2 ร้านอร่อย ย่านตลาดโบ๊เบ๊
เที่ยงวันก่อนเพื่อนกวีนักชิมชวนไปลองชิมของอร่อยย่านตลาดโบ๊เบ๊ โดยมีเป้าหมายอยู่แถวสะพาน 4 ข้ามคลองผดุงฯ แล้วเดินผ่านร้านขายเสื้อผ้าสารพันมากมายก่ายกอง จนอดรู้สึกไม่ได้ว่า ไม่น่าเชื่อคนเราจะใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ได้หมด
ไปไหม ไปเที่ยวใต้กัน… เพราะตอนนี้กระแสท่องเที่ยวภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดปลายด้ามขวานอย่างยะลา กลายเป็นหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนอย่างไม่ขาดสาย ในโซเชี่ยลเต็มไปด้วยภาพความงดงามของป่าดิบชื้นแดนใต้ ทะเลหมอก อาหารหน้าทาน แล้วใครล่ะจะอดใจไหว
นายรอบรู้นักเดินทางจึงถือโอกาศเดินทางลงใต้ไปถึงจ. ยะลา ไม่เท่านั้น เราขับรถมุ่งหน้าไปเหนือเขื่อนบางลาง สัมผัสดินแดนพหุวัฒนธรรม สูดกลิ่นธรรมชาติ และดื่มด่ำประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์มาลายากัน
หมู่บ้านจุฬาภรณพัฒนา 9 เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของทริปฮาลาบาลา ที่นี่คือที่พักโรงครัวร้านสะดวกซื้อมุมสงบของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว
ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่กลางหุบเขาทำให้หมู่บ้านที่มีทิวทัศน์สวยงามไม่ว่าจะหันไปมุมไหนคุณก็จะเห็นต้นไม้ใหญ่สายหมอกดอกไม้และที่สำคัญคือรอยยิ้มและอัธยาศัยของคนที่นี่งดงามยิ่งกว่าธรรมชาติเสียอีกนะคุณ
ที่นี่ทำให้เราได้พบกับ “หลิงปิง” หรือ ชนะ แซ่อู๋ หนุ่มวัยรุ่นที่เป็นทั้งคนนำเที่ยว เป็นเพื่อนเดินทาง และเป็นคนสร้างสีสันให้กับทริปฮาลาบาลา ใครๆ ที่มา ก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน หลิงปิงพาเราเริ่มต้นทริปด้วยการเดินชมหมู่บ้านชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่ห้อมล้อมหมู่บ้านที่เขาเติบโตมาแต่เด็กด้วยความเป็นกันเองจึงทำให้นักท่องเที่ยวหลายๆคนสนุกสนานครื้นเครงไปกับมุขตลกของหนุ่มผิวแทนที่พูดภาษาจีนคล่องจนคุณต้องตกใจ
อีกหนึ่งจุดห้ามพลาดในหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 ก็คือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวของการก่อตั้งหมู่บ้าน รวบรวมประวัติศาสตร์และเครื่องมือเครื่องใช้ของพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา โดยการบอกเล่าจากสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ
ใครชอบเดินป่า ขึ้นเขา ชมวิวทะเลหมอก เราแนะนำให้มา “ผาหินโยก” แต่ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่าเส้นทางเดินนั้นค่อนข้างชัน แต่สำหรับคนชอบธรรมชาติแล้วเราก็แนะนำให้ขึ้นไปชมสักครั้ง
เส้นทางเดินขึ้นไปบนผาหินโยกเป็นทางเดินในสวนยางพาราที่ขึ้นรวมกับต้นไม้อื่นๆจนนักท่องเที่ยวอย่างเราๆแยกแยะได้ยากว่านี่คือเขตสวนยางหรือคือป่ากันแน่เพราะต้นไม่ขึ้นรกทึบบนพื้นมีใบไม้แห้งทับถมหนาตาพื้นค่อนข้างลื่นและชื้นบางช่วงจะเห็นมอสและเฟิร์นขึ้นเขียวครึ้มจากความชื้นแฉะของพื้นด้านล่าง
