
ร้านข้าวแกงเจ๊นีย์
พัทลุง: หากเข้ามาแล้วเห็นร้านเงียบเชียบ ไม่มีคนนั่งกินก็อย่าเพิ่งตกใจ เพราะร้านนี้เขาเน้นส่งข้าวแกงให้ลูกค้าประจำทั้งต่างจังหวัดและในพื้นที่
ปัจจุบันนี้มีสไตล์การท่องเที่ยวหลากหลายตามความสนใจของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยววิถีชุมชน การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ เช่น การลงมือปลูกพืชผักตามธรรมชาติ ตามฤดูกาล การปลูกดอกไม้ หรือว่าจะเป็นการทำแปลงผักออร์แกนิคก็ตาม
วันนี้ นายรอบรู้ นักเดินทาง จะพาทุกท่านไปรู้จักฟาร์มเกษตรที่กำลังได้รับความสนใจ ไปสัมผัสวีถีการทำฟาร์ม ไปทานอาหารสุขภาพกันที่ มีกินฟาร์ม (Mekin Farm) จ. ขอนแก่น
มีกินฟาร์ม (Mekin Farm) ตั้งอยู่ที่ ต. จระเข้ อ. หนองเรือ จ. ขอนแก่น ด้วยแนวคิด “Living with ME like my KIN” ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะใช้เวลากับมีกินฟาร์มมากน้อยแค่ไหน เราจะดูแลคุณเหมือนญาติพี่น้องมาเยี่ยมเยือน ให้ทุกท่านได้สัมผัสความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่มีสวน ทุ่งนา และบรรยากาศธรรมชาติแสนสบาย
มีกินฟาร์ม ดูแลโดย คุณปู จงรัก จารุพันธ์งาม และคุณยิ้ม ประณีต จารุพันธ์งาม พื้นเพเดิม ปู เติบโตมากับตาและยาย ด้วยวิถีชีวิตเกษตรกร เรียนรู้วิถีเกษตรจากบรรพบุรุษมาตั้งแต่เด็ก แต่หลังจากจบปริญญารัฐศาสตร์ ชีวิตก็ห่างไกลจากวิถีนี้ไป หลังจากที่ทำงานอยู่หลายปีเกิดความเหนื่อย จึงตัดสินใจออกจากงานวิชาการไปเป็นผู้จัดการร้านอาหารที่ประเทศอังกฤษกว่า 6 ปี จนวันนึงจึงเข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองโหยหานั้นคือวิถีเก่าๆ ครั้งเคยเป็นเด็ก
รวมกับความที่ปูและยิ้มนั้นขอบดูแล และอยากให้แขกได้รับประสบการณ์ดีๆ กว่าการมาร้านอาหารทั่วไป จึงเกิดไอเดีย “อีสาน Home Garden” ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสชีวิตการทำสวน ท่ามกลางธรรมชาติ ที่ไม่ได้ใช้สารเคมี และยาฆ่าแมลง เป็นการเกษตรอินทรีย์ที่เกิดจากใจ เรากินอาหารดี คนที่มาก็ต้องได้กินอาหารดีเหมือนเรา
มีกินฟาร์ม เป็นฟาร์มออร์แกนิคที่มีพื้นที่รวมกันทั้งหมด 8 ไร่ แต่ละพื้นที่จัดสรรไว้เป็นพื้นที่สำหรับแปลงนา แปลงผัก โรงครัว โรงนามุงหญ้าคา แปลงดอกไม้ สวนป่ากระท่อมเถียงนา อุโมงค์มัลเบอร์รี่ เล้าไก่ และคอกควาย
