
กุ้งจ่อมรสเด็ดประโคนชัย
บุรีรัมย์ : มาเที่ยวเมืองปราสาทขอม อย่าลืมถามหา “กุ้งจ่อม” ของดีของเด็ดประจำเมืองไปเป็นของฝาก โดยเฉพาะกุ้งจ่อมสามรสกินกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยทุกคำที่เข้าปากเลยทีเดียว
แม้เวียงเก่าเมืองน่าน จะมีอาณาเขตไม่ใหญ่โต แต่จะให้เที่ยวให้จบครบทุกที่ก็คงจะยาก ยิ่งใครที่เพิ่งเคยมาถ้ามัวแต่เสียเวลาขับรถ คงไปได้ไม่กี่แห่ง เทศบาลเมืองน่านจึงเอาใจนักท่องเที่ยวที่สนใจแอ่วเวียงน่าน ด้วยการจัดบริการรถรางวิ่งรอบเมืองเก่า พร้อมมัคคุเทศก์อธิบายไปตามเส้นทาง
สำหรับคนที่ต้องการนั่งรถรางชมเมืองแบบเบื้องต้น ไปซื้อตั๋วได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตรงข้ามกับวัดภูมินทร์ เจ้าหน้าที่จะประกาศว่า รถรางคันไหนจะให้บริการ พร้อมแล้วก็กระโดดขึ้นรถมาได้เลย
สารถีประจำรถจะเริ่มวิ่งออกไปยังสี่แยกข่วงเมือง ที่ด้านขวาเป็นวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร วัดหลวงกลางเวียงอีกแห่งที่มีเจดีย์สีทองอร่าม มีฐานเป็นช้างล้อมค้ำไว้ ในวิหารประดิษฐานพระเจ้าหลวง พระประธานที่มีพุทธลักษณะงดงาม ผสมผสานเอกลักษณ์ช่างเมืองน่านกับช่างสุโขทัยไว้ด้วยกัน
ตรงข้ามกันจะเป็นที่ตั้งของ คุ้มเจ้าหลวงเมืองน่าน มีแนวต้นลั่นทมที่ผู้คนนิยมมาถ่ายภาพในอุโมงค์ต้นไม้นี้ ปัจจุบันคือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ที่จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองน่าน พร้อมทั้ง “งาช้างดำ” สิ่งของคู่บ้านคู่เมือง
พ้นสี่แยกรถรางจะเลี้ยวไปทางซ้าย เข้าถนนสุริยพงษ์ ด้านซ้ายมือจะขับผ่าน วัดมิ่งเมือง จะเป็นโบสถ์ วิหาร เป็นสีขาวสดสว่าง งดงาม ภายในวัดเป็นที่ตั้งของ “เสาหลักเมืองน่าน” หรือที่เรียกกันว่า “เสามิ่งเมือง” ทั้งวิหาร และโบสถ์มีลวดลายปูนปั้นลอยตัว มีทั้งเทพ ครุฑ ยักษ์ และอื่นๆ สวยงามน่าชม
จากนั้นจะวิ่งตรงไปยังสี่แยก เลี้ยวเข้าวัด “ศรีพันต้น” ที่โดดเด่นด้วยวิหารสีทองอร่ามขนาดใหญ่ หน้าวิหารโดดเด่นด้วยพญานาคาเจ็ดเศียรคอยเฝ้า ที่วัดนี้ยังมีโรงเก็บเรือยาวที่ใหญ่ที่สุดของเมืองน่าน ชื่อว่าเรือ “พญาฆึ” จะลงน้ำเพียงปีละครั้งเพื่ออัญเชิญถ้วยพระราชทาน รางวัลชนะเลิศการแข่งเรือเมืองน่าน ในช่วงเดือนตุลาคม เท่านั้น
ในคติการสร้างเมืองแบบล้านนาโบราณ มักจะสร้าง “สนามหลวง” หรือ “ข่วงหลวง” ไว้ใจกลางเมืองเพื่อทำพิธีกรรมต่างๆ วัดนี้ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของข่วงเมือง จึงได้ชื่อว่า “วัดหัวข่วง” โดยพระวิหารจะตั้งตรงกับวิหารวัดภูมินทร์ แต่พระประธานในวัดนี้จะไม่ได้ประดิษฐานอยู่ตรงกลาง เยื้องหลบอยู่ทางด้านซ้าย เพราะเหตุว่าไปตรงกับพระประธานวัดภูมินทร์
