ต้นกก
ต้นกกเป็นร้านเบเกอรีและเครื่องดื่มที่รู้จักกันดีในหมู่นักเรียนเตรียมอุดมและนิสิตจุฬาฯ ร้านเล็กกะทัดรัดแห่งนี้เปิดขายมากว่าเจ็ดปีแล้ว บรรยากาศร้านสบายๆ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเอง
เทศกาลแขวนโคมหลากสีสวยงาม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัย และถวายเพื่อเคารพสักการะพระนางเจ้าจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งเมืองลำพูน ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติมาเที่ยวชมความงดงาม พร้อมทั้งเขียนข้อความอธิษฐานขอพรลงบนโคม ก่อนจะนำไปแขวนไว้ตามจุดต่างๆ นับเป็นภาพสะท้อนความศรัทธาของชุมชนในเมืองบุญแห่งล้านนาของนครหริภุญชัย
นายประภัสร์ ภู่เจริญ นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน กล่าวว่า เทศกาลโคมเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีลอยกระทงหรือประเพณียี่เป็ง ซึ่งเป็นประเพณีที่ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ การถวายโคมเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัยนั้น เป็นภาพสะท้อนถึงความศรัทธาต่อองค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัย วรมหาวิหาร ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวลำพูน ผู้ที่เกิดปีระกา และประชาชนทั่วไป เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีล้านนา รวมถึงการถวายโคมเพื่อเคารพสักการะพระนางเจ้าจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญชัย
เมื่อถึงงานเทศกาลยี่เป็ง ชาวล้านนาจะนิยมประดับประดาตกแต่งบ้านเรือนให้สวยงามด้วยการจุดประทีปโคมไฟให้สว่างสดใสตลอดช่วงเทศกาล ชาวล้านนาเชื่อว่าการทำโคม เป็นการบูชาพระพุทธเจ้าที่ประดิษฐานอยู่บนสรวงสวรรค์ และแสงประทีปจากโคมจะช่วยส่องประกายให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข ทั้งนี้เทศบาลเมืองลำพูน ร่วมกับชุมชนได้ทำการเตรียมโคมหลากสีสัน ไว้รองรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว และบูชาโคม พร้อมทั้งเขียนชื่อและข้อความอธิษฐานขอพรลงบนโคม แล้วแขวนตามจุดสถานที่ต่าง ๆ ที่เทศบาลเมืองลำพูนจัดเตรียมไว้ เพื่อเป็นพุทธบูชา ให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง ร่วมถึงเป็นการสะเดาะเคราะห์ ตามความเชื่อของชาวล้านนา
นอกจากโคมจะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสวยงามและความศรัทธาของคนลำพูน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สิ่งที่เทศบาลเมืองลำพูนได้มุ่งมั่นดำเนินการ คือ การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน จากการที่เทศบาลได้อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการประดิษฐ์โคม รวมถึงการฝึกทักษะการทำโคมให้กับชุมชน เพื่อให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วย รวมถึงเด็กและเยาวชน ให้สามารถประดิษฐ์โคมเพื่อนำมาจำหน่ายในช่วงเทศกาล สร้างรายได้ รวมถึงเป็นการสืบสานภูมิปัญญาในการประดิษฐ์โคมล้านนาที่มีหลากหลายรูปแบบ เช่น โคมธรรมจักร โคมดาว โคมไห โคมเพชร ฯลฯ โคมต่างๆเหล่านี้ ส่วนใหญ่ใช้ไม้ไผ่ นำมาหักขึ้นเป็นโครง ติดกระดาษสาหรือผ้าดิบ ตัดลายกระดาษสีเงิน สีทอง ประดับตกแต่งลวดลายอย่างสวยงาม ในปัจจุบันโคมถูกนำไปใช้อย่างหลากหลาย เช่น ตกแต่งโรงแรม รีสอร์ท วัด หรือสถานที่ต่างๆ เพื่อความสวยงาม เทศกาลโคมจึงไม่ได้แฝงแค่ความสวยงามของการท่องเที่ยว แต่ยังแฝงถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ยังคงมีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งเรื่องความเชื่อ และขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีที่ดีงาม
