รู้หรือไม่! ทำไมน้ำตกจึงมีน้ำสีฟ้าอมเขียว
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมน้ำตกบางแห่งมีน้ำสีฟ้าอมเขียว โดยเฉพาะน้ำตกทางภาคตะวันตก เช่น น้ำตกเอราวัณ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จ. กาญจนบุรี แตกต่างจากน้ำตกในภาคอื่นๆ
ในช่วงปลายฤดูฝนที่สายฝนตกพรำๆตลอดวัน เป็นช่วงเดียวกันกับที่น้ำจากแม่น้ำพัดพาแร่ธาตุจากแผ่นดินใหญ่ลงสู่ชายฝั่งทะเล เหล่าลูกปลาทั้งหลายจึงทยอยกันมาพร้อมหน้าบริเวณปากแม่น้ำสำคัญของอ่าวรูปตัว ก บริเวณอ่าวไทย ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง หรือปากแม่น้ำเพชรบุรีบริเวณอ่าวบางตะบูน จึงทำให้ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลไทยอย่างวาฬบรูด้าเข้ามาอวดโฉมนับสิบตัวให้กับนักท่องเที่ยวที่ลงเรือออกมาเยี่ยมชมท้องทะเลไทย
คำว่า “เวียง” แปลว่าเมือง กุมกามเป็นเวียงโบราณที่พญามังรายสร้างขึ้นก่อนการสร้างเมืองเชียงใหม่ หลังจากที่พระองค์ได้ย้ายศูนย์กลางอำนาจจากเวียงเชียงแสนที่เชียงรายลงมายังที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง และเข้าตีเมืองหริภุณไชย (ลำพูน)ได้แล้ว จึงตั้งเมืองใหม่ที่เวียงกุมกามในพ.ศ. 1830 ทว่าถูกแม่น้ำปิงกัดเซาะใน พ.ศ. 1839 พญามังรายจึงย้ายเมืองหลวงไปที่เชิงดอยสุเทพและทิ้งเวียงกุมกามไว้ นานวันตะกอนจากแม่น้ำปิงทับทมจนกลบมิด กระทั่งปี 2523 กรมศิลปกรได้ขุดแต่งและบูรณะจนเป็นอย่งาที่เห็นทุกวันนี้
วาฬบรูด้า หนึ่งในสายพันธุ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญที่อาศัยอยู่ในท้องทะเล จัดอยู่ในกลุ่มวาฬไม่มีฟันแต่จะมีกระดูกที่เรียกว่าบาลีนทำหน้าที่กรองแพลงตอนและสัตว์ขนาดเล็กในทะเลเป็นอาหาร ซึ่งรวมไปถึงปลาเล็กปลาน้อยที่รวมฝูงกินอาหารอยู่บริเวณปากแม่น้ำเหล่านี้ด้วย ต่างเป็นอาหารอันโอชะของวาฬบรูด้าทั้งสิ้น
จากข้อมูลของ สมิทธิ์ สุติบุตร์ นักเขียนและช่างภาพผู้คลุกคลีกับวาฬบรูด้ามาเป็นเวลานาน ทำให้เราทราบว่า วาฬเหล่านี้ตามแหล่งอาหารสำคัญคือฝูงปลากะตักที่เข้ามากินอาหารบริเวณชายฝั่งในช่วงฤดูฝนของทุกปี สมิทธิ์ยังบอกอีกว่ากลุ่มวาฬบรูด้าเหล่านี้มีถิ่นอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวไทยอยู่แล้ว จากการสำรวจและศึกษาทำให้ทราบว่ามีวาฬบรูด้าอาศัยอยู่บริเวณอ่าวไทยไม่ต่ำกว่า 40 ตัว เราจึงตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เพราะจากจำนวนแล้วโอกาสที่จะเห็นวาฬบรูด้ากับตาตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก
ออกมาจากฝั่งได้สักระยะหนึ่ง ที่จุดที่มีแต่ทะเลอันเวิ้งว้างมองเห็นเพียงแต่เรือประมงลำจิ๋วอยู่ตรงเส้นขอบฟ้า เราได้ยินเสียงจากวิทยุของคนขับเรือว่า “ปลาวาฬอยู่ด้านหน้าเยื้องไปทางขวา ใกล้กับกลุ่มเรือลากหอยลาย” ก็ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งหมดบนลำเรือต่างพากันลุกขึ้นชะโงกหน้าออกไปยังจุดที่ได้ยินนั้น แต่ทว่ามันอยู่ไกลจนเกินกว่าอำนาจสายตาจะมองเห็นได้ แต่เมื่อเรือแล่นเข้าไปอีกสักพักพวกเราก็ได้ยินเสียงพ่นน้ำดัง “ฟู่” วาฬบรูด้าขนาดยาวกว่า 12 เมตร ขึ้นมาหายใจและอวดครีบหลังให้ทุกๆคนได้ชม ความรู้สึกครั้งแรกที่เห็นวาฬบรูด้ากับตาตัวเอง เป็นสิ่งที่บอกออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกจริงๆ มันทั้งตื่นเต้นและตกใจในคราวเดียวกัน
พวกเราชื่นชมและถ่ายภาพกับแม่วาฬตัวใหญ่อยู่สักพัก ก็จากมาด้วยคนขับเรือบอกกับพวกเราว่าพบวาฬอีกตัวอยู่ห่างออกไปไม่มากนัก เราตามเจ้าวาฬตัวนั้นไปอยู่นานสองนาน วาฬได้อวดโฉมเพียงแค่การขึ้นมาหายใจแล้วดำลงน้ำไป แต่เมื่อวาฬขึ้นสู่ผิวน้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเสียงชัตเตอร์จากกล้องถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวทุกๆคนก็ดังเกรียวกราวดังเช่นเสียงปืนกล บ่งบอกความตื่นเต้นของนักท่องเที่ยวที่ได้พบกับวาฬบรูด้าเป็นอย่างมาก หลายครั้งที่เจ้าวาฬตัวยักษ์ว่ายเข้ามาใกล้เรือ จนเราเห็นรูปร่างขนาดใหญ่ของมันตั้งแต่ยังไม่โผล่ขึ้นมาพ้นน้ำ เรือที่เรายืนอยู่ดูเล็กลงไปถนัดตาเมื่อเทียบกับขนาดอันใหญ่โตของวาฬ
เราตามวาฬบรูด้าไปจนเกือบถึงปากแม่น้ำท่าจีน ในช่วงบ่ายคล้อย ก็ได้พบกับฝูงนกจำนวนมากบินอยู่เหนือผิวน้ำ และเมื่อมองให้ดี เราจะเห็นวาฬบรูด้าแม่ลูก 2 ตัว ว่ายวนเวียนอยู่ใต้ผืนน้ำบริเวณนั้น สมิทธิ์บอกกับพวกเราว่า อาจจะได้เห็นมันขึ้นกินลูกปลาโดยใช้หัวโผล่พ้นน้ำแล้วอ้าปากกวาดลูกปลาเข้าปากของมัน แต่สิ่งที่ได้เห็นในวันนี้มีเพียงแค่เจ้าวาฬตัวใหญ่โผล่หัวขึ้นสู่ผิวน้ำแต่ไม่อ้าปากกินปลาแต่อย่างใด ซึ่งคนเรือบอกกับเราว่าฝูงลูกปลามีน้อยเกินไป ทำให้วาฬบรูด้าไม่ขึ้นกิน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็มาไม่เสียเที่ยวเพราะเมื่อเราเงยหน้าขึ้นและถูกล้อมด้วยกลุ่มวาฬบรูด้ากว่า 10 ตัว รอบๆเรือ ทั้งไกลทั้งใกล้
แต่ทั้งหมดก็มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทย ที่มีแร่ธาตุให้ปลาเล็กเข้ามากินอาหารส่งผลให้เหล่าวาฬบรูด้าเข้ามาหาเหยื่อตามกลไกของระบบนิเวศน์ธรรมชาติ เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบเห็น และถ้าหากทุกๆคนยังช่วยกันรักษาและปกป้องให้ระบบนิเวศน์นี้ยังคงอยู่ เราก็มีโอกาสได้เห็นเหล่ายักษ์ใหญ่เหล่านี้แหวกว่ายอยู่ในน่านน้ำอ่าวไทยตลอดไป
สนใจลงเรือเที่ยวชมวาฬบรูด้า ติดต่อ ครัวริมทะเลบางตะบูน โทร. 0-3258-1306, 08-5374-3558