ที่มีกินฟาร์มมีกิจกรรม Workshop ที่ให้คุณได้สัมผัสถึงชีวิตการทำสวนโดย จะแบ่งออกเป็น 2 กิจกรรม คือ กิจกรรมปลูกข้าว โดยจะอิงวิถีการปลูกข้าวตามฤดูกาล คุณจะได้ลอง ปลูกข้าว ดำนา เกี่ยวข้าว ทำปุ๋ยหมัก ก็แล้วแต่ว่าคุณจะมาพบกับกิจกรรมในช่วงเวลาใด อีกกิจกรรมหนึ่ง คือ กิจกรรมวิถีเกษตร เป็นกิจกรรมที่นำวัตถุดิบจากสวนมาใช้ เช่น DIY ทำขนม ทำอาหาร จากผลผลิตที่ได้จากในสวน หรือการลงมือปลูกพืชผัก เป็นต้น
ในช่วงนี้คุณปูสนใจเรื่องดอกไม่รับประทานได้ เช่น ดอกเก๊กฮวย ดอกมากาเร็ต ดอกทารากอน ดอกอัญชัน เป็นต้น ทำให้ปลูกดอกไม้เยอะเป็นพิเศษ แปลงข้างหน้าฟาร์มจึงเต็มไปด้วยดอกไม้ และมีกิจกรรมการทำสลัดโรลด้วยดอกไม้รับประทานได้ นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังสร้างสรรค์อีกด้วย ในส่วนของกิจกรรมนั้นจะรับตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เริ่มต้นที่ 500 บาทต่อ 1 กิจกรรม ซึ่งบางกิจกรรมจะต้องแจ้งล่วงหน้าเข้ามาก่อน
หลังจากทำกิจกรรมต่างๆ แล้วท้องก็เริ่มหิว มีกินฟาร์ม มีอาหารหลากหลายให้เลือกไม่ว่าจะเป็นอาหารอีสานหรืออาหารที่คัดสรรขึ้นเอง เป็นอาหารเพื่อสุขภาพเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ เช่น ชุดปลานึ่ง–ผักนึ่ง พร้อมแจ่วพริกสด ส้มตำลาว เซ็ตขนมจีน ที่มีขนมจีนน้ำยากะทิปลาทู พร้อมไข่ต้มและผักสด ไก่ในสุ่ม หรือปีกไก่ทอดที่หมักด้วยสูตรลับของคุณแม่ เป็นต้น
แค่ชื่อเมนูก็เชื่อว่าทุกคนคงเริ่มหิว และอยากมาลองดูซักครั้งแล้ว…ใช่ไหมล่ะ ในส่วนของรสชาติอาหารนั้นเรียกได้ว่าอีสานแท้เลยค่ะ แซ่บ ครบเครื่องสุดๆ ไม่ว่าจะเผ็ด หวาน เค็ม เปรี้ยว รสชาติยังคงติดอยู่ในปากและอยากกลับไปกินอีกแน่นอน…รับประกันเลยค่ะ
นอกจากกิจกรรมในฟาร์มแล้วสำหรับคนที่สนใจที่อยากจะลองนอนพักที่ฟาร์ม มีกินฟาร์มก็มีบริการ Farmstay สำหรับคนที่อยากสัมผัสกลิ่นอายทุ่งนาและวิถีเกษตร เพราะอยากให้ผู้ที่เข้ามาพักที่นี่ได้สัมผัสถึงบรรยากาศ ประสบการณ์ และชีวิตของการทำฟาร์มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้า ช่วงกลางวัน หรือช่วงกลางคืน ยังมีบริการอาหารเช้า อาหารเย็นให้อีกด้วย ถึงแม้ในตอนนี้มี Farmstay เพียงหลังเดียว แต่คุณปูบอกไว้ว่าในอนาคตจะมีสร้างเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ที่ตั้ง ต. จระเข้ อ. หนองเรือ จ. ขอนแก่น
เปิด 9.00 – 18.00น. ปิดวันพุธ
โทร. 061-695-9926
Facebook : มีกินฟาร์ม MEKIN FARM
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
พัทลุง: หากเข้ามาแล้วเห็นร้านเงียบเชียบ ไม่มีคนนั่งกินก็อย่าเพิ่งตกใจ เพราะร้านนี้เขาเน้นส่งข้าวแกงให้ลูกค้าประจำทั้งต่างจังหวัดและในพื้นที่
