบทเพลงจากครูมนตรี ตราโมท ศิลปินแห่งชาติสาขาดุริยางคศิลป์ ศิลปิน 5 แผ่นดินที่แต่งเพลงกว่า 200 บทเพลง
CORO FIELD เอาใจคนรักสุขภาพ เปิดตัวเมนูใหม่กว่า 70 เมนู อัดแน่นไปด้วยผักและผลไม้สดเกรด พรีเมี่ยมจากฟาร์ม CORO FIELD ทั้ง โทมิเมล่อน มะเขือเทศเชอร์รี่ ผักสลัด และผลไม้จากเพื่อนๆ เกษตรกร ทั้ง แตงโมกินนรี จ.กาญจนบุรี สับปะรดหอมเมืองราช ส้มโอเขาน้าผึ้ง และเสาวรส จ.ราชบุรี ที่เราเลือกเฟ้นมาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองผ่านเมนูใหม่แบบจัดเต็ม
ใครที่เคยมาจังหวัดน่านในฤดูหนาว แล้วต้องมนต์เสน่ห์ดินแดนขุนเขา สายหมอก คุณอาจจะเคยสัมผัสอากาศหนาว ดาวเต็มฟ้า แต่รู้ไหมว่า ความสวยงามตระการตาของ จ. น่าน นั้นอยู่ในหน้าฝน ในฤดูที่ความเขียวขจีปกคลุมไปทุกพื้นที่ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวสดตัดกับสายหมอกขาว สวยงามเกินบรรยาย
วันนี้ นายรอบรู้นักเดินทาง จึงถือโอกาสพาเที่ยว 5 ไฮไลค์ห้ามพลาด เมื่อมาเที่ยวน่านในหน้าฝน
© 2018 All rights Reserved.