ติ๋ม จงสงวนกลาง
ถ้ามาเที่ยวปราสาทหินพิมายหรือย่านไทรงาม ขอแนะนำให้แวะกินมื้อกลางวันที่ร้านนี้ คนแถบนี้เรียกง่ายๆ ว่าร้านป้าติ๋ม ร้านอยู่ในเรือนแถวที่ขายส้มตำ ไก่ย่างเหมือนๆ กันนับสิบเจ้า แต่ร้านป้าติ๋มลูกค้าคับคั่งกว่าร้านอื่น
อ่าวปัตตานีนั้นเป็นขุมทรัพย์ทางธรรมชาติของทุกคน มีทรัพยากรณ์ทางทะเลอันอุดมสมบูรณ์ มีเรืองราวประวัติศาสตร์ยาวนาน ทำให้ชุมชนชายฝั่งรอบอ่าวปัตตานีมีเรื่องราววิถีชีวิต ภูมิปัญญาที่น่าค้นหาอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือ ชุมชนบ้านบานา
บานา เป็นภาษาเปอร์เซียแปลว่า ท่าเรือ ในอดีตบ้านบานาแห่งนี้เป็นท่าเรือที่มีการค้าขายกับต่างประเทศ เช่น จีน ฮอลันดา โปรตุเกส และ อาหรับ เป็นต้น ในอดีตเคยมีเรือมาจอดเทียบท่าที่นี่เรียงรายนับร้อยลำ
บานา ยังเป็นแหล่งประมง แหล่งเกลือหวานที่เป็นของขึ้นชื่อเมืองปัตตานี วันนี้ นายรอบรู้ นักเดินทาง ขอถือโอกาสพาทุกคนเที่ยวชุมชนบ้านบานากัน
สะพานไม้บานา เป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวสู่อ่าวปัตตานี สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษณ์ป่าชายเลน โดยสะพานไม้ที่ทอดยาวลงไปในทะเลทำให้เราได้เห็นทิวทัศน์อันสงบเงียบเรียบง่ายของอ่าวอีกด้วย
นอกจากสะพานที่ทอดยาวไปในทะเลแล้ว ที่นี่ยังมีสะพานไม้ลัดเลาะเข้าไปในป่าโกงกาง ไปสำผัสธรรมชาติ ชมวิว นั่งตากลม ให้ความสุข สบาย ไม่น้อย…
หลังจากชมความงามบนชายฝั่งของบ้านบานากันเรียบร้อย เราก็ลงเรือประมงมุ่งสู่ท้องทะเลเพื่อชมวิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน และการอยู่ร่อมกันอย่างยั่งยืนของคนกับธรรมชาติ
บ้านบานาตั้งอยู่ชายเลของอ่าวปัตตานี ที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรณ์ทางทะเล ชาวบ้านทำประมงพื้นบ้าน จับปลา เลี้ยงหอย และยังมีอาชีพขับเรือพานักท่องเที่ยวชมความงามของอ่าวปัตตานีอีกด้วย
ชาวบ้านบานายังอยู่ร่วมกับธรรมชาติแบบพึ่งพา ด้วยการทำบ้านปลา ที่ทำจากต้นไม้ กิ่งไม้ นำมาปักในทะเล เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของสัตน์น้ำ เป็นที่หลบภัย และทำให้ปลามีพื้นที่ในการขยายพันธุ์และอนุบาลสัตว์น้ำ เป็นการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างคนและธรรมชาติได้ดีจริงๆ
ที่เรียกว่าเกลือหวาน ไม่ใช่ว่ารสชาติของเกลือบ้านบานานั้นหวานแต่อย่างใด แต่เกลือที่นี่ เค็มกำลังดี ไม่เค็มจัดจนเกินไป เกลือที่นี่นังมีแร่ธาตุเฉพาะตัว ทำให้รสชาติกลมกล่อมต่างจากที่อื่น เมื่อนำไปปรุงอาหารจุได้ความเค็มที่กลมกล่อม รสชาติอร่อย
คนปัตตานี้ทำนาเกลือมาเป็นร้อยปี และที่บ้านบานาแห่งนี้ยังเป็นนาเกลือผืนเดียวของภาคใต้อีกด้วย เพราะพื้นที่ที่เหมาะสมกับการทำนาเกลือ น้ำทะเลในอ่าวไม่เค็มจัด สภาพอากาศเอื้ออำนวยในฤดูแล้ง จึงทำให้นาเกลือบ้านบานาเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในอตีด
เกลือหวานที่ปัตตานียังผลิตกันด้วยวิธีดั้งเดิม ใช้เครื่อไม้เครื่องมือที่เป็นภูมิปัญญาตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ภาพนาเกลือในดินแดนปลายด้ามขวานอาจไม่ใช่ภาพที่คุ้นตานักท่องเที่ยวมากนัก แต่หากได้ลองลิ้มรส คุณอาจต้องหิ้วเกลือถุงใหญ่กลับเข้าครัวที่บ้านก็เป็นได้
มาถึงถิ่นชาวประมง จะไม่แวะกินข้าวได้อย่างไร เพราะชื่อเสียงว่าที่นี่อุดมสมบูรณ์ เกลือหวานรสชาติดี จึงต้องขอพิสูจน์สักครั้ง อาหารของที่นี่เป็นอาหารพื้นบ้านที่วัตถุดิบหาได้ในชุมชน เช่น ปลา กุ้ง หอย แต่รสชาติไม่ธรรมดา อาจเพราะความสดของวัตถุดิบ เพราะเกลือดีมีคุณภาพ และเพราะฝีมือแม่ครัวบ้านบานา ผสมกลมเกลียวกันจนเป็นกับข้าวรสเลิศ ที่ต้องบอกว่ามาบ้านบานาแล้ว…ต้องห้ามพลาด!!
ที่ตั้ง ต. บานา อ. เมืองปัตตานี จ. ปัตตานี
โทร. 06-5725-9613
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ถ้ามาเที่ยวปราสาทหินพิมายหรือย่านไทรงาม ขอแนะนำให้แวะกินมื้อกลางวันที่ร้านนี้ คนแถบนี้เรียกง่ายๆ ว่าร้านป้าติ๋ม ร้านอยู่ในเรือนแถวที่ขายส้มตำ ไก่ย่างเหมือนๆ กันนับสิบเจ้า แต่ร้านป้าติ๋มลูกค้าคับคั่งกว่าร้านอื่น

