หวังว่าคุณคงไม่แปลกใจที่พลิกอ่านคอลัมน์ “นายรอบรู้” ฉบับนี้ แล้วพบภาพป่าเขียวเต็มพรืด ฤดูฝนเวียนมาอย่างนี้ คงไม่มีทริปไหนน่าสนใจเท่าการตะลุยพงไพร ช่วงนี้ป่าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่งดงามยิ่งกว่าฤดูกาลใด สายฝนเย็นฉ่ำทำให้พืชพรรณแตกใบและออกดอกดาษดื่น แต่งแต้มผืนป่าเขียวชอุ่มให้มีสีสันสดใส
ทั้งน้ำตกยังมีน้ำไหลบ่าเต็มหน้าผาน่าเที่ยวชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติในป่าเขาใหญ่ทุกเส้นทางจะพาเราไปใกล้ชิดชีวิตพืชพรรณธรรมชาติและสัตว์ป่ายิ่งขึ้น เป็นโลกที่แสนสงบหากแต่มีเรื่องราวให้เรียนรู้ไม่สิ้นสุด ไม่แน่ว่านอกจากเห็นภาพ “สายสัมพันธ์ชีวิต” เชื่อมโยงจากป่าสู่เมืองชัดเจนกว่าเดิม คุณอาจพบโลกอีกใบที่แสนสุขใจภายใต้ร่มเงาของธรรมชาติก็เป็นได้
1.เซี้ย เกาเหลาเนื้อวัวไร้เทียมทาน
สุดยอดร้านเกาเหลาเนื้อ คัดสรรเนื้ออย่างดีที่สุดมาปรุงอย่างพิถีพิถันให้คนรักเนื้อได้ลิ้มลอง ขายมาแล้ว 90 ปีตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เจ้าของร้านเลือกซื้อเนื้อเองทุกวัน เลือกเนื้ออย่างดีมาต้มทั้งชิ้นใหญ่ๆ ก่อนจะแล่ออกมาเป็นเนื้อเปื่อย เนื้อสด เนื้อกรอบ เนื้อลาย ตับ ไส้ ผ้าขี้ริ้ว กระเพาะ ให้ลูกค้าสั่งตามชอบ และที่จัดว่าชั้นยอดคือ เนื้อเปื่อยติดมัน ที่ร้านนี้เรียกว่า “เนื้อโกเบ” ซึ่งเป็นส่วนที่อร่อยที่สุด ใครอยากกินต้องโทรศัพท์มาสั่งไว้ล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นอดกินได้
เนื้อเปื่อยของที่นี่ต้มใหม่ทุกวัน ไม่เปื่อยจนเละ แต่ก็เคี้ยวง่าย ให้ออกกำลังกายฟันกันนิดหนึ่ง เนื้อสดจะแล่กันสดๆ แล้วลวกทันที จึงได้เนื้อสดที่นุ่มหวาน โดยไม่มีสารเคมี ไม่ต้องหมัก เน้นรับรู้รสชาติของเนื้อแท้ๆ เนื้อกรอบจะใช้ส่วนขาหลัง เคี้ยวแล้วกรุบๆ ส่วนเนื้อโกเบนุ่มมาก แทบละลายในปาก
อีกสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์คือน้ำซุป ซึ่งจะหอมกลิ่นซอสแม๊กกีผสมกับเครื่องปรุงอย่างอื่นเป็นสูตรเฉพาะตัว ปรุงกันชามต่อชาม แม้แต่พริกน้ำส้มก็เป็นของใหม่ ทำอย่างดี
เดิมขายอยู่ที่ตลาดปีระกา ก่อนย้ายมาที่ถนนบริพัตร นักการเมืองชื่อดังหลายท่านเป็นแฟนประจำของร้านนี้ คุณสันติ เศวตวิมล หรือ “แม่ช้อยนางรำ” ก็เป็นคนตั้งชื่อว่า “เซี้ย ไร้เทียมทาน” ซึ่งมาจากช่วงที่หนังกระบี่ไร้เทียมทานกำลังดัง บ่งบอกถึงความเป็นสุดยอดเกาเหลาเนื้อ ที่เอาดีทางนี้อย่างจริงจัง จึงไม่มีก๋วยเตี๋ยวขาย และไม่มีลูกชิ้น
สรุป
จุดแข็ง : 1.คุณภาพเนื้อดีมาก 2. ซุปมีกลิ่นหอม 3. พริกน้ำส้มทำสดใหม่
ห้ามพลาด: เนื้อโกเบ เนื้อกรอบ เนื้อสด
ข้อสังเกต : 1. ไม่มีก๋วยเตี๋ยว ไม่มีลูกชิ้น 2. เนื้อจะไม่เปื่อยมาก ต้องออกแรงเคี้ยว 3. ราคาเริ่มต้นค่อนข้างสูง ชามละ 80-100 บาท ตามคุณภาพ
ถ.บริพัตร สะพานเหล็กเดิม เขตพระนคร จ.กรุงเทพฯ
เปิดจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00-14.00 น.
