
ยองเส้น @ เชียงคาน ต้องลองสักครั้ง!
ใครไปเที่ยวอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ไม่ควรพลาดการนวด “ยองเส้น” อันแสนเร้าใจสูตรไทเลยของแม่คำก้อย – อุไรรัตน์ ทิพย์รส ซึ่งเปิดให้บริการเพียงหนึ่งเดียวในเชียงคาน และอาจจะเป็นหนึ่งเดียวในประเทศ
สำหรับชีวิตคนเมืองที่พยายามหลบสีเทาๆ ของป่าคอนกรีตไปสูดอากาศบริสุทธิ์ของต้นไม้สีเขียว ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก ตามเส้นทางของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ. ปทุมธานี แตกแขนงแยกย้อยออกไปเป็นคลองเล็กๆ ชื่อว่า คลองบางเตย อ. สามโคก มีคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น แฝงไปด้วยวิถีชีวิตแบบพอเพียงซ่อนตัวอยู่ ที่นั่นก็คือ “บ้าน ๑,๐๐๐ ไม้ คาเฟ่แอนด์ฟาร์ม”
ภายในร้านที่คราค่ำไปด้วยต้นไม้หลากหลายพันธุ์ สัมผัสได้ถึงความรื่นรมที่ควบคู่เสียงหัวเราะและเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กๆ ที่จูงมือพ่อแม่มุ่งไปยังแปลงนา พร้อมจะกะโจนลงบ่อโคลนได้ทุกเมื่อ แม้จะแต่งตัวด้วยชุดเจ้าหญิงก็ตาม
ไม่ไกลจากแปลงนา เด็กผู้ชายตัวน้อยกำลังถือจอบอย่างไม่คุ้นเคย เหมือนกำลังทำความรู้จักเพื่อนใหม่ที่ชื่อว่า “ดิน” โดยมีพ่อแม่ยืนดูอยู่ไม่ห่าง เรือคายักในสระนั่นไง ลูกน้อยตัวเล็กกำลังปรบมือดีใจบนตักพ่อที่แจวเรือวนอยู่ในบ่อน้ำขนาดราวๆ ลานจอดรถ รอยยิ้มนั้นอาจเกิดจากการได้อยู่ใกล้ ๆ พ่อที่เหมือนอัศวินถือดาบไม้พายก็เป็นได้
ท่ามกลางครอบครัวที่เฝ้ามองดูลูกหลานของตัวเองวิ่งเล่นอย่างมีความสุขอยู่ มีหนุ่มใหญ่ท่าทางใจดีที่ปะปนอยู่ด้วยในนั้น เด็กๆ เรียกชายคนนี้ว่า ลุงโก้ หรือ พชรพล ทรงศรี ผู้ที่นั่งเฝ้ามองดูเด็กๆ ด้วยความสุขจนสายตาเป็นสระอิ
ลุงโก้คือ ผู้ริเริ่มร้านคาเฟ่แห่งนี้ขึ้นมา จากอาชีพครูสอนเกษตรผันตัวมาทำงานรับเหมาจัดสวน จนชีวิตผกผันเกิดปัญหาในการทำงาน ทำให้นึกถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชการที่ 9 ที่เป็นเหมือนแสงสว่างของปัญหามากมาย
จากพื้นที่ป่ารกร้าง 3 ไร่ เมื่อ 10 ปีก่อน ลุงโก้ได้เข้ามาปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้เพียงต้องการการสร้างบ้านเพื่อใช้ชีวิตตามเศรษฐกิจพอเพียงเท่านั้น แต่ด้วยเนื้อที่ที่เยอะเกินไปทำให้ไม่สามารถใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าได้ทั้งหมด จึงเกิดความคิดที่อยากจะให้คนอื่นเข้ามาใช้พื้นที่นี้ด้วยกัน แต่ก็ยังคงความเป็นบ้าน คงความเป็นส่วนตัวเอาไว้ จึงเป็นเหตุผลที่ร้านเปิดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น
นอกจากจะมีพื้นที่เกษตรเล็กๆ ให้เด็กที่มากับครอบครัวไปได้สัมผัสวิถีเกษตรพอเพียงแล้ว ที่นี่ก็ยังมีเล้าไก่ให้เด็กได้เข้าไปเก็บไข่ไก่ ฟองละ 5 บาท การทำไข่เค็มที่คิดราคาเพียงฟองละ 15 บาท รวมถึงการปลูกผักจากแก้วกาแฟ ที่ใช้แก้วกาแฟของร้านเอง โดยเสียค่าเมล็ดพันธ์เพียงเมล็ดละ 10 บาท และที่น่าสนใจอีกอย่างคือวิธีเก็บค่าบริการ ด้วยการให้เด็กๆ หยอดเงินใส่ตะกร้าเองโดยไม่มีคนเผ้า และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของลุงโก้ที่อยากจะปลูกฝังความซื่อสัตว์ให้กับเด็กๆ
ถ้าทำกิจกรรมจนท้องเริ่มร้องแล้ว ที่นี่ก็มีอาหารอร่อยและเครื่องดื่มคอยให้บริการ แต่เมนูที่อยากแนะนำสำหรับใครที่มาร้านนี้แล้ว คือ สลัดผักไฮโดรโปรนิก เป็นผักที่ทางร้านปลูกเอง บวกด้วยความอร่อยจากน้ำสลัดที่เวลาเสิร์ฟจะให้มาเป็นขวดแบบไม่มีกั๊ก จะราดเท่าไรก็เอาให้จุใจ เพราะน้ำสลัดก็ใช้ไข่ไก่ที่เลี้ยงบริเวณของร้านเอง
