
ร้านหนัง (สือ) ๒๕๒๑
ภูเก็ต : เงยหน้าดูชื่อร้านกี่ครั้งก็ขอคอนเฟิร์มว่าพาเข้าไม่ผิดร้านแน่จ้า และฟันธงว่ามีกาแฟให้จิบกินแน่นอน คอกาแฟหายห่วง
เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศจัดกิจกรรมล่องเรือชมโบราณสถานยามค่ำคืนในแม่น้ำเจ้าพระยาต้อนรับคณะผู้แทนเขตเศรษฐกิจเอเปคที่เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๙-๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เพื่อสานต่อเป้าหมายการเป็นเจ้าภาพเอเปค ๒๕๖๕ ภายใต้แนวคิดหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” หรือ “Open. Connect. Balance.” มุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ยุคหลังโควิด-19
ให้มีการค้า การลงทุนที่เปิดกว้าง เสรี และมีพลวัต เชื่อมโยงความสะดวกและปลอดภัย พร้อมกำหนดแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจ BCG เพื่อการเตรียมรับมือสถานการณ์ความผันผวนต่าง ๆ ในโลก
กิจกรรมดังกล่าวได้รับเกียรติจากนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง
ของกระทรวงการต่างประเทศ และนายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม ททท. ร่วมให้การต้อนรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วยขบวนกลองยาวต้อนรับคณะ การแสดงทางวัฒนธรรมและหุ่นละครเล็กคลองบางหลวง พร้อมชมความงดงามของหมู่อาคาร โบราณสถานและสถานที่สำคัญที่ประดับตกแต่งไฟอย่างสวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถสแกน QR code เพื่อรับข้อมูลประชาสัมพันธ์ของสถานที่ต่างๆ เช่น ศุลกสถาน โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล อาคารไปรษณีย์กลาง สถานทูตโปรตุเกส ย่านบางรักและเจริญกรุง โบสถ์กาลหว่าร์ ที่ตั้งธนาคารไทยพาณิชย์แห่งแรก ย่านตลาดน้อยและเยาวราช ย่านกุฎีจีน โบสถ์ซานตาครูซ ศาลเจ้าเกียนอันเกง วัดกัลยาณมิตร ฯลฯ รวมถึงได้ร่วมบันทึกภาพความงดงามของพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม และสะพานพระราม 8 ซึ่งประดับไฟอย่างสวยงาม
ในปี ๒๕๖๕ นับเป็นวาระสำคัญที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับนานาชาติ โดยเฉพาะการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในเดือนพฤศจิกายน รวมถึงการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปค
ครั้งที่ ๑๑ และประชุมคณะทำงานท่องเที่ยวเอเปคครั้งที่ ๖๐ ระหว่างวันที่ ๑๔-๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๕
ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกและส่งสัญญาณสร้างความเชื่อมั่น
ในการเดินทางมายังประเทศไทยของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ภายหลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
เริ่มคลี่คลายอีกด้วย
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ภูเก็ต : เงยหน้าดูชื่อร้านกี่ครั้งก็ขอคอนเฟิร์มว่าพาเข้าไม่ผิดร้านแน่จ้า และฟันธงว่ามีกาแฟให้จิบกินแน่นอน คอกาแฟหายห่วง
ใครที่ชื่นชอบอาหารอินเดียคงไม่พลาด Rang Mahal Rooftop Indian Restaurant ห้องอาหารอินเดียในรูปแบบ fine dining บนชั้น 26 ของโรงแรมแรมแบรนดท์ ย่านสุขุมวิท ที่ได้รับรางวัล Thailand’s BestRestaurants จากนิตยสาร Thailand Tatler ถึง 13 ปีซ้อน
ชาร์จความสดชื่นเพิ่มความกระปรี้กระเปร่ากันด้วยกาแฟ ถ้วยโปรด แม้ “คอฟฟี่เฮ้าส์” จะเพิ่งเปลี่ยนเจ้าของ แต่ร้านยังคงอยู่ที่บ้านหลังเดิมกลางสนามหญ้าสีเขียวสดที่แต่งแต้มด้วยไม้ดอกไม้ใบและรูปปั้นเซรามิกสีสันสดใส โดยมีฉากหลังเป็นทิวเขา อวลด้วยบรรยากาศ อบอุ่นเป็นกันเองเหมือนเดิม
นอกจากอำเภอหลังสวนจะมีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมอันโดดเด่นแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวของหลังสวนก็สวยงามไม่แพ้ที่ไหนเหมือนกัน
วันนี้พวกเราจะพาไปตะลุยกับสถานที่ยอดฮิต 10 อันดับของหลังสวน ที่เป็นแหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยวหรือคนท้องถิ่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัด ภูเขา ทะเล สถานที่สำคัญต่างๆ ที่หลายคนอาจไม่รู้จัก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
“HARVEST FEST. ปี 4 ตอน เทศกาลหมู่บ้านโคโรโระคุง” ชวนสัมผัสความน่ารักของ “COROROKUNG” (โคโรโระคุง) ผู้ที่คอยดูแลต้นไม้ และพืชผลทุกๆ ต้นของเราอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็น โทมิเมล่อน มะเขือเทศเชอร์รี่ ผักสลัด และมันมุราซากิ ให้เติบโต แข็งแรง และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพส่งต่อไปยังลูกค้าทุกท่านที่มายังฟาร์มของเรา ถ้าอยากรู้ว่า คนสวนของ CORO FIELD ของเรามีหน้าตาอย่างไร? ทำงานตอนไหน? แวะมาหาคำตอบได้ที่งานนี้เท่านั้น!
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เป็นประธานเปิดงานการอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาต้นแบบสินค้า ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมการส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากเส้นใยและผลิตภัณฑ์ใยกัญชง ณ โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ กรุงเทพฯ และผ่านระบบออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงลึกให้ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็น คุณลักษณะและความพิเศษของสิ่งทอกัญชง การนำไปใช้ให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ เทรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์จากกัญชง
นิทรรศการศิลปะคัดสรรโดย Art Theory 12ณ Silpa Bhirasri’s place บ้านอาจารย์ฝรั่งจัดแสดงตั้งแต่วันนี้ ถึง 29 พ.ค. 2562 “ผู้เป็นที่รัก” ศิลปินทั้งห้าไม่เพียงมีความสัมพันธ์ในฐานะของการเป็น “ครอบครัว” เดียวกันเท่านั้น แต่ยังมีใจรักในศิลปะเสมือนกับเป็นสิ่งที่เชื่อมความสัมพันธ์ของทุกคนในบ้านไว้อีกด้วย อดุลย์พันธ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา หัวหน้าครอบครัว และอดีตนักศึกษาคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ รุ่นที่ 17 ศิษย์ รุ่นหลังๆ ของศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี
ปทุมธานี : หากใครมีโอกาสไปซื้อต้นไม้แถวตลาดต้นไม้ธัญศิริ บนถนนสายรังสิต-นครนายก คลอง 6 โปรดสังเกตบริเวณทางเข้าตลาดให้ดี จะมีร้านมุงหลังคาด้วยหญ้าคาออกสไตล์บาหลี หน้าร้านร่มรื่นด้วยต้นไม้ แต่ร้านนี้ไม่ใช่ร้านขายต้นไม้ ไม่ใช่ร้านขายปุ๋ยหรืออุปกรณ์ทำสวน เพราะเมื่อเปิดประตูร้านเข้าไป ก็จะได้สัมผัสกับกลิ่นหอมอบอวลของกาแฟ ผสานกับกลิ่นเค้กอบใหม่ๆ ลอยมาทักทายเชื้อเชิญ
© 2018 All rights Reserved.