026224765, 0891819981
2.เจ๊ผอม เกาเหลาเนื้อเจ้าเก่า
ก๋วยเตี๋ยว-เกาเหลาเนื้อรสคลาสสิกย่านวังบูรพา ซอสหอมกลิ่นแม๊กกีและเครื่องปรุงสูตรพิเศษ บรรดาเนื้อก็ทำอย่างพิถีพิถันทั้งเนื้อเปื่อย เนื้อโกเบ เนื้อสด เนื้อกรอบ เอ็น ม้าม ลูกชิ้น
เจ๊ผอม-เจี่ยมไน้ แซ่ตั้ง ที่วันนี้อายุกว่า 70 ปีแล้วยังเป็นคนไปคัดเลือกเนื้อเองทุกวันให้คุณภาพดีที่สุด ต้มวันต่อวันไม่ค้างคืน จึงรักษามาตรฐานความอร่อยไว้ได้ดังเดิม
ที่น่าสนใจคือร้านนี้จะลวกเนื้อสดในชาม ราดน้ำร้อนทีเดียวจบ เพราะจะให้เนื้อที่นุ่มกว่า ส่วนเนื้อเปื่อยต้มครั้งละ 5 ชั่วโมงจนนุ่มเปื่อย เคี้ยวง่าย น้ำซุปก็คือน้ำต้มเนื้อ ซึ่งใส่ซอสปรุงรสสูตรพิเศษที่มีทั้งแม๊กกี ซอสญี่ปุ่น และซีอิ๊วหลายยี่ห้อ จนให้ความหอมและรสชาติเฉพาะตัว ออกไปทางกลมกล่อม ปรุงกันชามต่อชาม สูตรเหล่านี้เจ๊บอกว่าไม่มีใครสอน ต้องคิดเองทำเอง
ร้านนี้ขายมา 3 ชั่วอายุคนตั้งแต่รุ่นพ่อ มาถึงเจ๊ผอม และส่งต่อมาให้รุ่นลูกชายในปัจจุบัน เจ๊ผอมยังกินเกาเหลาเนื้อตอนเช้าทุกวัน เจ๊บอกว่า “กินเนื้อทุกเช้า แข็งแรง”
ใครผ่านไปทางนั้นก็ลองไปชิมกันได้ ร้านนี้ครบเครื่องเกาเหลาเนื้อแบบจีน แม้แต่พริกน้ำส้มก็ใช้พริกตำใหม่
สรุป
จุดแข็ง : 1.เนื้อนุ่ม 2. น้ำซุปรสกลมกล่อม หอมกลิ่นแม๊กกี 3. พริกน้ำส้มทำสดใหม่
ห้ามพลาด : เนื้อโกเบ เนื้อเปื่อย เนื้อสด
ข้อสังเกต : 1.บางคนบอกว่ารสมันนิ่งๆ ไปหน่อย 2. ราคาเริ่มต้นถูกกว่าเซี้ย แต่ปริมาณน้อยกว่า
ซอยเจริญกรุง 6 ย่านวังบูรพา เขตพระนคร จ.กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.
