
สัมผัสความสุขวิถี “บ้านจุ้ม เมืองเย็น” ที่ออนใต้
ชุมชนเก่าร้อยเรื่องราว ทั้งประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม สังคม ภูมิปัญญา และวิถีชีวิตสืบทอดกันรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนที่ใช้เรียกขานกันสืบมาว่า “บ้านจุ้ม เมืองเย็น”
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ดำเนินการขุดคลองดำเนินสะดวกในปี พ.ศ. 2409 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2411 มีความยาวกว่า 32 กม. ผ่านพื้นที่สามจังหวัด คือ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และราชบุรี เชื่อมแม่น้ำท่าจีนกับแม่น้ำแม่กลอง ครั้งดำเนินการขุดคลอง ใช้วิธีการแบ่งขุดระยะเว้นระยะ ระยะหนึ่งยาว 100 เส้น (4 กม.) พอน้ำหลากน้ำก็จะกัดเซาะดินส่วนที่ไม่ได้ขุดให้พังไปเอง
การแบ่งระยะขุดคลองที่ว่านี้ ทุกระยะจะปักเขตเป็นหลักเสาหินไว้ มีทั้งหมดแปดหลัก เสาหินแต่ละหลักมีเลขไทย โรมัน จีน กำกับไว้ ที่หัวเสาทำเป็นรูปองค์เจดีย์ประดับ อ. ดำเนินสะดวก จ. ราชบุรี ตั้งอยู่บริเวณหลักที่ 6 ถึงหลักที่ 8 ชุมชนและผู้อยู่อาศัยใกล้แต่ละหลัก จะถูกเรียกขานตามหลักนั้น เช่น คนหลักหก บ้านอยู่หลักแปด เป็นต้น ในปัจจุบันหาเสาที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ได้แล้ว
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว

ชุมชนเก่าร้อยเรื่องราว ทั้งประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม สังคม ภูมิปัญญา และวิถีชีวิตสืบทอดกันรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนที่ใช้เรียกขานกันสืบมาว่า “บ้านจุ้ม เมืองเย็น”

“ถนนสายเฉลิมบูรพาชลทิต” เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเลาะเลียบชายทะเลตะวันออกที่สวยงาม โดยเริ่มตั้งแต่ อ. สัตหีบ จ. ชลบุรี ผ่านเข้าสู่จ. ระยอง บริเวณอ่าวไข่ จากนั้นเข้าสู่ จ. จันทบุรี จนไปสิ้นสุดที่บ้านแหลมสิงห์

ร้านนี้บรรยากาศสบายๆ เป็นชานไม้หลังคามุงจากยื่นไปในทะเล นั่งรับลมชมวิถีหมู่บ้านชาวประมงพันท้ายฯ ที่ออกเรือหาปลา เก็บหอยตามหลักกลางทะเล แถมยังมีบรรดานกนางนวลและนกกาน้ำบินโฉบมาให้ชมอีกด้วย มาที่เดียวเหมือนได้โชคหลายชั้น เพราะเมนูซีฟู้ดสดๆ ที่ส่งตรงจากเรือประมงของชาวบ้านอร่อยเลิศอย่าบอกใครเชียว

เกือบ 10 ปีที่แล้ว สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผมเคยไปเที่ยวดอยอินทนนน์ จังหวัดเชียงใหม่ กับชมรมถ่ายภาพของคณะที่ศึกษาอยู่ จำได้ว่าพวกเรามัวแต่ไปต่อแถวถ่ายภาพเท่ๆ กับป้าย “สูงสุดแดนสยาม” กันอยู่นานสองนาน แล้วเพื่อนคนหนึ่งก็เหลือบไปเห็นป้าย “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา” เราจึงลองเดินไปสำรวจกัน