
บะหมี่จับกัง ร้านเด็ดเยาวราช
บะหมี่จับกัง ร้านดังในตำนาน ที่ชาวเยาวราชรู้จักเป็นอย่างดี ด้วยเปิดขายมานานกว่า 70 ปี กับเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ จัดหนัก จัดเต็ม ทั้งเส้นทั้งเครื่องเครา
ว่ากันว่าเมืองสองแควหรือ จ. พิษณุโลกนั้นมีของดีของเด่นอยู่มาก ทั้งวัดวาอาราม พระพุทธรูปคู่บ้าน เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ยาวนาน ธรรมชาติตระการตา วันนี้ นายรอบรู้ นักเดินทาง ขอไปพิสูจน์ให้เห็นด้วยตาตัวเองสักหน่อย ว่าพิษณุโลกนั้นมีดีอย่างที่เขาว่าจริงไหม…ถ้าพร้อมแล้วออกเดินทางไปพร้อมๆ กันเลย
กริ๊งๆๆ เสียงกระดิ่งจากรถรางดังขึ้นที่บริเวณลานโพธิ์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางครั้งนี้
เราเริ่มกันด้วยการนั่งรถรางชมเมือง ที่จากวัดศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ศักการะพระพุทธชินราช พระพุทธรูปคู่เมืองพิษณุโลก ที่ใครมาถึงก็ต้องมากราบไหว้ พาชมบรรยากาศโดยรอบของเมืองพิษณุโลก นั่งรถชมบ้านริมน้ำ พาแวะหอนาฬิกา ถ่ายรูปชิคๆ กันได้ตลอดทาง
หากใครมาพิษณุโลกแล้วไม่รู้ว่าจะเริ่มเที่ยวจากที่ไหน แนะนำว่าให้ลองมานั่งรถรางกันดู เพราะมีการพาเที่ยวแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ร้านอาหาร หรือแลนด์มาร์คต่างๆ ของเมืองพิษณุโลก และยังมีไกด์คอยบรรยายถึงเรื่องราวให้ฟังตลอดการเดินทางอีกด้วย
ที่ตั้ง : ต. ในเมือง อ. เมืองพิษณุโลก จ. พิษณุโลก
โทร : 055-287774,081-6801201
เปิด ทุกวัน 09.00น-16.00น
เดินทางต่อเพื่อมาชิมกล้วยตาก สินค้า OTOP ของจังหวัดพิษณุโลก ที่ร้าน Jirapron banana ร้านขายกล้วยตากที่ส่งออกทั้งไทยและต่างประเทศ เคยได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย
กล้วยตากของที่นี่ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ปลอดภัยและเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่คัดพันธ์กล้วย ใช้กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง กล้วยต้องมีอายุ 110 วัน จึงเหมาะที่จะนำมาทำเป็นกล้วยตาก โดยการนำไปตากใน พาราโบลาโดม ด้วยระยะเวลา 4-5 วัน เพราะจะทำให้ หอม หวาน และนุ่ม
ที่นี่มีกล้วยตากให้เลือกมากมากหลายรสซึ่งมีทั้ง แบบดั้งเดิม เคลือบชาเขียว เคลือบช็อคโกแลต เคลือบสตอเบอรี่ญี่ปุ่น ใครที่มาเที่ยวพิษณุโลกและอยากได้ของฝากไปฝากคนรู้ใจ..ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งที่ควรลอง
ที่ตั้ง : ต. บางกระทุ่ม อ. บางกระทุ่ม จ. พิษณุโลก
โทร : 088 282 1156, 055 000 143
เปิด : 8.30น. – 17.00น.
กินกล้วย แวะซื้อของฝากกันเต็มที่แล้ว เราออกมาไหว้พระกันที่ วัดห้วยแก้ว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านจิราพรมากนัก ที่นี่มีศาลาไม้สัก ว่ากันว่าเป็นศาลาไม้สักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีลวดลายแกะสลักลายไทย ตามประตู เสา บานประตูมีการแกะสลักเป็นรูปเทวดา เสาในตัวศาลานั้นได้แกะสลักเป็นรูปนักษัตร และภายในยังมีพระพุทธรูปปรางค์มารวิชัยที่แกะสลักจากไม้สักและไม้ประดู่ทั้งหมด เป็นการแกะสลักที่มีความประณีตและสวยงาม
อีกไฮไลค์หนึ่งของการมาทริปนี้คือ การล่องแก่งลำน้ำเข็ก เป็นการล่องแพยางผ่านแก่งและธารน้ำเข็ก ซึ่งไหลคดเคี้ยวผ่านหมู่บ้าน ไร่นา และธรรมชาติ แต่ด้วยปีนี้พิษณุโลกประสบปัญหาภัยแล้งจึงทำให้น้ำมีระดับต่ำ น้ำไหลเอื่อยไม่มีความเชี่ยว แต่ก็ยังทำให้พวกเราได้เห็นสวยน้ำ และทิวทัศน์ลองข้างทางอยู่เหมือนกัน
ลำน้ำเข็กเป็นสายน้ำที่ยาวคู่ขนานกับถนนหมายเลข 12 ซึ่งเป็นจุดเด่นของสายน้ำเส้นนี้ เพราะไม่ต้องแบกเรือเดินเข้าไปให้เหนื่อย เวลาล่องแก่งจะมีเสื้อชูชีพ คนคุมทั้งหัวเรือและท้ายเรือ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวแต่ยังคงความสนุกสนาน และท้าทายให้กับนักท่องเที่ยวที่มาล่องแก่งได้ไม่น้อย
