หลายคนคงรู้กันอยู่แล้วว่าที่ จ. เพชรบุรีของเรานั้นเด่นเรื่อง ตาล ไม่ว่าไปที่ไหนก็ต้องเจอ ต้นตาล ขนมตาล น้ำตาลสด หรือจะเป็น น้ำตาลโตนด ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดเลยก็ว่าได้ วันนี้นายรอบรู้จะพาคุณไปกันที่ศูนย์เรียนรู้ ทุ่งนา ป่าตาล ณ หมู่บ้านไร่กร่าง ที่จะทำให้คุณได้เห็นขั้นตอนการทำทุกอย่าง และได้ชิมตาลกันแบบสดๆ ใหม่ๆ อีกด้วย
“ต้นกร่างคู่บ้าน ตาลโตนดเลิศล้ำ วัฒนธรรมภูมิปัญญา ภาษาถิ่นประทับใจ”
เดิมทีหมู่บ้านไร่กร่างเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีประชากรอพยพมาจากหมู่บ้านระหานน้อย แล้วได้เห็นว่าที่ตรงนี้มีลักษณะภูมิศาสตร์ที่ดี เพราะมีทั้งห้วย กับหนองน้ำไหลผ่านรอบๆ แถมยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นตาล และต้นไม้ใหญ่ โดยเฉพาะต้นกร่างที่เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน ที่นี่มีต้นต้นกร่างขนาดใหญ่ ต้องใช้ถึง 15 คนโอบอยู่ 1 คู่ ชาวบ้านจึงตัดสินใจที่จะยึดสถานที่ตรงนี้เป็นที่อยู่อาศัย และทำมาหากิน พร้อมตั้งชื่อหมู่บ้านว่า หนองไร่กร่าง ต่อมาเรียกกันเพี้ยนจนเป็น หมู่บ้านไร่กร่าง
คนในชุมชนส่วนมากประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา และการนำผลผลิตจากต้นตาลมาใช้ประโยชน์ โดยการปีนขึ้นไปเก็บน้ำตาลจากต้นเองเพื่อนำมาขาย นอกจากนี้ยังมีแหล่งเรียนรู้เล็กๆ เพื่อที่จะมอบความรู้เกี่ยวกับต้นตาล และการทำตาล ที่ทำมาอย่างยาวนาน ในชื่อ แหล่งการเรียนรู้ ทุ่งนาป่าตาล บ้านไร่กร่าง
ความพิเศษของที่นี่ก็คือ เมื่อมาถึงทุกคนจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนที่นี่ไม่ว่าจะเป็นการขี้นโกนด หรือการขึ้นไปเอาตาล ภาษาถิ่นของที่นี่เรียกโตนดว่า โกนด การนวด การต้มตาล การทำน้ำตาลโตนด และยังได้ชิมน้ำตาลสดแบบที่เก็บมาให้ชิมกันสดๆ เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ถึงรสชาติที่แท้จริง หรือจะเป็นน้ำตาลเมาที่หากินที่ไหนไม่ได้ และขนมตาลที่ทำให้ทุกคนได้กินแบบร้อนๆ จากซึ้ง
หลายคนคงจะไม่รู้กันว่าจริงๆ ต้นตาลนั้นก็มีเพศเหมือนกัน โดยเพศเมียจะออกลูก แต่เพศผู้จะแทงปลีออกมา ตาลตัวเมียพอมีลูกแล้วก็จะมีเต้าตาล ที่สามารถเอามาทำตาลลอยแก้วได้ แต่ถ้าแก่แล้วก็มาทำขนมตาล ตาลยิ่งอายุมาก ให้ผลผลิต และน้ำเยอะอีกด้วย แก่แต่เก๋าจริงๆ
สิ่งที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ขึ้นชื่อของที่นี่ เหมาะสำหรับสายดื่มไปนั่งคุยไป นั่นก็คือ กะแช่หรือน้ำตาลเมา เป็นภูมิปัญญาที่เมื่อเลิกจากขึ้นตาลก็มานั่งคุยกัน ชาวบ้านก็คิดกันมาว่าน่าจะมีอะไรดื่มไปด้วย และเริ่มที่จะทำกะแช่ขึ้น โดยนำน้ำตาลที่เอาลงมาจากยอด กับเปลือกมะเกลือมาเผาไฟไปหมักรวมกัน จากนั้นเทน้ำตาลสดลงไป กะแช่มีกลิ่นค่อนข้างแรง และขม แต่มีแอลกอฮอล์แต่น้อย เลยทำให้เมาช้า และอยู่คุยได้นาน
สำหรับใครที่สนใจอยากมาดู มาชิม มาลองทำดูซักครั้ง ให้มาช่วงฤดูที่ตาลออก ที่นี่จะเปิด 6 เดือน คือ ปลายพฤศจิกายน – เมษายน ปิด 6 เดือน เพื่อพักธรรมชาติ อนุรักษ์ธรรมชาติ ช่วงพฤษภาคม และเวลาที่ควรมาทุ่งนาป่าตาล ควรมาช่วงเช้า เพราะกระบวนการขึ้นจนถึงลงมาเคี่ยวน้ำตาลจะมีช่วงเช้าเท่านั้น
ที่ตั้ง ต. ไร่สะท้อน อ. บ้านลาด จ. เพชรบุรี
โทร. 081-019-5545 (ผู้ใหญ่บ้าน คุณประสงค์ หอมรื่น)
เปิด ทุกวัน 6.00 – 17.00 น.
