6 จุดเช็คอินห้ามพลาด!!! – เบตง เมืองใต้สุดในสยาม
มาเบตงครั้งนี้ นายรอบรู้อยากพาไปสัมผัสกับ สิ่งห้ามพลาด ที่หากว่าพลาดไปแล้ว อาจเรียกว่ามาไม่ถึง เบตง ก็ว่าได้ จะมีอะไรบ้างตามไปดูพร้อมๆกันเลย…
หากใครมีโอกาสได้ไปเดินเล่นที่ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ในช่วงนี้ โปรดทราบว่า..นอกจากเทศกาลหนังสือ ABC Book Fest 2020 ที่จัดอยู่ชั้น 5 แล้ว ยังมีงานนิทรรศการที่น่าสนใจอยู่อีกงาน ที่บริเวณชั้น G
จากการสืบเสาะที่มาจนได้ความว่า นิทรรศการนี้ชื่อ “9 แนวคิดปรับการบริโภค ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม” โดยโครงการชื่อ 9 Re-create Thailand คือการมองหานักสื่อสารหลากวิธี ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “ทุกคนสามารถนำสิ่งที่เชี่ยวชาญมาช่วยทำให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดีขึ้นได้” เพื่อออกแบบสื่อ 9 วิธีฟื้นฟูชาติ โจทย์ในปีนี้คือ ‘ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่’ โดยใช้ 9 วิธีการฟื้นฟูต้นมะม่วงของ พระมหาชนก พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นไอเดีย
ข้าพเจ้ายังคงจำได้ว่ามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับต้นมะม่วงสองต้นที่ขึ้นอยู่ใกล้กัน ในหนังสือพระมหาชนก ซึ่งต้นหนึ่งไม่มีผล ส่วนอีกต้นผลดกงาม เมื่อพระมหาชกเสด็จผ่านและได้ลองชิม จึงรู้ว่ารสนั้นโอชาดั่งรสทิพย์ ทำให้ฝูงชนรุมเก็บผลมะม่วงจนต้นล้ม พระมหาชนกจึงสั่งให้คิดวิธีฟื้นฟูต้นมะม่วงนั้นขึ้น
โครงการ 9 Re-create Thailand เริ่มเฟ้นหาศิลปินอาสาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมาและคัดเลือกจากหลักร้อยให้เหลือเพียง 27 ชีวิต หลังจากนั้นคือการ Workshop เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ก่อนจะคัดเลือกอีกครั้งให้เหลือเพียง 9 ชีวิต เพื่อพรีเซ้นท์สิ่งที่อยากทำกับโค้ชศิลปิน 9 ท่าน จาก 9 ศาสตร์การสื่อสาร
ศิลปินอาสาทั้ง 9 ต่างได้รับโจทย์ที่แตกต่างกัน จนเกิดเป็น 9 ไอเดียสื่อสร้างสรรค์ที่สดใหม่ไม่ซ้ำใครในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มาจากการบริโภค การตีความ 9 วิธีฟื้นฟูต้นมะม่วงจะถูกนำเสนอในรูปแบบของงานศิลปะจากศิลปินอาสา 9 ชีวิต 9 วิธีการสื่อสาร 9 ผลงาน
จากการพูดคุยกับ เมย์ ศริน เติมธีรกิจ หนึ่งในศิลปินอาสา ได้ความว่า เธอต้องการให้สัตว์ทะเลขึ้นมาอยู่บนภาชนะเพื่อให้คนเมือง “มองเห็น” สัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้พลาสติกและจัดการอย่างไร้ประสิทธิภาพ จึงเลือกแสดงงานศิลปะโดยการแจกแก้วน้ำที่ทำจากฟางข้าวสาลี สามารถย่อยสลายเองได้ภายใน 3 – 5 ปี โดยแก้วน้ำที่ว่านั้นจะมีภาพวาดสีน้ำของเธอติดอยู่ด้วย
สามารถเดินชื่นชมงานศิลปะจากแขนงต่าง ๆ ทั้ง 9 ผลงานพร้อมพูดคุยกับศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานได้
หลังจากเพลิดเพลินเดิมชมทั้ง 9 งาน ถ้าจะถามว่าถูกใจงานชิ้นไหนที่สุด ขอตอบตรงนี้เลยว่า โดนใจทุกชิ้น แต่ถ้าจะให้คะแนนพิศวาทลงไปหน่อยคงหนีไม่พ้น งานชิ้นที่ 5 ลมหายใจสุดท้าย ซึ่งตีความหมายมาจาก การต่อตาต้นมะม่วง ผลงานโดย กานต์ นิชกานต์ ช่างสาร ด้วยความที่ชอบรูปถ่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้เห็นรูปถ่ายขนาดใหญ่ที่วางอยู่หลังต้นพญาสัตบรรณ และตกแต่งฐานอย่างสวยงามจากขยะ เมื่อได้พูดคุยกับเจ้าของผลงานก็ได้ทราบว่า ภาพถ่ายนั้นมาจากฝีมือของเด็ก ๆ ในชุมชนหนึ่งของเมืองใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสภาพแวดล้อมที่มีผลทั้งในแง่ของการใช้ชีวิตและการเรียนรู้ของเด็ก ๆ เหล่านั้น