ความบังเอิญเป็นสิ่งที่ล้ำค่าของการเดินทาง และสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าจุดหมาย ก็มักจะเป็นเรื่องบังเอิญระหว่างทาง และบางครั้งเรื่องราวระหว่างทางก็อาจจะเปลี่ยนจุดหมายของคุณไปตลอดกาล
จุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้ คือการมาเที่ยวชมธรรมชาติของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จ. ลพบุรี และแน่นอนว่าความประทับใจของเรา คือเรื่องราวระหว่างทางของทริป ซับลังกา ทริปนี้นั่นเอง

หลายคนคิดว่าเที่ยวป่าไม่สนุก มีแต่ต้นไม้กับต้นไม้ ยิ่งในฤดูแล้งเช่นนี้กลัวพบแต่แดดจ้ากับใบไม้แห้ง ถ้าไม่ได้มาห้วยขาแข้งคงไม่รู้ว่าป่าหน้าแล้งก็มีเสน่ห์ ทั้งดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง เส้นทางศึกษาธรรมชาติเดินสะดวก การมาเยือนห้วยขาแข้งครั้งนี้จึงเหมือนได้เปิดประตูความรู้ไปสู่ป่าอีกขั้นหนึ่ง ด้วยมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายสิ่งซุกซ่อนอยู่…

“ปลาคก” ชื่ออาจอัปลักษณ์แต่อร่อยเวอร์….ใครจะนึกว่า ปลาคก เป็นสูตรประจำตระกูลที่ถูกหอบมาไกลจากเมืองซัวเถา มณฑลกว่างตง (GuangDong)ในประเทศจีนเมื่อสองชั่วอายุคนมาแล้ว
© 2018 All rights Reserved.