ทะเลหมอกบนผาหินโยกนั้นยากจะคาดเดาบางครั้งหมอกมาประปรายทำให้เห็นบางส่วนของอ่างเก็บน้ำบางลางเห็นหมู่บ้านถนนและทิวทัศน์ของผืนป่า แต่บางช่วงที่อากาศไม่เป็นใจเราอาจถูกเมฆหมอกปกคลุมขาวโพลนจนระยะการมองเห็นไม่เกิน 10 เมตร จากตัวเราก็มี
สิ่งหนึ่งที่สะดุดตาเรามากเมื่อเดินขึ้นมาก็คือต้นเสม็ดแดง ให้คุณลองนึกภาพป่าเขียวครึ้มที่แสงแทบจะส่องลงมาไม่ถึงพื้น แต่มีลำต้นของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่สีน้ำตาลอมแดงตัดกับสีเขียวเข้มของใบไม้ มันน่าสะดุดตาว่าไหมล่ะคุณ และที่สำคัญ ที่ผาหินโยกมีเสม็ดแดงขึ้นทั่วทั้งพื้นที่ แบบที่มองไปทางไหนก็จะมีต้นแดงๆ ขึ้นแซมอยู่ทั่วทั้งป่า
น้ำตกกลางผืนป่าดงดิบ มีความสูงราว 100 เมตร การเดินทางสามารถเข้าไปด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ แล้วเดินต่อไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ใช้เวลาเดินเท้าราวๆ 10 นาที
ระหว่างทางเดินคุณจะได้พบกับธรรมชาติอันอลังการ ตั้งแต่ต้นไม้ต้นเล็กต้นน้อยริมทาง ไปจนถึงพี่ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านออกไปปกคลุมผืนป่า บางช่วงแสงอาทิตย์แทบส่งลงมาไม่ถึงพื้นล่าง ทำให้ผืนดินเปียกชื้น มอส เฟิร์น และไลเคนต่างรื่นเริง เจริญเติบโตอย่างไม่เกรงใจใคร
จากป่าทึบออกมาก็เผยให้เห็นน้ำตกสูงตระหง่านเสียงน้ำที่ตกกระทบหินซู่ซ่าจนบางครั้งต้องตะโกนคุยกันและบางครั้งก็เลือกที่จะเงียบเสียงและฟังเสียงธรรมชาติแทนที่จะใช้พลังพูดแข่งกับธรรมชาติจนเหนื่อย แน่นอนว่าเมื่อเปิดตาดู เปิดหูฟังเสียงธรรมชาติ ในตัวเรากลับชื่นฉ่ำใจอย่างบอกไม่ถูก
ยิ่งช่วงเวลาที่ถกขากางเกงแล้วเอาเท้าแช่ช้ำเย็นๆมันเป็นช่วงที่ดี…ดีจนไม่อยากจะไปไหนอีกแล้ว
มาถึงบางลาง ถ้าไม่ได้ล่องเรือเที่ยวก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะเรือกลายเป็นวิถีชีวิตของคนกลางหุบเขาแห่งนี้มาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วอายุคนแล้ว เด็กๆ ตัวน้อยที่ดูเล่นสนุกไปวันๆ นั้นขับเรือเก่งไม่แพ้คนริมแม่น้ำ หรือชายเลเลยล่ะ เพราะฉะนั้นการนั่งเรือในอ่างเก็บน้ำจึงเป็นกิจกรรมห้ามพลาด
ช่วงเวลาที่เหมาะจะลงเรือคือช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ๆเพราะอากาศไม่ร้อนแล้วยังมีโอกาสจะได้เห็นชีวิตสัตว์ป่าให้พื้นที่ป่าฮาลาบาลาแห่งนี้อีกด้วย ใครชอบดูนก ระหว่างทางที่เรือแล่นไปจะมีเหยี่ยวนาๆ ชนิด นกเงือกหลายสายพันธุ์ และนกอีกมากมายบินร่อน เล่นน้ำ หาปลา และใช้อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นบ้านอย่างชื่นใจ
ธรรมชาติสองข้างทางนั้นสวยงามตระการตาต้นไม้ใหญ่กลางป่ากับสายหมอกขาวที่ค่อยๆใหลผ่านหุบเขาบางช่วงไอหมอกลอยขึ้นปะทะกับแสงแดดส่องทะลุลงมาโดนใบไม้เกิดเป็นช่องแสงสวยงามเกินจะอธิบายเป็นคำพูดได้
สำหรับคนที่ยังลังเลว่ายะลายังไกล…เกินจะไปถึง เราบอกคุณตรงนี้เลยว่า ลองหาเวลาว่างๆ ออกไปสัมผัสยะลาดูสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่ายะลามีดี และระยะทางไกลนั้นไม่ใช่ปัญหา ถ้าใจไปถึง เพราะใครๆ ที่ได้ไปยะลา ต่างก็พูดว่าจะกลับมาเยือนยะลาอีกแน่ๆ
ขอขอบคุณ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.)