ส่วน “เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน” ประจำปี 2563 จัดกิจกรรมที่วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร และลานอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เริ่มบูชาโคมตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๓ ไปจนถึงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๓
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ต้นกกเป็นร้านเบเกอรีและเครื่องดื่มที่รู้จักกันดีในหมู่นักเรียนเตรียมอุดมและนิสิตจุฬาฯ ร้านเล็กกะทัดรัดแห่งนี้เปิดขายมากว่าเจ็ดปีแล้ว บรรยากาศร้านสบายๆ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเอง
หากหัวใจของพุทธศาสนิกชน คือ พระพุทธศาสนาการสักการบูชาและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจึงเป็นหน้าที่ซึ่งพึงปฏิบัติ
กล่าวโดยพระครูถิรธรรมรัต เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
วันนี้ นายรอบรูนักเดินทาง จะพาทุกท่านมารู้จักเกาะเกิด ชุมชนเล็กๆ ริมน้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ใน อ. บางปะอิน จ. พระนครศรีอยุธยา ไปชมภูมิปัญญาพื้นบ้าน ชิมขนมรสชาติอร่อย นอนโฮมสเตย์ชมวิถีคนริมน้ำ
ส่งท้ายเดือนกุมพาพันธ์ ที่มีวันแสนพิเศษถึง 2 วัน สำหรับผู้มีความรัก กุมภาพันธ์คงเป็นเดือนที่ดีของคุณและคู่ครอง ที่จะได้ฉลองให้กับความรักที่ผลิบาน สำหรับพุทธศาสนิกชน ภุมภาพันธ์ยังมีวันสำคัญอย่าง วันมาฆบูชา ที่ชาวพุทธจะแสดงตนเป็นพุทธมามกะ และทำนุบำรุงดูแลศาสนา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ใครที่ชื่นชอบอาหารอินเดียคงไม่พลาด Rang Mahal Rooftop Indian Restaurant ห้องอาหารอินเดียในรูปแบบ fine dining บนชั้น 26 ของโรงแรมแรมแบรนดท์ ย่านสุขุมวิท ที่ได้รับรางวัล Thailand’s BestRestaurants จากนิตยสาร Thailand Tatler ถึง 13 ปีซ้อน
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “นายรอบรู้” ได้รับเชิญจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ให้ไปร่วมงาน “Drive To Ride ชีพจรลงล้อ … เพชรบุรี” กิจกรรมสนุกๆ ที่ชวนคนหลงใหลเจ้าสองล้อขับรถไปปั่นจักรยานเที่ยวในเส้นทางใหม่ๆ กิจกรรมนี้จัดกันมาหลายครั้งแล้ว โดยเน้นเส้นทางในภาคกลางที่ขับรถไปปั่นได้สะดวก ไม่เหนื่อยเกินไป …และครั้งนี้เราไปปั่นกันที่เพชรบุรี!
สุดสัปดาห์นี้ถ้ายังไม่มีแพลนจะเดินทางไปไหน “นายรอบรู้ นักเดินทาง” จะพาทุกคนนุ่งซิ่นเดินชมงาน เส้นสายสีสันอัศจรรย์ผ้าไทย ครั้งที่๕ จัดขึ้นที่เดอะสตรีทรัชดา ตั้งแต่วันที่ ๑ – ๔ สิงหาคมนี้ ภายในงานจะพบกับร้านค้าผ้าชื่อดังที่ยกขบวนตบเท้าเข้ามาให้เลือกซื้อกันถึงเมืองกรุง อาทิ ร้านผ้าและสิ่งถักทอไท Dadaลุนตยาผ้าโบราณ ร้านบุญยวง และอีกต่างๆมากมาย
เพชรบุรี เมืองนี้มีดีทั้งของหวานและงานศิลป์ วัดเก่าและพระราชวังที่สวยงาม ของกินอร่อยก็เพียบ “นายรอบรู้” มาหลายรอบก็ยังไม่เบื่อ ที่สำคัญคือไม่ไกลกรุงเทพฯ ขับรถมาแว้บๆ ยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว จะพาครอบครัว คนรักมาเที่ยว กิน พักผ่อนก็เหมาะ แค่หนึ่งวันก็เติมความสุขใจจนเต็มถัง
© 2018 All rights Reserved.