ล่องใต้ให้สุด แล้วตั้งหมุดไป “วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย”

หลายครั้งที่เดินทางมายังภาคใต้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพความสวยงามของธรรมชาติและมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนพหุวัตนธรรมยังตราตรึงใจเสมอ ทั้งหมดหล่อหลอมจนเป็นวิถีชีวิตและมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าหลงไหล หนึ่งในนั้นคือ วัดชลธาราสิงเห หรืออีกชื่อ ที่มักเจอในหน้าประวัติศาสตร์ไทยคือ วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย

บรรยากาศภายในวัด

ความเป็นมาดั้งเดิมถึงเรื่องราวที่ถูกส่งต่อ

วัดชลธาราสิงเห ตั้งอยู่ที่ ต. เจ๊ะเห อ. ตากใบ จ. นราธิวาส ท่านพระครูโอภาสพุทธคุณ (พุด) เป็นผู้เริ่มก่อตั้งวัดแห่งนี้ เมื่อ พ.ศ. 2403  โดยขอที่ดินจากพระยากลันตัน แต่เดิมเรียกว่าวัดเจ๊ะเหตามชื่อหมู่บ้าน ต่อมาได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการโดยนายอำเภอตากใบคนแรกว่า วัดชลธาราสิงเห ซึ่งแปลว่า วัดริมน้ำที่สร้างด้วยพระภิกษุที่มีบุญฤทธิ์ประดุจราชสีห์ พื้นที่วัดตั้งอยู่บนเนินดินริมแม่น้ำตากใบ ทำให้เวลาเดินเที่ยวชมภายในวัดมักมีลมเย็น ๆ ลอยมาสัมผัสให้ชื่นใจเสมอ

ประวัติเล่าไว้ว่า ในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2452 วัดแห่งนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้สยาม ต่อมากลายเป็นไทย ยังคงรักษาดินแดนในพื้นที่ภาคใต้ได้อยู่ จากกรณีแบ่งแยกดินแดนตากใบระหว่าง สยาม กับมลายู ซึ่งในขณะนั้นเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษ ต่อมากลายเป็นมาเลเซียในปัจจุบัน

โดยอังกฤษได้ทำการปักปันเขตแดนเข้ามาถึงบ้านปลักเล็กเลยจากวัดชลธาราสิงเห 25 กิโลเมตร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเจ้าอยู่หัวจึงทำการแย้ง โดยให้เหตุผลว่าวัดชลธาราสิงเหเป็นวัดไทยที่มีความสำคัญ เป็นมรดกทางที่สำคัญพุทธศาสนา มีสถาปัตยกรรมภายในวัดและศิลปะบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของชุมชน มาเป็นเครื่องต่อรองการแบ่งปันเขตแดน ฝ่ายอังกฤษจึงยอมรับและเลื่อนการปักปันเขตแดนถอยลงไปทางใต้จนถึงลำน้ำโกลก ทำให้ อ. ตากใบ อ. แว้งและ อ. สุไหงโกลก ยังอยู่ในการปกครองของไทยจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่นั้นจึงมีการเรียกวัดแห่งนี้ว่า “วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย”

วัดชลธาราสิงเห-อุโบสถ-1
วัดชลธาราสิงเห-อุโบสถ-4

พระอุโบสถแสนงาม

พระอุโบสถตั้งอยู่ประมาณกึ่งกลางของวัด หันหน้าไปทางลำน้ำตากใบ มีสถาปัตยกรรมแบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ 3 เป็นอาคารเครื่องก่อ มีชายคาปีกนกลดหลั่นลงมา 3 ชั้น ท่านอาจารย์พุด  ได้สร้างพระอุโบสถโดยมอบให้พระไชยวัดเกาะสะท้อนเป็นช่างก่อสร้าง โดยมี พระธรรมวินัย (จุ้ย) และทิดมี ชาวสงขลาช่วยกันเขียนภาพในพระอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง 3 ด้าน ยกเว้นแต่ด้านหลังขององค์พระประธาน รวมถึงบนเสาและเพดาน ด้วยความที่มีชาวสงขลามาร่วมวาด ทำให้ภาพเขียนมีลวดลายความเป็นจีนเข้ามา ภาพส่วนใหญ่เป็นพุทธประวัติที่สอดแทรกภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยนั้น อีกทั้งมีภาพการใช้ชีวิตทั้งคนพุทธ มุสลิม จีน ซึ่งบ่งบอกได้ดีถึงวิถีชีวิตแบบพหุวัฒนธรรมในพื้นที่แห่งนี้มายาวนาน

วัดชลธารา-พิพิธภัณฑ์วัดชลธาราสิงเห-(2)

