
Blue Whale Café รื่นรมย์กาแฟสีน้ำเงิน
“นายรอบรู้” ขอแนะนำคาเฟ่วาฬสีน้ำเงินที่มาแล้วจะรู้สึกเหมือนได้จิบกาแฟอยู่ในโลกใต้ทะเล
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชน เดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยว “เกาะหมาก – เกาะกระดาด – เกาะขายหัวเราะ” สถานที่เช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัดตราด สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Destination) ชูจุดขาย “เที่ยว 3 เกาะทะเลตราด อย่างรับผิดชอบ” โดยมีนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้นำชุมชน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ ให้การต้อนรับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ททท. องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จัดกิจกรรม “Discover Unseen New Series เที่ยว 3 เกาะทะเลตราด” จังหวัดตราด เป็นกิจกรรมนำร่องเพื่อให้รับรู้ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทางท่องเที่ยว สัมผัสเสน่ห์ของวิถีชีวิตชาวเกาะ สำรวจความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว และร่วมกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยเชิญสื่อมวลชนเดินทางเยี่ยมชมพื้นที่เกาะหมาก – เกาะกระดาด – เกาะขายหัวเราะ รวมทั้ง แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของจังหวัดตราดด้วย
ทั้งนี้ คณะฯ ได้เริ่มเยี่ยมชมเกาะขายหัวเราะที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์ เกาะกระดาด แหล่งท่องเที่ยว Unseen Thailand จากนั้น เดินทางสู่เกาะหมาก เพื่อทำกิจกรรมปั่นจักรยาน ปลูกผักสลัด และรับประทานอาหารเมนูท้องถิ่นตามฤดูกาล ทั้งนี้ บนเกาะหมากมีการจัดการการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เป็น Low Carbon Destination จากนั้น รมว.กก. รับมอบเสื้อ Trash Hero จากนายนิพนธ์ สุทธิธนกูล ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกาะหมาก เพื่อแสดงจุดยืนว่าเกาะหมากเป็นต้นแบบของ Low Carbon Destination พร้อมกันนี้ รมว.กก. ได้มอบนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวแก่ผู้นำชุมชน ซึ่งคาดว่าจากความประทับใจครั้งนี้จะเกิดการบอกต่อและเชิญชวนให้เดินทางมาเที่ยวที่นี้มากขึ้น ซึ่งเกาะหมาก ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และกลุ่มวัยทำงาน เนื่องจากมีความสะดวกในการเดินทาง มีกิจกรรมและการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความหลากหลาย อีกทั้ง ยังสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบ Workation ได้ด้วย นอกจากนี้ รมว.กก. จะเดินทางต่อไปยัง ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ตามหลักปรัชญา และเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวพระจมน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen New Series อีกด้วย
นายอิษฎา เสาวรส ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตราด กล่าวว่า ททท. ได้มองเห็นศักยภาพของเกาะหมากในการที่จะเป็นศูนย์กลางของกลุ่มเกาะใกล้เคียง อาทิ เกาะขาม เกาะกระดาด เกาะขายหัวเราะ เกาะระยั้งนอก รวมถึง ใกล้จุดดำน้ำหลักของทะเลตราดอย่างหมู่เกาะรัง บนเกาะหมากยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ค่อนข้างพร้อม มีที่พักให้เลือกหลากหลาย ร้านอาหารของชุมชนจำนวนมาก การเดินทางเข้าถึงที่สะดวก อีกทั้ง เป็นต้นแบบการท่องเที่ยว Low Carbon Destination หนึ่งในรูปแบบท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism: RT) นำไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ตามนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาประเทศและระบบเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนตาม แนวคิด BCG Economy Model
ในครั้งนี้ ททท. ได้นำเสนอเกาะขายหัวเราะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยได้ทำงานร่วมกับกลุ่มบริษัทในเครือบันลือกรุ๊ป ผู้ผลิตหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ ซึ่งเป็นเจ้าของคำว่า“ขายหัวเราะ” ทำการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ “เกาะขายหัวเราะ” ในรูปแบบ Soft Power โดยใช้แก๊กคลาสสิก “คนติดเกาะ” ในการ์ตูน โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยววัยทำงาน ถือเป็นมิติใหม่ที่เกิดจากความเข้ากันพอดีของสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตราด กับภาพจำของหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ ที่มีฉากตัวการ์ตูนติดเกาะในทะเลที่มีต้นไม้ขึ้นเพียงต้นเดียว ททท. จึงนำ 2 สิ่งนี้มารวมกัน เพื่อตอกย้ำเอกลักษณ์ของทั้ง 2 สิ่ง คือ เกาะขนาดเล็กที่มีต้นไม้เพียงต้นเดียว กับ ชื่อของหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ สำหรับเกาะขายหัวเราะ เป็นส่วนหนึ่งของเกาะนกนอก ซึ่งเชื่อมมาจากเกาะนกใน และเกาะกระดาด เกาะนี้จะมีจังหวะที่โผล่พ้นน้ำในช่วงน้ำลด ซึ่งจะเห็นพื้นที่เกาะเล็กน้อยและมีต้นไม้ (ต้นตะบัน) ขึ้นอยู่เพียงต้นเดียว ปรากฏภาพที่คล้ายกับฉากคลาสสิกของหนังสือขายหัวเราะพอดี นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ผ่านมาพบเห็นต่างพากันเรียกว่า “เกาะขายหัวเราะ”
