ลัดเลาะริมผา ชมภาพสลักนูนต่ำ
เมื่อตะวันลอยเด่นเต็มดวง เราเดินลัดเลาะขึ้นเนินเขาไปชมภาพสลักนูนต่ำกันต่อ ใครที่กลัวความสูงคงจะรู้สึกใจหวิวหวิวเป็นแน่ เพราะทางเดินลงบันไดเลียบหน้าผา ข้างหนึ่งติดหน้าผาหิน อีกข้างเป็นเหวลึก แม้จะมีที่กั้นกันตก แต่ก็ต้องเดินช้าๆ อย่างระมัดระวัง
ที่นี่คุณจะได้เห็นภาพสลักนูนต่ำโบราณบนหน้าผาหินทราย อายุกว่า 1,500 ปี เป็นภาพสลักรูปบุรุษขนาบข้างซ้ายขวาด้วยสตรี แกะสลักเรียงกัน 3 องค์ สันนิฐานว่า รูปบุรุษเป็นท้าวกุเวร หนึ่งในจตุมหาราชประจำทิศเหนือ สังเกตจากโครงสร้างขององค์เทพบุรุษจะเห็นว่า ภาพตรงส่วนหัวมีความเป็นเอกลักษณ์ ลักษณะเหมือนมีดอกไม้ทัดใบหู สิ่งนี้คือสัญลักษณ์ของดอกไม้จันทน์ ดอกไม้แห่งสรวงสวรรค์ เพราะเมื่อมนุษย์ตายไปก็จะใช้ดอกไม้จันทน์ส่งดวงวิญญาณให้กับพระพายนำขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์นั่นเอง
นักวิชาการบางคนก็สันนิษฐานว่าเทพองค์นี้อาจเป็นตัวแทนของกษัตริย์ขอมในสมัยนั้น หรือเป็นตัวแทนของช่างใหญ่ มาทำพิธีบวรสรวงก่อนสร้างปราสาทพระวิหาร ข้อสังเกตอีกอย่างคือเทพองค์นี้มีปางใกล้เคียงกับรูปสลักในปราสาทเขาพระวิหาร คือปางพระนารายณ์อวตารมาเป็นพระลักษมณ์พระรามมาปราบทศกัณฐ์ นับเป็นรูปสลักที่มีความสวยงามแต่น่าเสียดายที่รูปสตรีทั้งสองข้างนั้นมีใบหน้าที่ชำรุด
ถัดจากภาพแกะสลักนูนต่ำไปไม่ไกล มีอีก 2 ภาพที่ยังแกะไม่เสร็จ สันนิษฐานว่าเป็นรูปพระนารายณ์ประทับเหนือพระยาอนันตนาคราช และข้างๆ กันเป็นภาพหมู คือภาพอวตารภาคหนึ่งของพระนารายณ์ เชื่อว่าภาพบริเวณริมหน้าผาหินแห่งนี้ เกิดก่อนภาพแกะสลักในปราสาทพระวิหารอีกด้วย
ใครที่จะเข้ามาชมภาพแกะสลักต้องมองผ่านช่องรั้วลวดที่กั้นไว้ เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เดินเข้าไปชมใกล้ๆ ด้วยคนไทยเรานั้นมีความเชื่อเรื่องดวงเรื่องหวย อาจนำแป้งมาโรยถูขอเลขจนทำให้ภาพแกะสลักบริเวณนี้เกิดความชำรุดเสียหายได้
แม้จะได้ชมภาพสลักผ่านรั้วที่กั้นไว้ แต่ก็ยังเห็นถึงความวิจิตรงดงามของภาพที่ช่างแกะสลักสมัยโบราณตั้งใจทำขึ้น
เดินไปไม่ไกลก็จะเจอจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งของผามออีแดง เป็นจุดที่สามารถมองเห็นปราสาทเขาพระวิหารได้ด้วยตาเปล่า แม้จะเสียดายที่ไม่สามารถไปถึงตัวปราสาทได้ แต่เพียงเท่านี้ก็สวยงามคุ้มค่าที่ได้ชม