
99 Rest Backyard Café อบอุ่นเหมือนนั่งในสวนหลังบ้าน
นายรอบรู้” ขอพาคุณมาอิ่มอร่อยและผ่อนคลายในบรรยากาศอบอุ่นร่มรื่นท่ามกลางต้นไม้ สนามหญ้า และสระน้ำ พร้อมลิ้มลองรสชาติที่หลากหลายจากเมนูอาหารที่ใส่ใจต่อสุขภาพตั้งแต่ต้นทางผู้ผลิตจนถึงปลายทางผู้บริโภค
ใครมาหัวหินเบื่อคาเฟ่เดิมๆ แล้วไหม วันนี้ นายรอบรู้ นักเดินทาง พาไปแวะเช็คอินกันที่ “ปลีกวิเวก คาเฟ่” คาเฟ่ตึกปูนสีขาวสไตล์มินิมอลบรรยากาศเงียบสงบสมชื่อปลีกวิเวก ใครพร้อมจะมานั่งชิลล์กับเราแล้วล่ะก็…ตามมาเลย
ปลีกวิเวก คาเฟ่ มี 3 ชั้น ตกแต่งไปในทาง Earth Tone เฟอร์นิเจอร์ภายในร้านโดยส่วนมากจะทำจากไม้สานและเน้นไปทางงานไม้เป็นส่วนมาก
ชั้นแรกจะเป็นโซนเค้าท์เตอร์มีเก้าอี้ยาวนั่งและโต๊ะปูนทรงกลมขาวเล็กๆ มีโคมไฟเหนือโต๊ะ ทำให้ถ่ายภาพออกมาแล้วแสงตกกระทบที่สวยงามเหมือนแสงธรรมชาติ มุมร้านตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียวและน้ำตาล ให้อารมณ์เหมือนคาเฟ่เกาหลี และมีกลิ่นอายของธรรมชาติพร้อมกับความเงียบสงบแอบแฝงอยู่
ชั้นที่สองเป็นเหมือนชั้นลอยยื่นออกมามองลงมาเห็นชั้นแรกได้ ถือเป็นมุมชิลล์ๆ มี 2โต๊ะ สำหรับคนที่ต้องการมุมส่วนตัว นั่งจิบกาแฟ หรือถ่ายรูปเก๋ๆ เอาไปอวดเพื่อนในโซเซี่ยล
ส่วนในชั้นที่สามเป็นชั้นสำหรับผู้ที่ต้องการจิบเครื่องดื่มไปพลางอ่านหนังสือไปด้วย โดยมีโต๊ะไม้ยาวตั้งอยู่กลางห้องไว้สำหรับผู้ที่ต้องการมุมสงบ หรือมากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เลือกหนังสือตามใจชอบแล้วลองนั่งอ่านสักพักให้กายใจได้ล่องลอยไปในโลกของตัวอักษร
เครื่องดื่มและขนมหวานภายในร้านมีการนำมะพร้าวน้ำหอมและน้ำตาลโตนดมาใส่เป็นส่วนประกอบซึ่งถือเป็น Signature ของร้านเลยก็ว่าได้ โดยมะพร้าวน้ำหอมเป็นวัตถุดิบจากสวนในชุมชนและยังเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย เนื่องจากเป็นสวนมะพร้าวของชาวบ้านเอง การเก็บผลผลิตและการคัดเลือก นำมาทำขนมก็เป็นผลผลิตที่ชาวบ้านจัดทำขึ้นเอง
เมนูเครื่องดื่มที่อย่าง UZU COFFEE เป็นเมนูที่ผสมผสานกันระหว่างส้มยูสุและกาแฟเอสเพรสโซได้อย่างลงตัว แม้เป็นคนไม่ที่ดื่มกาแฟก็สามารถดื่มได้เพราะกลิ่มของส้มยูสุจะทำการกลบกลิ่มของกาแฟไปเกือบหมด ได้รสชาติความหอมหวาน และอมเปรี้ยวน้อยๆ จากส้มยูสุ ทำให้รู้สึกสดชื่นเมื่อได้ดื่ม