สิ่งก่อสร้างอีกอย่างที่น่าชมก็คือ หอไตร ซึ่งมีฐานล่างก่ออิฐถือปูน ด้านบนทำด้วยไม้ คล้ายกับหอไตรที่วัดพระสิงห์ จ. เชียงใหม่
จากนั้นรถจะวิ่งไปตามถนนผากอง ผ่านสี่แยกดอนแยง ที่มีเรื่องเล่าว่า ทหารน่านคอยเอาไว้แยง (มอง) พม่าข้าศึก ไปจนถึง วัดสวนตาล ซึ่งรถรางจะจอดให้เข้าไปกราบพระประธาน “พระเจ้าทองทิพย์” พระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ซึ่งชาวน่านจะอัญเชิญพระพุทธรูปจำลองออกมาแห่แหนไปทั่วเมืองเพื่อให้ประชาชนสรงน้ำในเทศกาลสงกรานต์ และที่วัดนี้ยังมีบ่อน้ำทิพย์ ที่ใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และใช้ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 ด้วย
ไหว้พระเสร็จแล้ว รถก็จะวิ่งต่อไปยังสี่แยกช้างเผือก ผ่านวัดช้างเผือก เข้าสู่ชุมชนวัดพระเกิด ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นน่าชม บางครั้งก็มีกิจกรรมการแกะสลักพระไม้ให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองแกะสลักด้วย
จากนั้นจะพาไปยัง “โฮงเจ้าฟองคำ” โฮงหรือโรงเจ้านี้ เป็นบ้านพักที่อยู่อาศัยของเจ้านายชั้นรองลงมา ถ้าเป็นเจ้าหลวง หรือเจ้าราชบุตร จะเรียกว่า “คุ้ม”
เรือนหลังนี้เป็นแบบล้านนาโบราณ มีชานแล่น มีหอนอน หอนั่ง น่าชม ด้านบนจัดแสดงห้องนอน ห้องพักผ่อนของท่านเจ้าของเรือนเหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน ส่วนด้านล่างจัดแสดงการทอผ้า วิถีชีวิตคนไทลื้อเมืองน่าน ตั้งแต่การอีดฝ้าย ปั่นเป็นเส้น ย้อม ทอ ซึ่งรถรางจะแวะอยู่ที่นี่ประมาณ 15-20 นาที พอได้ชมแบบผ่านๆ หากใครสนใจจริงจัง จะมาเองอีกครั้งก็ได้
มาจนถึงศาลเจ้าปุนเถ่ากง และวัดหัวเวียงใต้ ก่อนจะผ่านย่านตลาดสด โดยตลอดทางจะมีการบรรยายเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยเกี่ยวกับบ้านเรือน วิถีชีวิต ผู้คน และอื่นๆ ให้ฟังตลอดทาง เรียกว่าได้ความรู้ความเข้าใจเมืองน่านอย่างเต็มอิ่ม
เมื่อรถรางเลี้ยงผ่านวัดกู่คำ เข้ามาใกล้ศูนย์บริการ มัคคุเทศก์ของเรามักจะอวยชัยให้พร หลับก็ขอให้ได้เงินหมื่น ตื่นก็ขอให้ได้เงินแสน พร้อมทั้งท่องคำกระซิบรักรำพัน* ให้ฟังด้วย ส่วนจะกระซิบว่าอย่างไรนั้น ขอให้ลองไปฟังกันเอาเอง
เวลาให้บริการ
ทุกวันเวลา 09.30,10.30,13.30,15.30 น.
