เที่ยวงานวัดบางยี่ขัน ชมจิตรกรรมงานชั้นครูในพื้นที่บ้านสวนฝั่งธนฯ
“เพลิดเพลินเคยเดินด้วยกัน แทะไหมฝันดูรถไต่ถัง หยอกเย้าบนชิงช้าสวรรค์ ถ่ายรูปคู่กันกินขนมจีนข้างทาง..” (เพลงงานวัด โดยวงเพื่อน)
เพลงงานวัดนี้อาจจะสะท้อนวัยเด็กของหลายคน ชวนให้นึกถึงความรื่นเริงของผู้คนในอดีตที่สัมพันธ์กับวัดในฐานะของศูนย์กลางชุมชน งานวัดเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจผู้คนด้วยมหรสพต่างๆ และอาหารการกินมากมาย รวมถึงเป็นที่พบปะสังสรรค์ของวัยรุ่นหนุ่มสาวได้ใช้เวลาพูดคุยหยอกเย้ากัน
สำหรับงานวัดบางยี่ขันจัดขึ้นทุกปีในช่วงวันมาฆบูชา เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ภายในคึกคักไปด้วยเครื่องเล่น อาหารการกิน เด็กในชุมชนวิ่งเล่นกันสนุกสนาน มีทั้งเสียงหัวเราะและคราบน้ำตาของเด็กที่งอแงจะเอาของเล่น เป็นสีสันของงานวัดกับเด็กน้อยที่ไม่เคยเลือนหายไปไหน
เสียงโหมโรงดังสนั่นจากเวทีมหรสพลิเกที่เชิญชวนชาวบ้านใกล้ไกลมาเตรียมตัวรอนักแสดงแต่งตัว ปะแป้งก่อนออกมาแสดงโชว์ อีกฟากของวัดเป็นมุมของหนังกลางแปลงจอใหญ่เด่นอยู่ในมุมมืด ถึงคนดูจะไม่มากแต่คนฉายหนังก็ไม่อิดออดที่จะฉายหนังต่อไป
เราเดินไปตามมุมต่างๆ ของวัด งานวัดอาจจะเรียบง่ายและไม่คึกคักมากมายอย่างในอดีตที่ผู้ใหญ่มักเล่าถึง เพราะทุกวันนี้แหล่งรวมความบันเทิงหาง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น หนังกลางแปลงและลิเกมีคนดูน้อยลง แต่วัดก็พยายามที่จะยังคงรักษาบรรยากาศงานวัดไว้ให้ชาวบ้านละแวกวัดได้มีกิจกรรมร่วมกัน
จุดไฮไลท์นอกจากความสนุกสนานแล้ว ยังมีส่วนให้ชาวบ้านทำบุญ โดยทางวัดมีการอัญเชิญหลวงพ่อนาค พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ปกติประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถลงไปให้ชาวบ้านปิดทองและกราบสักการะอย่างใกล้ชิดอยู่บริเวณศาลาวัด และโชคดีของเราที่มาช่วงวัดมีงานเลยได้เข้ามาในโบสถ์กราบพระประธาน ชมจิตรกรรมของครูช่างที่มีชื่อเสียงในย่านฝั่งธน
วัดบางยี่ขัน ศูนย์กลางชุมชนที่เก่าแก่ในพื้นที่บ้านสวน
ตามประวัติเล่าถึงความเก่าแก่ของวัดนี้ที่มีมาประมาณราวปี พ.ศ.2172 เดิมชื่อ “วัดมุธราชาราม” บางเอกสารระบุชื่อว่า “วัดมุขธราชธาราม” สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาและมีการบูรณะในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ในช่วงรัชกาลที่ 2-3 พระอุโบสถเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน มีหน้าบันและคันทวยเป็นไม้สลัก ใบเสมาทำด้วยศิลาทรายสีแดง อยู่ในเขตพุทธาวาสที่ปัจจุบันมีถนนตัดผ่านกลางวัด แยกพระอุโบสถออกจากส่วนอื่นๆ ของวัด ว่ากันว่าเคยเป็นถนนที่ใช้ลำเลียงสุราของโรงสุราบางยี่ขัน จึงไม่แปลกใจที่พบว่าทำไมมีถนนอยู่กลางวัดได้ ปัจจุบันเป็นเส้นทางสัญจรของผู้คนละแวกนี้
ในอดีตคลองบางยี่ขันเป็นพื้นที่ที่รุ่งเรือง มีชื่อเสียงจากความเป็นสวนเงาะ ทำให้เจ้าของสวนในแถบนั้นมีฐานะดี มั่งคั่งรำรวย มีเรื่องเล่าว่ารสชาติดีถึงขั้นที่เจ้าของสวนแห่งหนึ่งได้รับพระราชทานสิทธิ์พิเศษไม่ต้องเสียค่าอากรสวน และของขึ้นชื่อบางยี่ขันที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลยคือโรงสุราบางยี่ขันซึ่งสุนทรภู่กล่าวไว้ในนิราศภูเขาทองตอนหนึ่งว่า
“ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย”
ชมจิตรกรรมเลื่องชื่อในวัดบางยี่ขัน
จิตรกรรมฝาผนังเป็นฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ 3 เชื่อกันว่าเป็นฝีมือของครูคงแป๊ะ จิตรกรเอกแห่งรัตนโกสินทร์ ฝีมือการเขียนภาพของท่านจะสอดแทรกอัตลักษณ์ความเป็นจีนอยู่เสมอ พระท่านชี้ให้เราดูภาพเทวดาจีนองค์น้อยๆ ที่ปะปนอยู่กับเทวดาแบบไทย “นั่นไงเทวดาแปะ มองเห็นกันไหม” เราต่างพากันร้อง “อ๋อ..” มองเห็นเทวดาจีนในมุมมืดๆ สูงกว่าระดับศีรษะขึ้นไปอีก
ผนังระหว่างช่องหน้าต่างและประตูเป็นภาพเขียนเรื่องทศชาติชาดก ผนังเหนือขอบหน้าต่างเขียนเป็นภาพเทพชุมนุม บริเวณด้านหลังพระประธานเป็นภาพพระพุทธเจ้ายืนเหนือมหาสมุทรมีปูและปลาพอให้เห็นว่าเป็นผืนน้ำ มีสาวกขนาบซ้ายและขวาในท่าประคองอัญชลี อาจารย์สันติ เล็กสุขุม ให้ความเห็นว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับคติความเชื่อในวัฒนธรรมมอญและอาจเป็นฝีมือการซ่อมในระยะหลัง
ส่วนด้านหน้าพระประธานเป็นชุดภาพทศชาติเรื่องมโหสถ เหนือขึ้นไปคือภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ และพระแม่ธรณีบีบมวยผม ภาพจิตรกรรมยังมีความสวยงามอยู่หลายจุด ความเฉพาะของผนังด้านหน้าพระประธานคือยักษ์ผู้หญิง พระท่านบอกพร้อมติดตลกกับเราว่า “นี่แหละยักษ์บางยี่ขัน ไม่เป็นยักษ์ผู้ชายเหมือนที่อื่น” แต่น่าเสียดายที่จิตรกรรมฝาผนังฝั่งทางซ้ายของพระประธานยังมีความชำรุดเลือนหายอยู่มากรอการซ่อมแซมปรับปรุง
นอกจากนี้ยังเห็นว่าภาพเขียนในพระอุโบสถวัดบางยี่ขันสะท้อนให้เห็นถึงภาพวิถีชีวิตของผู้คนในฝั่งธนบุรีที่มีการทำสวนผลไม้ต่างๆ อย่างละเอียดและสวยงาม มีเงาะบางยี่ขันในภาพเขียนที่เล่าลือกันหนักหนาว่าสุดแสนจะอร่อย หากเข้าไปชมแล้วต้องใช้สายตาและจินตนาการสอดส่องดูเพราะภาพอาจจะเล็ก และด้วยสีสันที่เป็นธรรมชาติดูกลมกลืนสวยงามจึงไม่โดดเด่นสะดุดตามาก ผู้ชมจำเป็นต้องพกความตั้งใจนั้นไปด้วย
อ้างอิง
การศาสนา,กรม.ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม2.กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา(2526)
สันติ เล็กสุขุม, “จิตรกรรมฝาผนังของวัดฝั่งธนบุรี : วัดบางยี่ขัน,” วารสารเมืองโบราณ ปีที่ 30 ฉบับที่ 3
กรกฎาคม – กันยายน 2547, หน้า 132-134
ส.พลายน้อย.แม่น้ำลำคลอง.กรุงเทพฯ : มติชน.2555
Info
วัดบางยี่ขัน
Guide ใกล้ : Application คู่ใจคนชอบท่องเที่ยวตัวจริง
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
Writer/ Photographer
จารุวรรณ ด้วงคำจันทร์
Relate Place

