Sansiri Backyard สวนผักกลางเมือง

เมื่อมีสิ่งหนึ่ง เราจะโหยหาอีกสิ่งหนึ่ง  เมื่อเราอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยความเจริญ เราจะโหยหาธรรมชาติ  ทุกวันนี้เราต่างมองหาความสมดุลของการใช้ชีวิต  พื้นที่สีเขียวในเมืองใหญ่เป็นภาพที่มองหาได้ยาก แต่ใช่ว่าจะหาไม่เจอ ดังเช่นที่ Sansiri Backyard @T77 Community สถานที่เช็กอินแห่งใหม่ย่านสุขุมวิท

เราอยากให้พื้นที่ 15 ไร่ตรงนี้ เป็นศูนย์การเรียนรู้ เป็นพื้นที่สีเขียวที่มีประโยชน์คุณอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) บอกถึงที่มาของสวนกลางกรุงแห่งนี้

Sansiri Backyard @T77 Community ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ 15 ไร่ภายใต้แนวคิด 3G คือ Green-สร้าง Grow-ปลูก Give-แบ่งปัน เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นสถานที่พักผ่อนให้คนที่มาเยี่ยมชม และยังมีกิจกรรมให้ผู้ปกครองได้ทำร่วมกับลูกหลานทุกอาทิตย์ กิจกรรมหลักคือการเพ้นต์กระถาง และวันเสาร์อาทิตย์เป็นกิจกรรมเก็บไข่ไก่

สวนของที่นี่เป็นสวนออร์แกนิก เมื่อเดินเข้าไปในสวนจะพบกับผักผลไม้เจ็ดสีซึ่งปลูกหมุนเวียนตามฤดูกาล เช่น กรีนโอ๊ก อัญชัน ฟักทอง มะเขือม่วง กะหล่ำปลี บัตเตอร์นัต มัลเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี แตงโม มะเขือเทศ มะละกอ ข้าวโพด พริกหยวก เมล่อน ฯลฯ

ภายในฟาร์มมีการนำเทคโนโลยี iFarm (Intelligent Farm) เข้ามาช่วยเรื่องการเพาะปลูก เช่น วัดความชื้น ควบคุมอุณหภูมิผ่านทางจอทีวี รวมถึงใช้ระบบควบคุมวาล์วน้ำแบบไร้สาย  นอกจากแปลงเพาะปลูกก็มีบ่อเลี้ยงปลาทับทิม 500 ตัว และพื้นที่เลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดีอีกราว 30 ตัว

บริเวณฟาร์มยังมีทุ่งดอกปอเทืองสีเหลืองอร่ามที่ไม่ได้มีไว้ถ่ายเซลฟี่สวยๆ อย่างเดียว แต่ใช้ประโยชน์จากต้นปอเทืองในการปรับสภาพหน้าดินให้ดีขึ้นด้วย อันมีจุดเริ่มต้นจากโครงการพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง  การหว่านปอเทืองครั้งหนึ่งจะช่วยปรับปรุงหน้าดินได้ถึง 15 ปีทีเดียว

คนเมืองที่อยากมีสวนผักเพื่อสุขภาพเป็นของตนเอง แต่ไม่มีพื้นที่ปลูก ที่นี่มีบริการ My Farm ให้เช่ากระบะปลูกขนาด 1×1 เมตร รวมค่าซื้อคอร์สในราคา 1,000 บาท แล้วคนเช่าเลือกว่าอยากปลูกอะไร ทางฟาร์มก็จะมีคนปลูกและดูแลให้  ใกล้ๆ กันยังมีแปลงผัก Self-Harvest ที่เปิดให้คนมาตัดผักเพื่อนำไปปรุงอาหารเองด้วย

หลังจากเดินชมสวนและทำกิจกรรมในฟาร์มจนหมดแรงแล้ว ก็มีร้าน My Backyard Farm & Café ให้นั่งพักขาเติมพลัง  คาเฟ่นี้ยังคงความเป็นออร์แกนิกอยู่ อาหารและเครื่องดื่มเป็นเมนูสุขภาพเกือบทั้งหมด  ข้อสำคัญคือเขาใช้วัตถุดิบที่มีในฟาร์มและวัตถุดิบปลอดสารเคมีมาปรุงเมนูต่างๆ โดยจะเปลี่ยนวัตถุดิบไปตามฤดูกาล