ความยาวของการล่องแก่งอยู่ที่ประมาณ 8-10 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับความแรงของน้ำโดยจะใช้เวลาในการล่องประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระหว่างทางสามารถชมวิวชมธรรมชาติเป็นระยะๆ แล้วค่อยกลับไปลุยกับแก่งเพิ่มความสนุกกันได้เรื่อยๆ
ที่ตั้ง : ต. แก่งโสภา อ. วังทอง จ. พิษณุโลก
โทร : 0-5525-2742 , 0-5525-2743
เปิด : ช่วงฤดูฝนเป็นเวลาที่เหมาะแก่การล่องแก่งที่สุด
บ้านผารังรังหมีเป็นหมู่บ้านเล็กๆ เกิดขึ้นจากการอพยพของชาวบ้านจากจังหวัดทางภาคอีสาน เช่น กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ยโสธร สุรินทร์ และอุบลราชธานีมาตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัย ณ ที่แห่งนี้
เดิมทีหมู่บ้านมีชื่อเรียกว่า ผาหลังหมี เพราะมีการพบถ้ำที่มีหมีอาศัย อยู่บนยอดเขาที่ติดกับหมู่บ้าน ซึ่งในปัจจุบันคือที่ตั้งของวัดผารังหมี
ที่นี่มีแพ็คเกจการท่องเที่ยวหมู่โดยตั้งชื่อว่า “นอนค้างบ้านเรา ไม่เหงาแน่นอน” ซึ่งจะให้นักท่องเที่ยวมานอนบ้านเดียวกับชาวบ้าน และใช้ชีวิตกินนอนกับชาวบ้านเลย เรียกได้ว่าเข้าถึงวิถีชุมชนสุดๆ
มาถึงบ้านผารังหมี ก็ต้องมาศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านกันก่อน เจ้าพ่อร่มขาว นั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือและเคารพบูชา เชื่อว่าทำให้หมู่บ้านสงบสุข ไม่ทะเลาะกัน ในวันช่วงเดือน 6 ขึ้น 6 ค่ำของทุกปีก็จะมีการบวงสรวงกันทั้งหมู่บ้าน
จากนั้นเราเดินทางมาไหว้พระกันต่อที่วัดผารังหมี ซึ่งมีหลวงพ่อเพชรมณี พระปรางค์ไสยาสน์ ที่ใหญ่ที่สุดใน อ. เนินมะปราง และยังมีบันไดสรรค์ ที่ขึ้นไปแล้วมองเห็นวิวที่สวยที่สุดของหมู่บ้านผารังหมีอีกด้วย
เสร็จแล้วขึ้นรถรางพาชมหมู่บ้าน ไปชมการเรียนรู้การทำซาลาเปามะม่วง ที่หมู่ 12 บ้านคลองซับรัง พาชมถ้ำต่างๆ ตกเย็นจะพาไปชมค้างคาวออกหากินที่บ้านมุง และค่อยกลับมาพักผ่อนที่โฮมสเตย์
ตื่นตอนเช้ามาร่วมใส่บาตรกับเจ้าของบ้าน สัมผัสวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของคนบ้านผารังหมี และรับอากาศบริสุทธิ์ก่อนจะไปทานอาหารเช้า
หลังจากนั้นก็ไปชมการทอเสื่อกก และการทอผ้า ลายผ้าทอที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านคือ ลายช่อมะปรางซึ่งเป็นลายประจำ อ. เนินมะปราง และลายมะม่วงที่เป็นลายประจำของหมู่บ้านผารังหมี ส่วนเสื่อกกจะมีลายที่คิดค้นขึ้นมาเองของหมู่บ้าน คือ ลายขิด ขอใหญ่ ดอกแก้ว เรณู และเขึ้ยวหมาตาย มีความสวยงามและความคงทน ซื้อไว้ไม่เสียหายแน่นอน
ที่ตั้ง : ต. บ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก อ. เนินมะปราง จ. พิษณุโลก
โทร : 089-2690301, 063-1566495, 081-3628532
หลังจากออกจากบ้านผารังหมี เราได้มีโอกาสแวะชมพิพิธภัณฑ์จากชีวิต ของจ่าทวี ซึ่งเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของ ลุงจ่า หรือจ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ ที่ไปซื้อเครื่องใช้ต่างๆ ของชาวบ้านมาเก็บสะสมเป็นจำนวนมาก โดยจะเน้นไปที่ข้าวของที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จนเกิดมาเป็นพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2526 จนถึงปัจจุบัน
ภายในพิพิธภัณฑ์ แบ่งเป็น 5 ส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นส่วนของร้านค้าของที่ระลึกและส่วนจัดแสดงพันธุ์ปลาท้องถิ่นของพิษณุโลก ส่วนที่สองเป็นส่วนจัดแสดงรูปภาพประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของพิษณุโลก ส่วนที่สามจะมี 2 ชั้น เป็นส่วนของข้าวของเครื่องใช้ของชาวบ้าน มีการจำลองบางมุมของบ้าน เช่น ครัวไฟ (ห้องครัว) พาไล (พื้นที่ใช้สอยสารพัดประโยนช์) เรือนอยู่ไฟหลังคลอดบุตร เป็นต้น ว่วนที่สี่นั้นเป็นส่วนจัดแสดงนิทรรศการชาวโช่ง (ลาวโช่ง หรือ ไทยทรงดำ) และสุดท้านคือ ส่วนจัดแสดงเทิดพระเกียรติฯ และหอเกียรติยศของจ่าทวี