ครัวแปดริ้ว
อยู่ถึงเมืองกาญจน์แต่ร้านชื่อ “แปดริ้ว” นั่นเพราะเจ้าของร้านซึ่งเป็นคนแปดริ้ว ร้านนี้ตกแต่งให้มีบรรยากาศสบายๆ ริมแม่น้ำแควน้อย ส่วนรสชาติอาหารนั้นมีรางวัลการันตี จานเด็ดได้แก่ ลาบปลาตะเพียน ผัดผักกูด ปลาแรดทอดน้ำปลา และแกงป่าปลากราย

เที่ยวย้อนรอยกรุงธนบุรี พระราชวังเดิม
ปลายปีนี้หากใครยังไม่มีแพลนเที่ยวไหน “นายรอบรู้” อยากชวนไปสัมผัสสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของไทยกัน ณ พระราชวังกรุงธนบุรี หรือ พระราชวังเดิม ขอบอกว่าปกติแล้วไม่ได้เข้าชมกันง่ายๆ แต่เนื่องในโอกาสพิเศษฉลองครบรอบ 250 ปี กรุงธนบุรี จึงเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรีได้ตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 28 ธันวาคมนี้เท่านั้น พลาดแล้วไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหน้าอีกเมื่อไร

กุ้งจ่อมรสเด็ดประโคนชัย
บุรีรัมย์ : มาเที่ยวเมืองปราสาทขอม อย่าลืมถามหา “กุ้งจ่อม” ของดีของเด็ดประจำเมืองไปเป็นของฝาก โดยเฉพาะกุ้งจ่อมสามรสกินกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยทุกคำที่เข้าปากเลยทีเดียว