หลังฝ่าอากาศร้อนจากข้างนอก พอเข้ามาในร้าน เครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งเยอะมากจะเป็นน้ำเสาวรสซึ่งใช้เสาวรสสด รสเปรี้ยวๆ ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ดับกระหายได้เป็นอย่างดี

ส่วนเมนูอาหารที่ลูกค้าชื่นชอบนั้นเป็นเมนูแนะนำของทางร้านด้วย คือสลัดมายแบ็กยาร์ด  วัตถุดิบหลักจะเป็นอะโวคาโดกับมะม่วงน้ำดอกไม้  ความมันจากอะโวคาโดและความหวานของมะม่วงคลุกเคล้ากับน้ำสลัดเสาวรสสดรสเปรี้ยว กลายเป็นความอร่อยที่ลงตัว กินแล้วชุ่มปากชุ่มคอ

ต่อมาเป็นเมนูอมาตริเชียน่า รสชาติคล้ายคาโบนาร่า แต่มีรสเผ็ดจากซอสพริกและเครื่องเทศ ด้วยสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดเอง  เมนูถัดมาคือปลากะพงย่างและซอสสมุนไพร น้ำซอสทำจากใบโหระพา กินคู่กับปลากะพงย่างและมันเทศได้รสแบบไทยๆ อร่อยเข้ากันดี

ใครต้องการซื้อผักผลไม้สดๆ ปลอดสารเคมีติดไม้ติดมือกลับบ้าน ทางคาเฟ่ก็มีให้เลือกซื้อหลากหลายชนิด

มา Sansiri Backyard นอกจากจะได้สัมผัสธรรมชาติแล้ว ยังได้เรียนรู้การปลูกผัก ได้ทำกิจกรรมอย่างเพลิดเพลิน และได้ชิมอาหารที่สด อร่อย ปลอดภัยจากสารเคมีอีกด้วย  ที่นี่จึงนับเป็นอีกความสมดุลหนึ่งของวิถีชีวิตคนเมืองใหญ่

Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest

Info

Sansiri Backyard @T77 Community

ที่ตั้ง . สุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

ร้าน My Backyard Farm & Café เปิด 07.00-22.00 .  โทร. 06-2525-9914

สวนผัก Sansiri Backyard เปิด 07.00-18.00 .  โทร. 0-2027-7888

Previous
Next

Guide ใกล้ : Application คู่ใจคนชอบท่องเที่ยวตัวจริง

Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว

Writer

ศิริขวัญ เสนะอุปถัมภ์

ศิริขวัญ เสนะอุปถัมภ์

Photographer

กรดล แย้มสัตย์ธรรม

กรดล แย้มสัตย์ธรรม

Relate Place

tips travelers

Depth of field: ฉากหลังแบบไหนก็สำคัญไม่แพ้กัน

ช่วงนี้เป็นช่วงแห่งการเดินทางถ่ายภาพ โดยเฉพาะการขับรถขึ้นเหนือซึ่งถือเป็นเวลาทองของช่างภาพ วันนี้จึงขอพูดถึงเรื่อง “ฉากหลัง” เพราะภาพที่เราดั้นด้นไปเก็บบันทึกจะสวยงามโดนใจหรือไม่ก็อยู่ที่ฉากหลังด้วยเช่นกัน

Eat

คอฟฟี่เฮ้าส์

ชาร์จความสดชื่นเพิ่มความกระปรี้กระเปร่ากันด้วยกาแฟ ถ้วยโปรด  แม้ “คอฟฟี่เฮ้าส์” จะเพิ่งเปลี่ยนเจ้าของ แต่ร้านยังคงอยู่ที่บ้านหลังเดิมกลางสนามหญ้าสีเขียวสดที่แต่งแต้มด้วยไม้ดอกไม้ใบและรูปปั้นเซรามิกสีสันสดใส โดยมีฉากหลังเป็นทิวเขา อวลด้วยบรรยากาศ อบอุ่นเป็นกันเองเหมือนเดิม

Eat

“DID – Dine in the Dark” เปิดประสบการณ์ Diner ในความมืด เพียงแห่งเดียวในเมืองไทย

ใครที่ชื่นชอบอาหารอินเดียคงไม่พลาด Rang Mahal Rooftop Indian Restaurant ห้องอาหารอินเดียในรูปแบบ fine dining บนชั้น 26 ของโรงแรมแรมแบรนดท์ ย่านสุขุมวิท ที่ได้รับรางวัล Thailand’s BestRestaurants จากนิตยสาร Thailand Tatler ถึง 13 ปีซ้อน