ดินแดนที่มีชื่อว่าสุโขทัยซึ่งมีความหมายว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข เป็นอาณาจักรแห่งแรกของชนชาติไทยกว่า 700 ปีมาแล้ว ในอดีตสุโขทัยเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคนี้ มีการติดต่อสัมพันธ์กับล้านนาล้านช้าง และพุกาม จึงปรากฏโบราณวัตถุสถานจำนวนมากในดินแดนนี้โดยบริเวณเมืองเก่าที่ อ. ศรีสัชนาลัย และ อ. เมือง ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี พ.ศ. 2534
อากาศร้อนจางหาย สายฝนเริ่มโปรยปราย ตามถนนหนทางดูชุ่มฉ่ำเย็นสบายจนใครหลายคนอยากขับรถเที่ยวกินลมชมวิวไปบนเส้นทางสวยๆ ทางหลวงหมายเลข 12 ช่วงอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นอีกเส้นทางที่เขียวชอุ่ม ยิ่งหลังฝนตกใหม่ๆ จะมีหมอกลอยเรี่ยยอดเขาให้ได้สัมผัสไอเย็นตลอดเส้นทางอีกทั้งยังเต็มไปด้วยร้านกาแฟเก๋ๆ ร้านอาหารอร่อยๆ ให้ชิมให้ชิลล์อย่าง 2 ร้านนี้
รวมเมนูเด็ดร้านดังที่เลือกใช้วัตถุดิบอินทรีย์ ทั้งปลูกเอง และรับมาจากเพื่อนเกษตรกรเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศ มาครีเอทเมนูอร่อยเพื่อสุขภาพ ที่พร้อม Delivery ความอร่อยถึงบ้านคุณ ในช่วงที่หลายคนกำลังกักตัว และ Work From Home กันอย่างต่อเนื่อง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
โจ๊กสมเพชร ร้านโจ๊กเจ้าอร่อยแห่งเมืองเชียงใหม่ นอกจากโจ๊กที่เป็นของขึ้นชื่อของร้านแล้ว เขายังมีเมนูอื่นๆ ที่เด็ดไม่แพ้กันให้ลิ้มลองด้วย
ดอกไม้งาม ทิวทัศน์สวย ร่ำรวยป่า มีช้างหลาย ทิวเขามากมาย ทุ่งกะมัง ดอกกระเจียว ฯลฯ ทั้งหมดนี้คือของดีจังหวัดชัยภูมิ แต่เราก็พึ่งรู้ว่า จังหวัดชัยภูมิจะไม่สามารถเป็นชัยภูมิได้ดั่งเช่นทุกวันนี้ หากขาดคนสำคัญ คือ พระยาภักดีชุมพล (แล) เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดชัยภูมิ
ใครที่แวะเวียนมาแถวย่านเสาชิงช้า แล้วกำลังมองหาจุดเช็คอินบรรยากาศสบายๆ สไตล์คาเฟ่ “นายรอบรู้” ขอแนะนำ “บ้านขนมปังขิง” คาเฟ่เรือนไม้สไตล์ฝรั่ง ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเป็นตะวันตกและตะวันออก
เชียงใหม่เมืองแห่งความ slow life จุดหมายปลายทางของคนที่หนีความวุ่นวายจากเมืองกรุง มุ่งหน้าสู่เมืองต๊ะต่อนยอน นอกจากที่เที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ขึ้นชื่อแล้ว ยังมีคาเฟ่มากมายหลายร้านที่คุณไม่น่าพลาด “นายรอบรู้” จึงขออาสาพาทุกคนไปแอ่ว “9 คาเฟ่” ให้ทั่วเวียงเชียงใหม่ด้วยกัน
© 2018 All rights Reserved.