
แหลมหินซีฟู้ด – ที่สุดของความอร่อย แห่งทะเลอันดามัน
ใครไปเยือนภูเก็ต ต้องไม่พลาดแวะกินอาหารทะเลสด ๆ แน่นอน
ใครที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ พร้อมชมงานอาร์ทแบบไร้ขีดจำกัด แถมไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล แค่ตรงมาใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร คุณก็ได้พบกับโลกของงานศิลปะที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
หอศิลป์กรุงเทพฯ เป็นหอศิลปะร่วมสมัย ที่จัดเเสดงงานศิลปะอันหลากหลาย จากเหล่าศิลปินดังทั้งไทยและทั่วโลก เป็นอาคารทรงกระบอกสูง 9 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริเวณสี่แยกปทุมวัน ประหนึ่งแลนด์มาร์กที่เราสามารถเดินเล่น ชื่นชมงานศิลปะ เเละถ่ายรูปกันได้เเบบฟรี ๆ เพราะที่นี่เปิดให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อหวังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ หันมาสนใจและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ กิจกรรมต่างๆ ทางศิลปวัฒนธรรม ได้แสวงหาความรู้ความเข้าใจ ได้แสดงออก และ พักผ่อนหย่อนใจในเวลาเดียวกัน
พื้นที่บริการของหอศิลป์กรุงเทพฯ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
ส่วนนิทรรศการย่อย กิจกรรมศิลปะ ร้านค้า และห้องสมุด ประกอบไปด้วยพื้นที่อันหลากหลายตั้งแต่ โถงหน้าห้องสมุด ชั้น L เป็นพื้นที่โล่งสามารถจัดนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ บริเวณชั้น 1 มีห้องอเนกประสงค์รองรับกิจกรรมได้หลากหลายรูปแบบ และโซน People’s Gallery พื้นที่แห่งใหม่ รองรับการแสดงออกทางศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยหลากหลายสาขา และไฮไลท์คือ บริเวณผนังโค้ง พื้นที่ผนังตลอดแนวโค้งของอาคาร บริเวณชั้น 3 – 4 – 5 เหมาะสำหรับจัดแสดงงานจิตรกรรม ภาพถ่าย หรืองานติดตั้งที่ใช้พื้นที่ไม่มากนัก
ส่วนนิทรรศการหลัก บริเวณชั้น 7 – 8 – 9 เป็นพื้นที่จัดแสดงงานนิทรรศการขนาดใหญ่ มีพื้นที่แสดงศิลปะกว่า 3,500 ตารางเมตร
ซึ่งตลอดเดือนธันวาคม – 31 มกราคม 2564 นี้ มีจัดแสดงงาน Bangkok Art Biennale 2020 เป็นงานเทศกาลศิลปะระดับโลกที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในไทย โดยมาในคอนเซ็ปต์ Escape Routes หรือ ศิลป์สร้างทางสุข มีชิ้นงานศิลปะจาก 82 ศิลปินทั่วโลก
ที่ตั้ง ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
เปิด วันอังคาร–วันอาทิตย์
เวลา 10.00 – 19.00 น.
โทร. 02-214-6630-8 ต่อ 501-503
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ลูกศรหนอนหนังสือ(ที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่าน) นิสิตเอกท่องเที่ยวมมส.ที่รักในการนอน คิดถึงหมอนแม้แต่เวลากิน ชอบจิบกาแฟฟินๆที่คาเฟ่ ฝึกงานเก๋ๆที่นายรอบรู้
ใครไปเยือนภูเก็ต ต้องไม่พลาดแวะกินอาหารทะเลสด ๆ แน่นอน
ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ มนุษย์อย่างเรา คงอยากจะพาตัวเองออกไปผ่อนคลาย หาความสุขมาเติมเต็มความเครียด แต่ใครจะรู้ว่าน้องหมา น้องแมวแสนรัก อาจจะปรารถนาสิ่งเดียวกัน
เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก จึงไม่แปลก ที่พัทยา จะมีอาหารดีๆ ทั้งอาหารไทย และอาหารอิตาเลี่ยน สตรีทฟู้ด หลากหลายประเภทให้เลือกสรรค์ วันนี้ นาบรอบรู้นักเดินทาง จะพาคุณไปร้านอาหารและคาเฟ่สุดหรูใจกลางพัทยา หรูทั้งหน้าตาอาหาร หรูทั้งบรรยากาศ
ใครที่ชื่นชอบอาหารอินเดียคงไม่พลาด Rang Mahal Rooftop Indian Restaurant ห้องอาหารอินเดียในรูปแบบ fine dining บนชั้น 26 ของโรงแรมแรมแบรนดท์ ย่านสุขุมวิท ที่ได้รับรางวัล Thailand’s BestRestaurants จากนิตยสาร Thailand Tatler ถึง 13 ปีซ้อน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
เมืองไทยมีอะไรให้ออกไปสัมผัสอีกมากมาย มีความหลากหลายของธรรมชาติอย่างน่าเหลือเชื่อ ออกไปสัมผัสกับตา ได้ยินกับหู และรู้สึกกับใจตัวเองสึกครัง แล้วคุณจะหลงรักเมืองไทย มากกว่าเดิม
สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิลูซีและหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เปิดเวที “RPST Master Series Artist Talk”
นายรอบรู้ชวนเที่ยว อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง เล่นน้ำตก ชมบ่อน้ำพุร้อน พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่าเขียวชอุ่ม
เพราะ โควิด19 ที่กำลังระบาดหนักอยู่ทั่วโลกขณะนี้ ทำให้กิจกรรมการท่องเที่ยวต้องหยุดลง สถานที่เที่ยวต่างๆ ต้องปิดตัวชั่วคราว นักท่องเที่ยวอย่างเราก็ต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ หลายครั้งก็เกิดอารมณ์เบื่อ อยากออกเดินทางอีกครั้ง
© 2018 All rights Reserved.