พิพิธภัณฑ์ภายในวัด        

อาคารที่ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2498 โดยพระครูสิทธิสารวิหารวัตร เดิมเป็นอาคารกุฏิไม้ทั้งหลังแต่ปัจจุบันมีการต่อเติมบำรุงใหม่และได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากรให้เป็นพิพิธภัณฑสถานวัดชลธาราสิงเหเพื่อเก็บโบราณวัตถุชิ้นสำคัญของวัด จากภาพถ่ายเก่า พบว่ากุฏิสิทธิสารประดิษฐ์เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ยกพื้นสูง หลังคาเป็นทรงปั้นหยาซ้อนกันหลายชั้น มุงกระเบื้องดินเผา บันไดหน้าเป็นบันไดก่ออิฐถือปูน มีการทำพนักเป็นรูปตัวนาค ปลายหางโค้งงอนรับกับมุขหลังคา ยอดหลังคาตกแต่งด้วยปูนปั้นลายเครือเถา ส่วนมุมหลังคาทำรูปคล้ายหางหงส์หรือหัวนาค

ด้านในมีการจัดแสดงอุปกรณ์เครื่องใช้สมัยก่อนทั้งเครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ในการประกอบอาชีพและอาวุธต่าง ๆ รวมถึงการจำลองเหตุการณ์การลงนามในสัญญาไทย – อังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2451

พลับพลาที่ประทับในรัชกาลที่ 6

ในปี พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้เสด็จประพาสวัดชลธาราสิงเหและได้มีการสร้างพลับพลาริมแม่น้ำตากใบเป็นที่ประทับซึ่งทางวัดยังรักษาไว้ในสภาพที่สมบูรณ์ พื้นที่ตรงนี้เป็นลานกว้างริมแม่น้ำให้ได้มานั่งพักผ่อนย่อนใจ ทัศนียภาพโดยรอบเป็นแม่น้ำตากใบอันสวยงาม ไฮไลท์คือสามารถมองเห็นสะพานคอย 100 ปี ทอดข้ามแม่น้ำตากใบไปยังเกาะยาว ตรงนี้เป็นวิวที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนราธิวาสเลยก็ว่าได้ หากใครมาอย่าลืมมา นั่งเล่นปล่อยอารมณ์ให้ผ่านไปกับสายน้ำและลมเย็น ๆ กันด้วยนะ…สบายอย่าบอกใครเชียว

นอกจากอาคารสถาปัตยกรรมแล้วที่แห่งนี้ยังมีภาษาที่ปัจจุบันหาฟังได้แค่ที่นี้เท่านั้นคือ ภาษาเจ๊ะเห เป็นภาษาถิ่นแต่ดั้งเดิม มีความไพเราะแตกต่างจากภาษาถิ่นใต้ทั่วไป เป็นเอกลักษณ์ของชาวตากใบและจังหวัดนราธิวาสมาจนถึงปัจจุบันนี้ 

วัดชลธารา-บรรยากาศภายในวัด

หากใครชอบความสบายและบรรยากาศเงียบสงบสถานแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่ควรจะมาท่องเที่ยวสักครั้งหากมีโอกาส ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมและธรรมชาติที่สวยงาม อีกทั้งเต็มไปด้วยวิถีชีวิตของชาวเจ๊ะแห รวมถึงความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทย

Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest

Info

บ้านป่าเหมี้ยง

ที่ตั้ง ต. เจ๊ะเห อ. ตากใบ จ. นราธิวาส

Previous
Next

Guide ใกล้ : Application คู่ใจคนชอบท่องเที่ยวตัวจริง

Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว

Writer/ Photographer

อิสรากรณ์ ผู้กฤตยาคามี

อิสรากรณ์ ผู้กฤตยาคามี

Relate Place

News

RPST Master Series Artist Talk by Tom Jacobi

สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิลูซีและหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เปิดเวที “RPST Master Series Artist Talk”

Eat

Gai Hound ข้าวมันไก่ออร์แกนิก

Gai Hound ร้านข้าวมันไก่ออร์แกนิกในเครือเดียวกับ Greyhound นำเสนอข้าวมันไก่แบบพรีเมียมซึ่งเลือกใช้วัตถุดิบออร์แกนิกเป็นส่วนประกอบทุกอย่างทั้ง ไก่ ข้าว และผัก

News

หน้ากากผ้า Item จำเป็นต้านโควิด-19

หน้ากากผ้า กลายเป็นสิ่งของจำเป็นที่ทุกคนต้องมีติดตัวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 บางคนตัดเย็บด้วยตัวเอง แถมตกแต่งแบบไม่เหมือนใครจนกลายเป็นหน้ากากผ้า Rae Item มีเพียงผืนเดียวในโลก

Eat

อร่อยมื้อเช้าที่ร้านอร่อยเช้านี้

อุดรธานี : ตื่นมาในยามเช้าที่อุดรธานี หากยังหาอะไรใส่ท้องก่อนออกเดินทางไม่ได้ “นายรอบรู้” ขอแนะนำให้ไปที่ “ร้านอร่อยเช้านี้” ริมหนองประจักษ์ ที่นี่มีทั้งไข่กระทะ ขนมปังใส่ไส้ แกงเส้นสูตรญวณ ให้ได้ลิ้มลอง