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดโครงการคาราวานรถยนต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมไทย-จีน ณ มณฑล ยูนนานและมณฑลกุ้ยโจว (คุนหมิง-กุ้ยหยาง-เจิ้นหยวน-ซีเจียง-ขายหลี่-คุนหมิง) สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2562
ร้านหมูสะเต๊ะเจ้าดังย่านท่าดินแดง ที่มีเตาย่างยาวตั้งแต่ 2 เมตรกว่าไปจนถึง 4 เมตร คนย่างยืนประกบสองฝั่งเรียงรายแต่เช้ายันค่ำ ลองคิดดูว่าจะขายดีแค่ไหน แม้ไม่ใช่หมูสะเต๊ะเจ้าแรกในท่าดินแดง แต่ด้วยสูตรเด็ดเคล็ดลับและวัตถุดิบเปี่ยมคุณภาพทำให้ตี๋หมูสเต๊ะเป็นที่รู้จักและบอกต่อปากต่อปาก ว่าเนื้อหมูนุ่ม ชุ่ม ฉ่ำ ด้วยคัดสรรเฉพาะสันนอกเส้นกลางๆ ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป หั่นชิ้นสวยพอดีไม้ มีสูตรลับในการหมักหมูที่ไม่เปิดเผย แค่รู้กันว่าหมักและเสียบไม้ไว้ข้ามคืน ก่อนนำมาย่างด้วยถ่านโกงกางอัดแท่ง ทำให้ไฟร้อนสม่ำเสมอ แถมขี้เถ้าน้อย ไม่แตกปะทุ หมูที่ได้จึงสุกกำลังดี มีกลิ่นหอม ร้านนี้มีให้เลือกทั้งหมูสะเต๊ะเนื้อล้วน ติดมัน และตับย่าง กินแบบไม่พึ่งน้ำจิ้มก็นุ่มละมุน ไม่กระด้าง ยิ่งจิ้มน้ำจิ้มถั่วที่คั่วทั้งถั่วและงาเองยิ่งหอมยั่วลิ้น
ประตูสู่ภาคใต้อย่าง จ. ชุมพร จะไม่ใช่เมืองทางผ่านอีกต่อไป เพราะปัจจุบันนี้ ชุมพร กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว มีทั้งทะเล ป่าไม้ ธรรมชาติิอันสวยงาม มีคนน่ารักๆ ของกินอร่อย ผลไม้รสชาติดี แล้วแบบนี้จะไม่ให้มาเที่ยวชุมพร…ได้อย่างไร
วันนี้ นายรอบรู้ อยากชวนทุกคน ไปสัมผัส 6 ที่ ห้ามพลาด เมื่อคุณมาถึงชุมพรกัน
“Beyond the Air We Breathe: Addressing Climate Change” คัดสรรผลงานภาพจากช่างภาพระดับโลกจำนวนกว่า 80 ท่าน ที่ถ่ายทอดผลงานภาพถ่ายของตนโดยสะท้อนให้เห็นถึงความผลกระทบของสภาพอากาศที่เลวร้ายได้เปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมไปอย่างไร
© 2018 All rights Reserved.