อ้อมกอดแห่งขุนเขา
จักรยานสองล้อของชาวคณะค่อยๆปั่นบนถนนสูงต่ำสลับไปมาเหมือนถูกห้อมล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่จนปรากฏให้เห็นราวกับอุโมงค์ต้นไม้พร้อมชมเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านสลับอยู่ในแนวสายตาของดงลานต่อหน้าคือ “ผาสบนก” “สบ” ในภาษาอีสานหมายถึงปาก เขาลูกนี้มีลักษณะคล้ายปากนก ชาวบ้านจึงเรียกชื่อนี้สืบกันมา
ปั่นจักรยานผ่านหมู่บ้านดูธรรมชาติที่อยู่ปะปนกับผู้คนอย่างมีชีวิตชีวาเด็กน้อยมีหนองน้ำธรรมชาติในหมู่บ้านเป็นสนามเด็กเล่นอย่างน่าอิจฉาเบื้องหน้าคือภูเขาที่สูงเด่นตระหง่านเขียวขจีให้ชื่นชม
ก่อนจะพักรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านพี่แพรวแม่ครัวและผู้นำทางท้องถิ่นของเราพี่แพรวลงมือตำส้มตำทำแกงหน่อไม้และต้มไก่ปิดท้ายด้วยลำไยล้างปากหวานๆสดๆจากสวนเพิ่มพลังช่วงกลางวันของพวกเราชาวคณะ
พักผ่อนช่วงบ่ายอาหารย่อยได้ที่ว่าแล้วพี่แพรวก็พาปีนเขาชมวิวบนภูผาเจาะ “ผาเจาะ” ชื่อง่ายๆ ที่ชาวบ้านเรียกตามลักษณะทางกายภาพของเขาหินปูนที่ทะลุโดยธรรมชาติราวกับผ่านการเจาะมาจริง ๆ ผาเจาะเป็นที่อยู่ของค้างคาว สมัยก่อนชาวบ้านจะปีนขึ้นมาเพื่อนำขี้ค้างคาวไปทำปุ๋ยใส่ผัก ปุ๋ยของขี้ค้างคาวถือเป็นของดีสำหรับชาวบ้านเลยทีเดียว ว่ากันว่าผักที่ผ่านการบำรุงโดยขี้ค้างคาวนี้จะกรอบ อร่อยอย่างที่ปุ๋ยเคมีสมัยใหม่ให้ไม่ได้