ยังมีผลงานของศิลปินอาสาอีก 7 ชิ้น ที่ข้าพเจ้ายังมิได้กล่าวถึง ซึ่งเมื่อได้ชมก็ต้องร้องว้าว ออกมาดัง ๆ เช่นกัน งานนิทรรศการ 9 แนวคิดปรับการบริโภค ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้น มีรายชื่อผลงานและศิลปินดังนี้
9 วิธีฟื้นฟูต้นมะม่วงกับ 9 ศิลปินอาสา
1.การเพาะเมล็ด ผลงานโดย เมย์ ศริน เติมธีรกิจ (Painting Water Color) Project : แก้วเพาะเมล็ด
2.การถนอมราก ผลงานโดย ฟรายเดย์ บุณฑริกา แซ่ตั้ง (Installation Art) Project : ตกตะกอนก่อนตะแกง
3.การปักชำกิ่ง ผลงานโดย เรย์ เดชาธร ธระเสนา (Comic Book) Project : The Cursed Life Of Plastic
4.การเสียบยอด ผลงานโดย ฮาย พัทราพร สุวรรณธาดา (Painting Water Color) Project : Reuse (Bin)
5.ต่อตา ผลงานโดย กานต์ ณิชกานต์ ช่างสาร (Photograph) Project : ลมหายใจสุดท้าย
6.ทาบกิ่ง ผลงานโดย ปัน นุชชา ประพิณ (Booklet Design) Project : ME
7.ตอนกิ่ง ผลงานโดย ลูกแพร สริตา วิรุฬห์ฉวี (Boardgame Design) Project : Wonky Veggie
8.รมควันต้นที่ไม่มีผล ผลงานโดย เดียว รัฐธีร์ ศรีจันทร์อินทร์ (Street Art) Project : ไอ้หัวฃวด ป่วน จักรวาล มหาสมุทร
9.การเพราะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ผลงานโดย ดิว นวพล พืชผลทรัพย์ (Video) Project : Trash Talk
สุดท้ายหากใครมีเวลาว่างก็ลองไปเติมความรู้และเสพย์งานศิลปะของพวกเขาได้ที่ ลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 2 ส.ค. 2563 นี้
ณ ลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์
ถนนพระรามที่ 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุม กรุงเทพฯ
เปิดเวลา 10.00-22.00 น.
จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. – 2 ส.ค. 2563
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
มาเบตงครั้งนี้ นายรอบรู้อยากพาไปสัมผัสกับ สิ่งห้ามพลาด ที่หากว่าพลาดไปแล้ว อาจเรียกว่ามาไม่ถึง เบตง ก็ว่าได้ จะมีอะไรบ้างตามไปดูพร้อมๆกันเลย…
น้ำศักดิ์สิทธิ์บ่อนี้ดื่มกินแล้วจะเป็นอมตะ!” เกือบจะมีเสียงป๊าบที่ศีรษะตามมาทันทีที่พูดจบ เมื่อผมฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด
“แค่รักษาโรคได้สารพัดนึกต่างหากเล่า!” เพื่อนผมแย้ง ขณะเราพูดคุยกันถึงบ่อน้ำในวัดแห่งหนึ่ง
ใครที่เคยมาจังหวัดน่านในฤดูหนาว แล้วต้องมนต์เสน่ห์ดินแดนขุนเขา สายหมอก คุณอาจจะเคยสัมผัสอากาศหนาว ดาวเต็มฟ้า แต่รู้ไหมว่า ความสวยงามตระการตาของ จ. น่าน นั้นอยู่ในหน้าฝน ในฤดูที่ความเขียวขจีปกคลุมไปทุกพื้นที่ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวสดตัดกับสายหมอกขาว สวยงามเกินบรรยาย
วันนี้ นายรอบรู้นักเดินทาง จึงถือโอกาสพาเที่ยว 5 ไฮไลค์ห้ามพลาด เมื่อมาเที่ยวน่านในหน้าฝน
ใครที่หลงรักการท่องเที่ยวชุมชน หลงใหลเสน่ห์วัฒนธรรมอีสานแล้วละก็ ศิลาโฮมสเตย์ บ้านท่าแก ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
“เที่ยวนครสวรรค์เหมือนได้ขึ้นสวรรค์” — หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว บอกเลยว่าห้ามพลาดจังหวัดนครสวรรค์ เมืองแห่งความศรัทธา รวมคุณค่าทั้งวัฒนธรรมไทย-จีนไว้ได้อย่างลงตัว
เป็นร้านกาแฟน้องใหม่ในเมืองอุดร ที่ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก ทั้งการตกแต่งร้านหวานๆ สไตล์อิงลิชคันทรี่ เปิดเพลง Bossa เบาๆ เคล้าบรรยากาศชวนฝัน และบริการที่เป็นกันเอง
เที่ยงวันก่อนเพื่อนกวีนักชิมชวนไปลองชิมของอร่อยย่านตลาดโบ๊เบ๊ โดยมีเป้าหมายอยู่แถวสะพาน 4 ข้ามคลองผดุงฯ แล้วเดินผ่านร้านขายเสื้อผ้าสารพันมากมายก่ายกอง จนอดรู้สึกไม่ได้ว่า ไม่น่าเชื่อคนเราจะใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ได้หมด
หมี่พันเป็นอาหารพื้นถิ่นของคนลับแล โดยมีร้านหมี่พันป้าหว่างหรือหมี่พันบ้านยางกะได เป็นร้านหมี่พันอร่อยเลิศของเมืองลับแล
© 2018 All rights Reserved.