อัตราค่าบริการ
–บุคคลทั่วไป ราคา 30 บาท / ที่นั่ง
–เด็ก ( อายุไม่เกิน 12 ปี ) ราคา 15 บาท / ที่นั่ง
–ผู้สูงอายุ ( 60 ปีขึ้นไป ) ราคา 15 บาท / ที่นั่ง
รายละเอียด เหมาบริการ ราคา 1,000 บาท / 28 ที่นั่ง (กรุณาแจ้งล่วงหน้า 1 สัปดาห์
การเหมาบริการ บริการนอกเวลารอบจำหน้าบัตร/ รอบสุดท้ายไม่เกินรอบเวลา 15.30 น.
รถรางชมเมือง ใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทาง 1 ชั่วโมง แวะจอดแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน จำนวน 2 จุดๆละ 10 นาทีโดยมีเจ้าหน้าที่บรรยายบนรถรางตลอดเส้นทาง
จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดการเดินทางที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน
ติดต่อสอบถาม ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เทศบาลเมืองน่าน โทร. 054-775-169
*คำกระซิบรัก หาอ่านได้ในเรื่อง จิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
บุรีรัมย์ : มาเที่ยวเมืองปราสาทขอม อย่าลืมถามหา “กุ้งจ่อม” ของดีของเด็ดประจำเมืองไปเป็นของฝาก โดยเฉพาะกุ้งจ่อมสามรสกินกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยทุกคำที่เข้าปากเลยทีเดียว
โอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ ศรีราชา จัดโปรสุดว้าว! “MID YEAR SALE” ส่ง 2 ดีลดี๊ดี! ที่ไม่ควรพลาด เชิญชวนสายชิล มาร่วมเปลี่ยน “เที่ยวทิพย์” ให้เป็น “ทริปเที่ยว”
เราอยากแนะนำ Passione del Caffé ร้านกาแฟที่มีทั้งกาแฟดีๆ และเพื่อนสนทนาเรื่องกาแฟ ที่อยู่ใจกลางเมืองตรัง สำหรับคนหลงรักรสชาติและความหอมของกาแฟได้ไปลองกัน
“คาลิ-เม็กซ์ ประเทศไทย วางแผนขยายธุรกิจ โดยได้การตอบรับ จากลูกค้าในเมืองไทยอย่างดี. โดยมี 3 โมเดล คือ Cali-Mex Bar & Grill, Cali-Mex Tequeria, Cali-Mex delivery ผ่าน Food Panda และเร่งเปิดสาขาจำนวน 20 แห่งภายในระยะเวลา 3 ปี
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
กาฬสินธุ์เป็นเส้นทางการค้าระหว่างไทยกับประเทศแถบอินโดจีน และเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศเมื่อค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์จำนวนมากและมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดในไทยที่ภูกุ้มข้าว อ. สหัสขันธ์ โปงลางซึ่งเป็นเครื่องดนตรีชั้นเลิศของอีสานก็ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกที่จังหวัดนี้ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ไทที่มีศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจด้วย
“ฮึบ เอ้า ฮึบ หนึ่ง สอง สาม สี่ …..” เสียงฝีพายจากเรือยาวสองลำกำลังส่งเสียงพร้อมกับออกแรงวาดพายให้กินน้ำพร้อมตวัดพายอย่างรวดเร็วจนน้ำกระจาย เพื่อเร่งส่งให้เรือยาวหัวนาคลำสวยของหมู่บ้านตนชิงเข้าเส้นชัย
ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ “นายรอบรู้” ขอพาไปสำรวจนิทรรศการใกล้สามย่านมิตรทาวน์ แหล่งรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและของอร่อยขึ้นชื่อ มีนิทรรศการที่ฟังแค่ชื่อก็น่าสนใจแล้ว
หากคุณชอบถ่ายภาพ และรักการดื่มกาแฟ เรามีคาเฟ่แสนสวยที่จะทำให้คุณหลงใหลมาแนะนำกัน
© 2018 All rights Reserved.