นส่วนของการส่งเสริมการขาย ททท. สำนักงานตราด ร่วมกับ ผู้ประกอบการสถานที่พักเกาะหมากและบริษัทนำเที่ยวรวม 8 ราย จัดกิจกรรม Discover Unseen New Series ทดลองจัดแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน และแพ็คเกจแบบ One Day Trip ขายเส้นทางท่องเที่ยว 3 เกาะทะเลตราด คือ เกาะหมาก เกาะกระดาด เกาะขายหัวเราะ ให้กับนักท่องเที่ยว โดย ททท. สนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนให้กับผู้ประกอบการ กำหนดเป้าการทดลองขายนำร่อง 300 แพ็ค เพื่อสำรวจกระแสตอบรับ กิจกรรมนี้เริ่มขายไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ 2565) ขายได้แล้วมากกว่า 200 แพ็ค คิดเป็นรายได้เข้าสู่พื้นที่เกาะหมากมากกว่า 1 ล้านบาท จากการจัดกิจกรรมดังกล่าวส่งผลให้นักท่องเที่ยวเกิดการรับรู้และสอบถามกับสถานที่พักเกาะหมากเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการบนเกาะหมากทั้งที่พัก ร้านอาหาร และรถสองแถวบนเกาะหมาก เริ่มดำเนินการออกแบบเส้นทางเพื่อเสนอขายกันเองบ้างแล้ว ซึ่ง ททท. คาดว่าหมู่เกาะหมาก จะสามารถกระจายนักท่องเที่ยวจากเกาะช้างได้ในอีกไม่นาน
พื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดตราดมี 4 กลุ่ม คือ 1. บนฝั่ง 2. หมู่เกาะช้าง 3. เกาะกูด และ 4. เกาะหมาก มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี (2559 – 2563) 3 อันดับแรกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คือ เยอรมัน สวีเดน และรัสเซีย เป็นกลุ่มครอบครัวและวัยเกษียณ เริ่มเข้ามาระหว่างเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ มีวันพักเฉลี่ยที่ 1-2 สัปดาห์ต่อพื้นที่ จากนั้น จะย้ายไปพื้นที่ถัดไปอีก 1 สัปดาห์ เท่ากับอยู่ในพื้นที่จังหวัดตราดประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และเดินทางกลับประเทศ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดตราด ข้อมูลล่าสุดเมื่อปี 2563 จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีจำนวน 938,547 คน มาจากภาคตะวันออกและภาคกลางเป็นหลัก เป็นกลุ่มคู่รักวัยทำงานและกลุ่มครอบครัว เริ่มเดินทางมากที่สุดในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ยาวไปถึงปลายปี ส่วนใหญ่จะเข้ามาในช่วงสุดสัปดาห์ พักเฉลี่ย 2 คืน ใช้จ่าย 6,232 บาทต่อคนต่อทริป
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
“นายรอบรู้” ขอแนะนำคาเฟ่วาฬสีน้ำเงินที่มาแล้วจะรู้สึกเหมือนได้จิบกาแฟอยู่ในโลกใต้ทะเล
นายรอบรู้ชวนเที่ยว อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง เล่นน้ำตก ชมบ่อน้ำพุร้อน พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่าเขียวชอุ่ม
วันนี้ นายรอบรู้ อยากพาเพื่อนๆ ไปช็อปปิ้งสินค้าบ้านๆ แต่รสชาติอร่อย ที่สำคัญปลอดภัยจากสารเคมี เรียกว่าการช็อปปิ้งสินค้ากินดี เพราะกินแล้วดี ทั้งอร่อยและปลอดภัย
งานศิลปะสุดยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ไม่ควรพลาด กับเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ “บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่” หรือ Bangkok Art Biennale 2020 ที่จะเนรมิตกรุงเทพฯ สู่เมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมระดับโลก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
อากาศร้อนๆ แบบนี้ใครที่กำลังเดินเล่นแถวย่านท่าเตียน และกำลังมองหาค่าเฟ่บรรยากาศดีและมีเรื่องเล่าอยู่ล่ะก็ นายรอบรู้ขอแนะนำ ฮาเตียนคาเฟ่! คาเฟ่ที่จะทำให้คุณเคลิบเคลิ้มไปกับกลื่นอายของความคลาสสิค
ทศกาลแขวนโคมหลากสีสวยงาม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัย และถวายเพื่อเคารพสักการะพระนางเจ้าจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งเมืองลำพูน ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติมาเที่ยวชมความงดงาม พร้อมทั้งเขียนข้อความอธิษฐานขอพรลงบนโคม ก่อนจะนำไปแขวนไว้ตามจุดต่างๆ นับเป็นภาพสะท้อนความศรัทธาของชุมชนในเมืองบุญแห่งล้านนาของนครหริภุญชัย
เมี่ยงยี่ห้อนี้เป็นเมนูสูตรเด็ดขึ้นชื่อของร้าน “แม่ซอต” อ. โพนพิสัย จ. หนองคาย ที่มีทีเด็ดเรื่องรสชาติและความอร่อย เป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนกันตรึมตั้งแต่เช้าจรดเย็น
“Good Society Expo 2018 : ทำดีหวังผลเริ่มต้นที่เรา” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้คนไทยร่วมกันทำความดีให้เกิดผลต่อสังคมไทย ที่ห้างสรรพสินค้า Central World ในวันที่ 13 – 16 กันยายนนี้
© 2018 All rights Reserved.