ห้องนี้มีช่องทางเดินเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ปูด้วยพรหมฝุ่นสีแดง สองข้างทางรายล้อมด้วยทุ่งหญ้าคา แม้ช่วงที่เราไปจะไม่ใช่ช่วงที่เขียวชะอุ่มที่สุดของหนองผักชี แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย เพราะในความแห้งแล้งของต้นไม้ทำให้เราได้พบกับมุมมองอีกด้านของหนองผักชี หากคุณมองว่าหญ้าแห้งแล้งไม่สวยงามอย่างที่หวัง คุณจะรู้สึกผิดหวังและเสียดายเวลาซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่หากคุณลองมองให้ลึกลงไปคุณอาจสังเกตุเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่คุณไม่เคยสนใจ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้เล็ก ๆ ที่ผลิบานอยู่ใต้ใบหญ้าแห้ง ก็ถือเป็นหนึ่งชีวิตที่งดงาม
เราเดินเริ่มเปิดสัมผัสทีละนิด เงียบและรับฟังเสียงของธรรมชาติเพื่อลองเป็นส่วนหนึ่งของป่าแห่งนี้ รับรู้ถึงกลิ่นอายของใบไม้แห้ง สัมผัสได้ถึงละอองเบาบางของดอกหญ้าคาพัดปลิวมาตามลม มองเห็นนกปรอดหัวโขนตัวน้อยโบยบินพร้อมเสียงลมกระทบกันของใบหญ้าแห้ง ราวกับว่าเรากำลังรับฟังเสียงของป่าแห่งนี้อยู่ เสียงที่ไม่ได้มาในรูปแบบการพูดคุย แต่มาในรูปแบบของความรู้สึก รับรู้ได้ว่าร่างกายกำลังผ่อนคลาย แสงแดดอุ่น ๆ ของอาทิตย์ที่สาดส่องมาบนผิวกายทำให้รู้สึกได้ถึงการอาบป่าจริง ๆ