เรือเช่า (เล็ก) โทร. 08-6796-5506 คุณจำรูญ พงศ์พิทักษ์ โทร. 0 3258 1233 คุณทิพย์เนตร สุขเจริญ โทร. 08 9796 5506 ควรไปเที่ยวในช่วงฤดูฝน ตั่งแต่เดือน สิงหาคมถึงเดือน ตุลาคม
ที่ตั้ง ต. บางตะบูน อ. บ้านแหลม จ. เพชรบุรี
โทร. 0-3258-1306, 08-5374-3558
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมน้ำตกบางแห่งมีน้ำสีฟ้าอมเขียว โดยเฉพาะน้ำตกทางภาคตะวันตก เช่น น้ำตกเอราวัณ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จ. กาญจนบุรี แตกต่างจากน้ำตกในภาคอื่นๆ
หลายคนฝันที่จะตื่นขึ้นพบกับภาพป่าเชียวชอุ่มจากหน้าต่างห้องพัก ฝันว่ามีเสียงน้ำไหลรินขับกล่อมให้เข้านอนและเป็นเสียงแรกที่ได้ยินเมื่อตื่น ทุกอย่างเป็นจริงได้ที่นี่ — “บ้านป่าเหมี้ยง” ชุมชนเล็กๆ ที่น่ารักในอำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง — เมืองรองต้องห้ามพลาด
ดอยผาตั้งอยู่บนเทือกดอยผาหม่นใน อ. เวียงแก่น เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ตกที่งดงาม แต่ต้องอาศัยแรงเดินขึ้นเนินกันพอได้เหงื่อ หรือใช้บริการม้าของชาวบ้านขี่ขึ้นไป จึงจะถึงบนยอดเนิน 102 ซึ่งมองเห็นแนวเขาที่ทอดยาวสลับซับซ้อน ชายหนุ่มหญิงสาวยืนรับลมเย็นๆ กุมมือกันดูพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า
นายรอบรู้ อยากพาเพื่อนๆ ออกเดินทางเข้าไปสัมผัสเมืองเก่า วิถีชีวิต และธรรมชาติของจังหวัดตรัง บอกเลยว่า สวยงามประทับใจไม่แพ้ทะเลและชายหาดอย่างแน่นอน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
นายรอบรู้ชวนไปนั่งตากลมชมวิว สูดกลิ่นอายธรรมชาติ ได้ยินมาว่า ที่ อ. บ้านแพ้ว มีที่เที่ยวสบายๆ ให้เราได้ไปสัมผัสวิถีชีวิต และธรรมชาติ
บ้านปาร์คนายเลิศ จะทำการเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเต็มรูปแบบ จากเดิมเปิดเพียงสองวัน มาเป็นเปิดห้าวันให้บุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์และอังคาร)
ร้านอาหารไทย มา เมซอง (Ma Maison) เปิดเมนูพิเศษต้อนรับปีใหม่นี้ ด้วยเมนูอาหารไทย “Royal Thai Cuisine” ย้อนรอยตำราพระกายาหารทรงโปรดของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือรัชกาลที่ 5
หากคุณมาย่านพระโขนงแล้วกำลังมองหาร้านอาหารดีๆ อาหารอร่อย ราคาเป็นมิตร เราอยากแนะนำ เราภูมิในนำเสนอ หรือเราอยากโฆษณาให้คุณลองเดินเข้าไปในซอยสุขุมวิท 69 หรือซอยข้างไปรษณีย์พระโขนง แล้วจะพบกับร้าน Okinawa Kinjo ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอกินาว่า ที่ขอบอกเลยว่า ร้านนี้เป็นร้านแนะนำติดดาว 500 ดวง และเป็นร้านในดวงใจของเราจริงๆ
© 2018 All rights Reserved.