ที่ตั้ง ต. แม่หวาด อ. ธารโต จ. ยะลา
โทร 097 117 556
Facebook ชุมชนท่องเที่ยวจุฬาภรณ์พัฒนา๙ จ.ยะลา
สนใจท่องเที่ยว แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าก่อน
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
เที่ยงวันก่อนเพื่อนกวีนักชิมชวนไปลองชิมของอร่อยย่านตลาดโบ๊เบ๊ โดยมีเป้าหมายอยู่แถวสะพาน 4 ข้ามคลองผดุงฯ แล้วเดินผ่านร้านขายเสื้อผ้าสารพันมากมายก่ายกอง จนอดรู้สึกไม่ได้ว่า ไม่น่าเชื่อคนเราจะใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ได้หมด
จากคนสู้ชีวิตที่ทำงานรับจ้างตามร้านอาหารกว่า 20 ปี เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเริ่มสร้างกิจการด้วยการเปิดร้านอาหาร ทั้งลองผิดลองถูก ล้มลุกคลุกคลานจนมาเป็นร้านสมศักดิ์ปูอบที่มีคิวยาวเหยียด สมศักดิ์ ศรีแก้วฟ้าทอง หรือเฮียสมศักดิ์ ขายหอยแครงลวกและหอยแมลงภู่อบมาตั้งแต่ปี 2528 ตั้งร้านเป็นรถเข็นริมทาง มีโต๊ะให้นั่งแค่สองโต๊ะเท่านั้น พอขายดีมีทุนก็ทยอยซื้อโต๊ะเพิ่ม และเริ่มขายปูอบวุ้นเส้น และกุ้งอบวุ้นเส้น เคล็ดลับที่ทำให้ขายดิบขายดีคือความมานะและซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ด้วยเน้นแต่ของดีมีคุณภาพ ปูทะเลทั้งปูเนื้อและปูไข่ทางร้านสั่งปูเป็นๆ จากมหาชัยวันต่อวัน ทุกตัวกล้ามแน่น เนื้อสด รสหวาน ส่วนกุ้งอบวุ้นเส้นก็ใช้กุลาดำบิ๊กไซต์ “สี่ตัวโล” อบทีละหม้อ วุ้นเส้นสั่งพิเศษโดยเน้นส่วนผสมของถั่วเขียวมากกว่าแป้ง จึงเหนียวนุ่ม เมื่อผสมกับน้ำปรุงและน้ำมันหอยสูตรเฉพาะได้รสเข้มข้นจนอยากเลียให้เกลี้ยงหม้อเลยละ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดที่โขลกพริกกระเทียมบีบมะนาวสดใหม่ทุกวันและน้ำจิ้มถั่วรสหวาน
ใครที่มองหาคาเฟ่สวยๆ ไว้นั่งชิลๆ ย่านแบริ่ง นายรอบรู้บอกเลยว่าคุณต้องห้ามพลาด เพราะนกจากบรรยากาศจะดีงามแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารสุขภาพมากมายให้เลือก ดีต่อตา ดีต่อใจขนาดนี้ ใครจะพลาดได้…ว่าไหม
ลำปางได้ชื่อว่ามีวัดศิลปะพม่ามากที่สุดในประเทศไทย นับเนื่องจากสมัยรัชกาลที่ 5 เมืองลำปางอันอุดมไปด้วยไม้สักจำนวนมหาศาล เป็นที่หมายปองของบริษัทค้าไม้ต่างชาติซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมดินแดนต่างๆรอบๆสยามประเทศอยู่ในขณะนั้น ได้เข้ามาขอสัมปทานค้าไม้จากราชสำนักสยามที่กรุงเทพฯ เข้าทำอุตสาหกรรมไม้ในเขตเมืองลำปาง
© 2018 All rights Reserved.