เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอหน้าผาที่เห็นต้นไม้ไปสุดลูกหูลูกตา สีเขียวเต็มผืนภูเขาไม่รู้ไปสิ้นสุดที่ตรงไหน เห็นท้องฟ้าตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ความรู้สึกมันโล่งสบายน่าเหลือเชื่อ
ลมหายใจที่ติดขัดอยู่เมืองกรุงมาเวลาเนิ่นนาน ตอนยืนบนผาเดียวดายกลับสูดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ลงไปได้เต็มปอด ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ เท่านี้ก็เหมือนได้ปลดปล่อยความทุกข์ สิ่งที่หนักอึ้งมาทั้งปีทั้งชาติแล้ว
ลมเบาๆ พัดผ่านมาสัมผัสกายเหมือนเป็นการทักทายผู้มาเยือนให้ได้รู้สึกเบาสบาย จากนั้นค่อยๆ ชันเข่าก้มหมอบลงต่ำเพื่อดูธรรมชาติเบื้องหน้า ได้เห็นนกกางปีกบินผ่านต้นไม้คณานับด้านล่าง ให้ความรู้สึกอิสระไม่แพ้กับนกที่บินผ่านหน้าตัวนั้นเลย ป่าเป็นขุมทรัพย์ที่ให้พลังงานไม่มีวันหมด หากวันใดเหนื่อยล้า อย่ามองข้ามผาเดียวดายที่ไม่รู้สึกเดียวดายเลย ตลอดเส้นทางมีสิ่งชีวิตที่งดงามรอบตัวไปหมด
“แค่ไปลองสัมผัสดูสักครั้งแล้วจะรู้ว่าผาเดียวดายไม่ได้เดียวดายเหมือนชื่อสักนิด…”