มัทฉะนมมะพร้าว เมนูนี้เป็นเมนูที่อยากแนะนำเป็นอย่างมาก เพราะความเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อของมัจฉะและมะพร้าว ที่ใครลองแล้วต้องร้องว้าว มีทั้งความหอมและเข้มข้นของมัทฉะ ความหอมของน้ำมะพร้าวน้ำหอม และความกลมกล่อมของนม รวมไปถึงเนื้อมะพร้าวที่มีความนุ่มละมุน ทุกอย่างเข้ากันอย่างลงตัวมากๆ
ชาเย็นน้ำตาลโตนด เมนูนี้สำหรับคนที่อยากได้น้ำตาลจากธรรมชาติ โดยมีความหอมของชาไทย และรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อยของน้ำตาลโตลด เมื่อดื่มแรกๆ อาจยังไม่คุ้นรสชาติแต่เมื่อดื่มเรื่อยๆ ก็จะดื่มหมดไปโดยไม่รู้ตัว
ส่วนเมนูขนมหวานก็เป็นขนม Home made ทั้งหมด ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ เค้กกะลามะพร้าว เป็นเค้ก 3 ชั้น ชั้นบนจะเป็นมะพร้าวเชื่อมหอมหวาน ชั้นกลางเป็นเนื้อครีมนุ่มละมุนลิ้น ส่วนชั้นล่างสุดจะเป็นเค้กนุ่ม หอมอร่อยลงตัวสุดๆ
นอกจากนี้ยังมี 2 เมนู ของหวานก็คือ strawberry short cake เป็นขนมปัง 2 แผ่นประกบกันตรงกลางจะเป็นเนื้อครีมและสตอเบอร์รี่ผ่าครึ่งพอดีคำ ตัวแป้งนุ่มตัดง่ายหอมเนย ครีมมีความหวานหอมนุ่มฟู ให้อารมณ์เหมือนทานก้อนเมฆรสสตอเบอร์รี่ละลายในปาก หากได้ทานแล้วจะติดใจจนต้องสั่งเพิ่มมาทานอีกชิ้นเลยทีเดียว และ Basque Cheesecake ชีสเค้กหอมกรุ่น ท็อปด้วยบลูเบอร์รี่เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว โดยการใช้รสเปรี้ยวหวานของบลูเบอรร์รี่ตัดกับความหอม หวานมันของชีสเค้กทานเท่าไหร่ก็ไม่เลี่ยน เมนูนี้รสชาติกลมกล่อมหอมมันหวานพอดี หากใครที่เป็นสาวกชีสเค้กต้องมาลิ้มลองด้วยตัวเองให้ได้
ใครที่มาชะอำ ปลีกวิเวก คาเฟ่ นับว่าเป็นจุดเช็คอินที่มีเอกลักษณ์อีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลย คุณจะได้รับความอร่อยจากเครื่องดื่มและของหวานที่รังสรรค์ออกมาด้วยความพิถีพิถันและตั้งใจ ได้รูปถ่ายสวยๆจากมุมต่างๆของร้านพร้อมได้พักกายพักใจไปกับบรรยากาศความเงียบสงบสมชื่อปลีกวิเวก
ขอขอบคุณ กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ที่ตั้ง อยู่ในซอยโรงแรมลองบีช ชะอำเป็นตึกแถว 3ชั้น (ทางด้านซ้ายมือ) ต. ชะอำ อ. ชะอำ จ. เพชรบุรี
เปิด ทุกวัน 09.00 – 19.00 น.