ที่ตั้ง : ถ. วิสุทธิ์กษัตริย์ ต. ในเมือง อ. เมืองพิษณุโลก จ. พิษณุโลก
โทร : 055 212 749
เปิด : ทุกวัน 08.30น.-16.30น
ที่สุดท้ายที่เราได้แวะมาชมคือ ศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทร์ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระราชวังจันทร์เป็นพิพิธภัณฑ์เป็นบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ จ. พิษณุโลกและสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทร์เกิดจากการร่วมมือของ กรมศิลปากร, มูลนิธิเย็นศิระเพราะพระบริบาล, บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด, และ จ. พิษณุโลก ส่งเสริมการศึกษาและการท่องเที่ยว แสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองพิษณุโลก พระราชวังจันทน์ และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวร
ภายในพิพิธภัณฑ์จะแบ่งเป็นห้องๆ ตามลำดับ โดยจัดสัดส่วนเป็น ห้องประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองพิษณุโลก ที่ตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำน่านและภูมิศาสตร์ของจังหวัด ห้องประวัติศาสตร์ 9 ศตวรรษ ตั้งแต่กำเนิดเมืองสองแควจนถึงปัจจบัน ห้องศิลปกรรมและงานช่างหลวงของพิษณุโลก เช่น พระพุทธชินราช ประติมากรรมพระอัฏฐารสขนาดย่อส่วน วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดเจดีย์ยอดทอง เป็นต้น และยังมีการจำลองวัตถุโบราณชิ้นสำคัญๆ เอาไว้ ห้องจัดแสดงวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและมีการจำลอง พระมาลาเบี่ยง พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง พระแสงคาบค่าย และพระแสงของง้าวพลพ่าย และที่สำคัญมี พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นต้น
ใครที่สนใจประวัติศาสตร์ของเมืองพิษณุโลกและตำนานสมเด็จพระนเรศวรที่นี่มีคำตอบให้นักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
ที่ตั้ง : ถ. วังจันทน์ ต. ในเมือง อ. เมืองพิษณุโลก จ. พิษณุโลก
โทร : 055 247 304
เปิด : ทุกวัน 09.00-16.00 น เข้าชมฟรี
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
บะหมี่จับกัง ร้านดังในตำนาน ที่ชาวเยาวราชรู้จักเป็นอย่างดี ด้วยเปิดขายมานานกว่า 70 ปี กับเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ จัดหนัก จัดเต็ม ทั้งเส้นทั้งเครื่องเครา
วันนี้ นายรอบรรู้ จะพาคุณแม่ออกเดินทางพักผ่อนต้อนรับเทศกาล “วันแม่” ที่ จ. ราชบุรี และ จ. นครปฐมกันหน่อย บนเส้นทางเลาะเลียบธรรมชาติที่อากาศแสนบริสุทธิ์ ให้คุณและครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกันแบบเต็มอิ่ม รับประกันความสุขตลอดทริป พร้อมเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอันเบิกบานของคุณแม่ตลอดวัน
แม่จ๋ายื่นมือมา ได้เวลาไปเที่ยวกันแล้ว…Go! Go! Go!
นายกเมืองพัทยา เร่งยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพัทยาเพื่ออนาคต อัดฉีดพันล้านเสริมศักยภาพนีโอเกาะล้าน-โอลด์ทาวน์นาเกลือ โดยได้เดินหน้าสานต่อภารกิจยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองพัทยาเพื่ออนาคต ดัน 2 โครงการยักษ์ อย่าง “นีโอเกาะล้าน” และ “โอลด์ทาวน์นาเกลือ” อัดฉีดงบเฉียด 1,000 ล้านเดินหน้า 32 โครงการเสริมศักยภาพและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจพัทยาและชุมชน
จังหวัดบึงกาฬมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งน้ำตก ภูเขา แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก อาจเพราะอยู่ห่างจาก กรุงเทพมหานครไกลถึง 751 กิโลเมตร เด็ดสุดที่เราไม่อยากให้คุณพลาดเลย เพราะเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดก็ว่าได้ นั่นคือ “วัดภูทอก” หรือ “วัดเจติยาคีรีวิหาร” สถานที่ปฏิบัติธรรมสวยงามด้วยธรรมชาติแวดล้อม แฝงไว้ซึ่งเสน่ห์ทางธรรม
© 2018 All rights Reserved.