ขณะที่เดินออกมาด้วยความสิ้นหวัง ก็มีเสียงร้องอันแปลกประหลาดดังขึ้น เสียงนั้นแผดกราวออกมาจากดงกกที่อยู่ไม่ห่างจากตัวผมเท่าไหร่นัก จึงเพ่งมองไปตามเสียงด้วยความสงสัย
นกกระเรียนพันธุ์ไทยสองตัวยืนหันหลังให้กับผม คาดว่าคงจะเป็นนกกระเรียนคู่รัก ที่กำลังต้องการเวลาส่วนตัว ตัวผู้คงรำคาญใจที่ถูกรบกวนโดยผม มันสยายปีกออกจนเห็นขนสีเทาปนขาว ตัวของมันสูงใหญ่กว่าต้นกกเพียงเล็กน้อย ลำคอเรียวมีสีแดงเข้มคล้ายกับผลสตอเบอรี่สุก ขาของมันยาวมาก และจะงอยปากยาวไม่แพ้กัน
เจ้าตัวผู้เริ่มร้องคำรามดังขึ้น น้ำเสียงแฝงไปด้วยความก้าวราว ไม่นานนัก พวกมันก็ตวัดปีกสะบัดตัวลอยขึ้นฟ้า เสียงปีกกระทบกับมวลอากาศดัง พรึบพรับ ก้องกังวานไปทั่วบริเวณ แล้วพวกมันก็บินหนีตามกันไป ก่อนจะร่อนลงตรงบริเวณของแหล่งน้ำอีกแหล่ง อย่างสง่างาม
สิ่งที่โรแมนติกที่สุด คือไม่ว่าพวกมันจะบินไปที่ใด พวกมันจะไม่ยอมแคล้วคลาดจากกันเป็นอันขาด
แทบไม่น่าเชื่อว่าการได้พบนกกระเรียนพันธุ์ไทยเพียงไม่กี่นาที จะทำให้ผมรู้สึกมีความสุขได้มากขนาดนี้ อาจเป็นเพราะการได้พบนั้นยากเย็น จึงทำให้การพบกันนั้นมีค่า ต้องขอบคุณนักอนุรักษ์และผู้เกี่ยวข้อง ที่ช่วยปลุกชีพนกกะเรียนพันธุ์ไทย ที่เคยสูญหายไปจากผืนป่าธรรมชาติ ให้กลับมามีชีวิตอิสระ โผบินโลดแล่นในถิ่นกำเนิดอีกครั้ง