ที่นี่ยังมีจุดเช็คอินใกล้ๆ อีก อย่างเช่น ตลาดน้ำอิงน้ำสามโคก เป็นตลาดชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีของกินถูกปากในราคาย่อมเยา เดินเล่นกันแบบสบายๆ ตลาดเปิดเฉพาะเสาร์อาทิตย์ ตั้งแต่ 9 โมงถึง 4 โมงเย็น หรือถ้าใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศลองนั่งเรือเข้าไปที่ร้าน ก็สามารถมาจอดรถที่ตลาดหรือบริเวณวัดบางเตยนอก แล้วขึ้นเรือที่ ตลาดน้ำอิงน้ำสามโคก ไปลงที่ท่าน้ำของร้านได้เลย คิดค่าบริการไปกลับรอบละ 50 บาท เท่านั้น
บ้าน ๑,๐๐๐ ไม้ คาเฟ่แอนด์ฟาร์ม อาจจะเป็นที่ที่ทำให้วันหยุดพักผ่อนอันแสนน้อยนิดกลายเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับทุกคนในครอบครัว จะมีอะไรดีไปกว่าขอพื้นที่สีเขียวและได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา เด็กๆ ได้วิ่งเล่น ได้เรียนรู้วิถีชีวิตแบบพอเพียง และสิ่งที่ได้อีกอย่างคือความสุขกับการได้อยู่กับธรรมชาติที่ไอแพดและโทรศัพท์มือถือก็ไม่สามารถทดแทนได้…
ที่ตั้ง 48 ซอยบ่อขยะเทศบาล หมู่ที่ 6 ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก ปทุมธานี 12160
เปิด เสาร์-อาทิตย์ 10:00-17:00 น.
โทร 091 998 2466
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ใครไปเที่ยวอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ไม่ควรพลาดการนวด “ยองเส้น” อันแสนเร้าใจสูตรไทเลยของแม่คำก้อย – อุไรรัตน์ ทิพย์รส ซึ่งเปิดให้บริการเพียงหนึ่งเดียวในเชียงคาน และอาจจะเป็นหนึ่งเดียวในประเทศ
ใครที่ชื่นชอบอาหารอินเดียคงไม่พลาด Rang Mahal Rooftop Indian Restaurant ห้องอาหารอินเดียในรูปแบบ fine dining บนชั้น 26 ของโรงแรมแรมแบรนดท์ ย่านสุขุมวิท ที่ได้รับรางวัล Thailand’s BestRestaurants จากนิตยสาร Thailand Tatler ถึง 13 ปีซ้อน
มาเยือนจังหวัดน่านครั้งใด เป็นต้องมาไหว้พระขอพร พร้อมชมความงดงามของวัดวาอารามและพระประธานในโบสถ์ที่สวยงามมีเอกลักษณ์แบบฉบับล้านนาทุกครั้งไป
ครัวยักษ์กะโจน อีกทางเลือกหนึ่งให้คนเมืองที่ใช้ชีวิตกินข้าวนอกบ้านแทบทุกวัน สามารถเลือกกินอาหารปลอดภัยได้ในราคาที่เป็นธรรม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ใครที่มาเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษแล้วมองหาร้านกาแฟชิว ๆ บรรยากาศสบาย ๆ “นายรอบรู้” ขอแนะนำ ร้านกาแฟสยาม เป็นร้านเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองศรีสะเกษ แถมเจ้าของร้านยังมีดีกรีเป็นถึงบาริสต้าชนะรางวัลระดับประเทศอีกด้วย
สายการบิน Saudia Airlines เที่ยวบิน SV846 บินตรงจากเมืองเจดดาห์ – กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร นับเป็น นิมิตหมายอันดีในการกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มตลาดซาอุดีอาระเบีย
คุณเชื่อเรื่องราวของ “พญานาค” ไหม?
ถ้าพิจารณาตามตำนานและความเชื่อความศรัทธา ผู้คนจำนวนมากในภาคอีสานให้ความเคารพนับถือพญานาคราชกันอย่างแพร่หลาย เพราะเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสายน้ำผู้ดูแลปกปักรักษาแถบลุ่มน้ำโขง
บางกอกใหญ่ กทม. : จากบรรยากาศริมคลองเปลี่ยนไปนั่งชิมของอร่อยกันริมถนนบ้าง ใครเคยผ่านไปทางวัดเครือวัลย์ บน ถ. อรุณอัมรินทร์ ช่วงกลางวัน แล้วเห็นคนมุงกันอยู่หน้าร้านเยอะๆ นั่นละก๋วยเตี๋ยวเรือลุง ที่หมายของเรา
© 2018 All rights Reserved.