โทร 063 551 6244
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ลูกศรหนอนหนังสือ(ที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่าน) นิสิตเอกท่องเที่ยวมมส.ที่รักในการนอน คิดถึงหมอนแม้แต่เวลากิน ชอบจิบกาแฟฟินๆที่คาเฟ่ ฝึกงานเก๋ๆที่นายรอบรู้
Bonjour je m'appelle Chonticha Khammoung ชื่อออมค่ะ นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรการจัดการท่องเที่ยวเอกฝรั่งเศส เป็นคนกินง่าย นอนง่าย ชอบทุกอย่างที่เป็นสีฟ้า เกลียดเสียงไก่แต่ชอบกินปลาหมึก สวัสดีค่ะ
นายรอบรู้” ขอพาคุณมาอิ่มอร่อยและผ่อนคลายในบรรยากาศอบอุ่นร่มรื่นท่ามกลางต้นไม้ สนามหญ้า และสระน้ำ พร้อมลิ้มลองรสชาติที่หลากหลายจากเมนูอาหารที่ใส่ใจต่อสุขภาพตั้งแต่ต้นทางผู้ผลิตจนถึงปลายทางผู้บริโภค
Nairobroo – “นายรอบรู้” คือทีมงานนักเดินทางที่จัดทำหนังสือคู่มือและแผนที่ท่องเที่ยวทั่วเมืองไทยมานานกว่า 20 ปี เราคัดสรรเรื่องราวจากทุกซอกมุมมานำเสนอด้วยความพิถีพิถัน ใส่ใจ และเจาะลึก…เชื่อว่าคุณก็ต้องชอบเหมือนเรา
ขนมด๊อตเป็นขนมปิ้งโบราณของจังหวัดบุรีรัมย์ รสชาติหวานมันและกลมกล่อมชนิดที่ผู้ซึ่งไม่ชื่นชอบขนมหวานยังต้องฟิน แต่ในปัจจุบันกลับหาซื้อทานได้ยากยิ่ง เนื่องจากเป็นขนมที่ต้องใช้ความอดทนในการผลิตเป็นอย่างสูง
ว่าด้วยเรื่องก๋วยเตี๋ยวเนื้อ หมัดเด็ดที่ชี้เป็นชี้ตายความเอร็ดอร่อย คงจะหนีไปไหนไม่ได้นอกจากการเลือกคุณภาพเนื้อที่ใช้ และการปรุงน้ำซุปให้กลมกล่อมลงตัว และร้าน รสเอกโอชา เป็นผู้ช่ำชองเรื่องนั้น
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ยามสายอันเงียบสงบ วันที่แสงแดดโดนบดบังโดยหมู่เมฆครึ้ม ฉันนั่งทอดกายอยู่ที่มาหาสมุทร บูติลโฮมสเตย์ ริมแม่น้ำประแส จังหวัดระยอง สัมผัสได้ถึงสายลมพัดเอื่อยๆ ส่งเสียงดังหวิดหวิว สายตามองลงไปเห็นขาของตัวเองกำลังกวัดแกว่งอยู่เหนือแม่น้ำประแส เหลือบเห็นเจ้าปลาเสือพ่นน้ำแหวกว่ายไปกับฝูงเพื่อน เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ข้างกายขึ้นมาปิดเสียง เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติที่ริมแม่น้ำ
ใครไปเยือนภูเก็ต ต้องไม่พลาดแวะกินอาหารทะเลสด ๆ แน่นอน
ตอนที่เปิดประตูเข้าไปในร้าน สายตาปะทะกับกระดานดำ (สีเขียว) เขียนเมนูหลากหลาย มองไปทางขวาบนฝาผนัง นั่นมันรูปวาด ส่วนตรงกลางร้านก็เต็มไปด้วยโต๊ะ-โต๊ะนักเรียน “เฮ้ย นี่มันห้องเรียนชัดๆ”
ลำปางฤดูฝนก็คงไม่ต่างจากที่อื่นๆ ที่เคยไปมาหรอก ฉันคิดเช่นนั้นเมื่อรู้ว่าต้องเดินทางมาที่นี่ “บ้านแม่หมี” ดินแดนที่ฉันไม่เคยรู้จัก ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าการเดินทางมายังที่แห่งนี้จะเป็นการอำลาชีวิตการเป็นนักศึกษาฝึกงานของฉันที่ “นายรอบรู้ นักเดินทาง” ที่ฉันประทับใจไม่รู้ลืม และฉันเองหวังใจว่าจะได้กลับมาเยือนที่แห่งนี้อีกครั้ง
© 2018 All rights Reserved.