จรัสLight สัญจร: สงขลาเมืองเก่า

ตั้งแต่อดีต ถึง ปัจจุบัน เทคโนโลยี การขยายตัวของเมือง ได้นำการพัฒนาเดินทางเข้ามาในชุมชนและนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าและขยายตัวของชุมชน ทั้งในด้านขนาดของชุมชนเมือง การขยายจำนวนประชากร รวมถึงนำพาความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการบริโภค ในอดีตนั้น การพัฒนาของชุมชนเป็นไปอย่างเชื่องช้าและค่อยเป็นค่อยไป แต่เมื่อมีการพัฒนาเรื่องระบบอุตสาหกรรม เทคโนโลยี ถึงจุดหนึ่ง ทำให้กระบวนการการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น  ชุมชนที่ไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ อาจส่งผลให้เกิดการปะทะกันระหว่างอดีตและปัจจุบัน สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงในกระบวนการการพัฒนานั้น  คือการรักษามรดกทางวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมอันมีคุณค่าคู่ควรแก่การอนุรักษ์ (High Conservation Values) เอาไว้ พร้อมกับรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาอย่างมั่นคง 

ประเด็นเรื่องการใช้พลังงานก็เป็นประเด็นที่สำคัญประเด็นหนึ่ง เมื่อมีการพัฒนาเป็นเมือง (urbanization) ความต้องการทางด้านพลังงานย่อมเพิ่มขึ้นตามมา ดังนั้น เพื่อเตรียมตัวรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ ในฐานะผู้ดำเนินงานทางด้านศิลปวัฒนธรรม หอศิลปกรุงเทพฯ จึงได้นำเสนอโครงการที่จะทดลองหาความเป็นไปได้ในการคำนึงถึงพื้นฐานการใช้ชีวิต การเป็นชุมชนที่พึ่งพาตัวเอง และ สร้างการพัฒนาด้านพลังงานไปพร้อมๆ กัน โดยจะสร้างความเชื่อมโยงพื้นที่ทางประวัตศาสตร์เดิมกับชุมชนในปัจจุบัน และแนวคิดในการใช้พลังงานทางเลือก เพื่อสร้างความยั่งยืนทางพลังงานที่มีความกลมกลืนไปกับสภาพของเมือง

นิทรรศการ ‘จรัส Light สัญจร: สงขลาเมืองเก่า’ เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการ ‘จรัส: แสงสร้างสรรค์’ ริเริ่มและดำเนินการโดย หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ผ่านงานศิลปะ และกิจกรรมทางวัฒนธรรมในรูปแบบต่างๆ ตลอดปีพ.ศ. 2562 ไปจนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)

จากมุมมองของเมืองที่วิวัฒน์ไปกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยอย่างต่อเนื่องนี้ โครงการ จรัส Light สัญจร: สงขลาเมืองเก่า จึงได้โอกาสนำนิทรรศการมาสัญจร เพื่อนำเสนอทางเลือกและความคิดสร้างสรรค์อื่นๆ เพื่อเพิ่มสีสันและความหลากหลายอย่างยั่งยืนให้กับพื้นที่แห่งนี้ โดยเฉพาะในเรื่องพลังงานไฟฟ้าทางเลือก โดยได้นำงานของศิลปิน 3 ท่าน คือ นพไชย อังคะวัฒนพงศ์, วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ และกฤช งามสม ที่สร้างสรรค์โดยใช้พลังงานส่วนหนึ่งมาจากแผงโซล่าร์เซลล์ หลังจากได้เข้าร่วมในเทศกาล ‘จรัส Light’ บริเวณลานด้านหน้า หอศิลปกรุงเทพฯ สัญจรมาจัดแสดงที่สงขลาในครั้งนี้ รวมทั้งข้อมูลความรู้ และภาพถ่ายโดยช่างภาพอีกหลายท่านที่ร่วมกันขยายความเข้าใจและความสำคัญของพลังงานในอนาคตจากแสงอาทิตย์ ที่เคยจัดแสดงที่ห้อง จรัส LAB ที่หอศิลปกรุงเทพฯ ในปีที่ผ่านมา 

การเติบโตของเมืองเดิมกับพัฒนาการของการใช้พลังงานที่สะอาดและยั่งยืนเป็นเรื่องที่น่าใคร่ครวญ และทดลองความเป็นไปได้ นี่เป็นอีกแนวคิดหนึ่งของการสัญจรโครงการในครั้งนี้ เป็นทีทราบกันดีในระยะที่ผ่านมาว่า เชื้อเพลิงฟอสซิล (ถ่านหินและน้ำมันดิบ) จำนวนมหาศาลถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักในกระบวนการผลิตไฟฟ้า และก็มีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้น เป็นตัวการสำคัญในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ส่งผลให้เกิดสภาวะเรือนกระจก นำมาซึ่งวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ทางธรรมชาติที่แปรผันรุนแรงมหาศาล อย่างที่ประสบกันทั่วโลกในหลายทศวรรษที่ผ่านมา

จรัส Light สงขลา_19

โลกของเรารับรังสีอาทิตย์ (แสงแดด) ราว 73,000 เทอราวัตส์ หรือ 10,000 เท่า ของความต้องการพลังงานในแต่ละวัน แสงอาทิตย์จึงเป็นแหล่งพลังงานทดแทนสำคัญ ที่สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยอาศัยเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Cell) ทำให้โลกในปัจจุบันหันมาสนใจและพัฒนานวัตกรรมในการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ที่เป็นพลังงานสะอาด ใช้ได้ไม่มีวันหมด และส่งผลกระทบต่อโลกน้อยกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล

นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่เราจะเปิดพื้นที่แห่งการเรียนรู้เรื่องพลังงาน และพลังงานทดแทน ที่กำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านการได้มาซึ่งพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน เพื่อกระตุ้นให้สังคมเห็นความสำคัญในความมั่นคงและยั่งยืนของการใช้พลังงานไฟฟ้า อันเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตและการขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ในสังคมโลก

จากโครงการนี้ หอศิลปกรุงเทพฯ หวังสร้างแนวคิด ความตระหนักและทัศนคติที่ดีให้กับชุมชนในเรื่องการใช้พลังงานทางเลือกที่ยั่งยืนและเป็นจริง ผ่านกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมที่ชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อสร้างพื้นที่ตัวอย่างในการใช้พลังงานทางเลือกในชีวิตประจำวัน และเพื่อสร้างพื้นที่ตัวอย่างในการนำสุนทรียศาสตร์มาเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ (เก่า) กับ เทคโนโลยีพลังงานทางเลือก (ใหม่) และเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายที่ทำงานเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก เข้ากับเครือข่ายศิลปิน และเครือข่ายชุมชนต่อไป

จรัสLight สัญจร: สงขลาเมืองเก่า จัดแสดงที่บ้านสงครามโลก ถนนนครนอก และ ลานทางเดิน ท่าน้ำศักดิสิทธิ์พิทักษ์ สงขลา ระหว่างวันที่ 11 กันยายน – 11 ตุลาคมนี้

Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest
Previous
Next

Guide ใกล้ : Application คู่ใจคนชอบท่องเที่ยวตัวจริง

Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว

Writer/ Photographer

Webmaster

Webmaster

Relate Place

Coffee

Bangkok Story ร้านกาแฟของวันวาน

Bangkok Story คาเฟ่เล็กๆ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง และเหมือนได้เข้ามาในร้านกาแฟสมัยที่คุณปู่คุณย่าชอบมานั่งจิบกาแฟ กินอาหารเช้า อ่านหนังสือพิมพ์ และพูดคุยกันท่ามกลางกลิ่นกาแฟหอมอบอวล ร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว-สีเหลืองไข่ไก่สบายตา ประตูหน้าต่างเป็นไม้แบบเก่าทั้งหมด ทั้งยังมีขวดโหลใส่ของแห้งตกแต่งผนังร้าน ชวนให้รู้สึกถึงบรรยากาศร้านขายของในยุคก่อน เลือกที่นั่งได้แล้ว ทางร้านจะเสิร์ฟชุดน้ำชาจีนร้อนๆ เป็นการต้อนรับ มีขนมขาไก่ใส่ไว้ในโหลแก้วให้ลูกค้าตักชิมได้ฟรีไม่คิดเงิน ที่นี่นอกจากจะเป็นร้านกาแฟ ชั้นบนยังเปิดเป็นโฮสเทลด้วย สนนราคาค่าเช่าพักคืนละ 650 บาทเท่านั้น คุณสรรภพ พูลสุวรรณ หรือคุณโจ้ เจ้าของร้าน เปิดบริการห้องพักโฮสเทลอย่างเดียว แล้วลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติชอบไปกินอาหารสตรีตฟู้ด บางร้านถ้าปรุงไม่สะอาด กินแล้วก็ป่วย

Absolute Fit Food
Eat

กินดี ไปกับ GREENDEE : Absolute Fit Food

ร้านเล็กๆ บนชั้น 3 ในตึก The Portico Buliding ย่านลุมพินีแห่งนี้ ภายในประกอบด้วยโต๊ะอาหารสองโต๊ะ ชุดจานและช้อนส้อมวางอย่างเป็นระเบียบ พร้อมต้อนรับผู้มาเยือน แต่ Absolute Fit Food ร้านนี้ยังตอบสนองวิถีชีวิตคนเมืองที่อยากดูแลตัวเองด้วยอาหารดีๆ และต้องการความสะดวก ด้วยการเสิร์ฟอาหารให้ถึงที่

Eat

ครัวมะฉ๊ะซีฟู้ด..สดอร่อยราคาเหมาจ่าย

“นายรอบรู้” ขอพาลงใต้ไปสัมผัสวิถีชาวเล ที่หมู่บ้านท่องเที่ยวโฮมสเตย์ชุมชนบ้านบางพัฒน์ จ. พังงา ที่นี่ถือเป็นแหล่งอาหารทะเลสดรสเด็ด ที่มีความโดดเด่นในเรื่องราคาแบบเหมาจ่าย คือ ถ้ามาเพียง 2 คน จ่ายแค่คนละ 300 บาทจะได้เมนูซีฟู้ดจัดเต็ม 5 เมนู ถ้ามา 3 คน จ่ายคนละ 300 บาทจะได้ถึงได้ 7 เมนู และถ้ามา 4 คนขึ้นไป จ่ายเพียงคนละ 250 บาท จัดเต็ม 7 เมนูซีฟู้ด ที่เลือกได้ทุกอย่างตามชอบ รับรองอร่อยจุใจแบบหาที่ไหนไม่ได้ ที่สำคัญอร่อยเลิศทุกเมนู

ติ๋ม จงสงวนกลาง

ถ้ามาเที่ยวปราสาทหินพิมายหรือย่านไทรงาม ขอแนะนำให้แวะกินมื้อกลางวันที่ร้านนี้ คนแถบนี้เรียกง่ายๆ ว่าร้านป้าติ๋ม ร้านอยู่ในเรือนแถวที่ขายส้มตำ ไก่ย่างเหมือนๆ กันนับสิบเจ้า แต่ร้านป้าติ๋มลูกค้าคับคั่งกว่าร้านอื่น