0851383628
3.เกาเหลาเนื้อ ลุงดำ
เกาเหลาเนื้อสูตรเครื่องพะโล้ ราคาเป็นมิตร อยู่ในซอยเล็กๆ ข้างร้านจีจงหว่อ เจ้าของร้านคือลุงดำ ซึ่งเป็นคนอีสาน มาทำงานเป็นพ่อครัวในกรุงเทพฯ ก่อนจะออกมาเปิดร้านเล็กๆ ของตัวเอง ใช้ความรู้ที่เคยขายเนื้อสมัยเด็กๆ กับแม่ มาทดลองปรุงด้วยเครื่องยาแบบสูตรคนจีน กลายเป็นเกาเหลารสชาติเฉพาะตัวที่น้ำซุปหอมและออกทางรสหวานหน่อยๆ
เนื้อเจ้านี้รับมาจากเจ้าประจำที่มั่นใจในคุณภาพมานานหลายสิบปี มีทั้งเนื้อเปื่อย เนื้อสด ตับ ผ้าขี้ริ้ว ไส้ หัวใจ ม้าม กระเพาะ มีทั้งแบบธรรมดาและน้ำตก โดยเฉพาะเครื่องใน ทำมาอย่างดี ไม่มีกลิ่น คนรักเครื่องในน่าจะชอบ ใช้เตาถ่านเคี่ยวเนื้อจนนุ่ม น้ำซุปใช้กระดูกซี่โครงวัวมาต้ม และปรุงเครื่องในหม้อ ถ้าอยากได้รสเข้มข้น แนะนำว่าไม่ต้องใส่ถั่วงอก ราคาเริ่มต้นที่ 40-50 บาท เท่านั้น
แม้ตอนนี้ลุงดำไม่อยู่แล้ว แต่ก็มีคุณเกตุ-เกตุมณี สายจันทา และ คุณศรี ผ่องศรี ชิงรำ ลูกมือที่เคยช่วยลุงดำ มารับช่วงต่อ แม่ค้าทั้งสองคนอารมณ์ดี คุยสนุก ช่วยเติมรสชาติให้เกาเหลาเนื้อได้อีกทางหนึ่ง
ซอยข้างร้านจีจงหว่อ ย่านวังบูรพา เขตพระนคร จ.กรุงเทพฯ
เปิดวันจันทร์-ศุกร์ 10.30-15.00 น.
0867567516
ยากที่จะชี้ขาดว่าร้านไหนเหนือกว่าร้านไหน เพราะแต่ละร้านก็มีจุดเด่นเฉพาะตัว เหมาะกับรสนิยมของแต่ละคน
– ถ้าชอบเนื้อคุณภาพเยี่ยม ซุปออกรสเปรี้ยวนิดๆ หอมแม๊กกี รับราคาสูงได้ ร้านเซี้ยจะไม่ทำให้ผิดหวัง
– ถ้าชอบรสกลมกล่อมแบบคนจีน ซุปหอมแม๊กกี เนื้อนุ่มเคี้ยวง่าย ให้เลือกเจ๊ผอมเป็นลำดับแรก
– ถ้างบจำกัด เน้นคุ้มค่า ชอบซุปสูตรพะโล้เครื่องยาจีน รักเครื่องใน ไม่แคร์บรรยากาศร้าน จัดลุงดำดีที่สุด
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ใครที่ชื่นชอบอาหารอินเดียคงไม่พลาด Rang Mahal Rooftop Indian Restaurant ห้องอาหารอินเดียในรูปแบบ fine dining บนชั้น 26 ของโรงแรมแรมแบรนดท์ ย่านสุขุมวิท ที่ได้รับรางวัล Thailand’s BestRestaurants จากนิตยสาร Thailand Tatler ถึง 13 ปีซ้อน
“มื้อนี้กินหยังดีน้อ” เสียงหวานๆ ของป้านาง อุ่นเรือน สว่างวงษ์ แม่ค้าส้มตำวัย 62 ปี ที่ทักทายลูกค้าทุกคนด้วยความเป็นกันเอง โดยใช้ภาษาอีสานบ้านเกิดและความคุ้นเคยที่ขายส้มตำในย่านนี้กว่า 40 ปี ถือว่าเป็นแม่ค้าส้มตำอีสานที่มีความเก่าแก่ร้านหนึ่งในกรุงเทพฯ สลับกับการตระเตรีมอาหารเพื่อเสิร์ฟลูกค้าคนอื่นๆ อย่างชำนิชำนาญ
มาสุพรรณครั้งใดเป็นต้องหลงเสน่ห์สำเนียงเหน่อๆ อยู่ร่ำไป ไม่เพียงสำเนียงภาษาที่เป็นเอกลัษณ์ แต่ยังรวมถึงความเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่มีแม่น้ำท่าจีนหรือแม่น้ำสุพรรณบุรีไหลผ่าน ทำให้มีอาหารจานอร่อยถูกใจบรรดานักชิมหลายร้าน และยิ่งไปกว่านั้นบรรยากาศการนั่งกินอาหารในแพริมแม่น้ำท่าจีน ก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจ ที่อยากให้นักชิมทั้งหลายได้ไปสัมผัสบรรยากาศนั้นในวันสบายๆ ของคุณ
ท่ามกลางความร้อนของอากาศในกรุงเทพมหานคร มีร้านไอศกรีมรสชาติไทยๆ ซ่อนอยู่ในตึกแถวเล็กๆ ในชุมชนแพร่งภูธร ที่นี่คือร้านไอศกรีมที่ทำให้เราได้รู้จักกับคุณป้านัฐพร รุ่งโรจน์สุวรรณ “พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตแห่งแพร่งภูธร”
© 2018 All rights Reserved.