
วัดอรุณฯ คุณเคยรู้สิ่งเหล่านี้หรือไม่
วัดอรุณฯ หนึ่งในวัดที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร หลายคนไปเที่ยวไหว้พระ ถ่ายภาพแชร์มุมเก๋ผ่านโซเชียยลกันยกใหญ่ แล้วคุณรู้จักวัดอรุณดีแค่ไหน?
การฮด / หดสรง เป็นสำเนียงในภาษาอีสานหมายถึงการรดน้ำ หรือพิธีเถราภิเษก พิธีกรรมยกย่องพระผู้ใหญ่ผ่านน้ำศักดิ์สิทธิ์ นิยมทำในช่วงงานบุญเดือนห้า เดือนหก เป็นพิธีกรรมเก่าแก่ที่หาได้ยากในปัจจุบัน พบในกลุ่มคนลาวทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง ถือเป็นการถวายสมณศักดิ์ให้แก่พระสงฆ์ เป็นการยกย่องพระสงฆ์ในระดับหมู่บ้าน ที่ชาวบ้านร่วมใจกันจัดขึ้น
พิธีกรรมฮดสรงถูกกำหนดโดยชาวบ้าน เพื่อยกย่องพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผ่านมติของชาวบ้าน หรือเป็นการสร้างขวัญกำลังให้กับพระสงฆ์โดยมีเจ้าภาพจัดกองฮดขึ้นมา พิธีกรรมนี้นิยมจัดขึ้นในช่วงเดือนห้า หรือช่วงสงกรานต์ บ้างพบในพิธีกรรมการทำบุญแจกข้าวที่ใช้แทนกองบวช เรียกว่า “กองฮด” เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และพบในช่วงออกพรรษา มีการทำพิธีสำหรับพระสงฆ์ที่จำพรรษาตั้งแต่ 1 พรรษาขึ้นไป มี “ฮางฮด” หรือ รางรด เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการประกอบพิธี
จากการสำรวจวัดทั้งในและนอกพื้นที่ภาคอีสานพบว่ามีร่องรอยของพิธีกรรมนี้อยู่ทั่วไป แต่ไม่เป็นที่นิยมแล้ว จากการสังเกตเห็นว่ามี “ฮางสรงน้ำ” ถูกแขวนโชว์ไว้ในสภาพที่ไม่ได้ใช้งานอยู่หลายแห่ง และยังพบว่ามีฮางสรงน้ำในลักษณะเดียวกันนี้ในชุมชนชาวพวนที่อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี แต่จากคำบอกเล่าของชาวบ้านก็ยืนยันว่าไม่มีพิธีกรรมดังกล่าวนี้แล้ว
นอกจากนี้ยังพบว่าพิธีกรรมฮดสรง หรือเถราภิเษกในวัฒนธรรมลาวอีสานนี้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพบนฮูปแต้ม (จิตรกรรม) บนสิม หรือ โบสถ์วัดป่าเลไลย์ ในอำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ที่ละเอียดงดงามมากในแบบงานช่างพื้นถิ่น ผู้เขียนเองได้มีโอกาสไปร่วมงานฮดสรงในครั้งแรกจากคำเชิญของเพื่อนในช่วงวันออกพรรษาที่อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย จึงขอนำภาพบรรยากาศมาให้ชมประกอบ
“ฮางหด” หรือ รางรด อุปกรณ์สำคัญในการประกอบพิธีกรรมนี้ จากลักษณะที่พบเป็นท่อนไม้รูปพญานาค หรือคล้ายเรือสุพรรณหงส์ แต่มีหัวเป็นรูปนาค ตรงกลางถูกทำให้เป็นร่องเพื่อที่จะให้น้ำไหลผ่าน และส่วนหางมีการเจาะเป็นรูสำหรับการเทน้ำอบ น้ำหอมลงไป ตกแต่งให้สวยงามโดยการแต่งเติมแต้มสีสัน ส่วนขนาดใหญ่น้อยนั้นขึ้นอยู่กับชุมชนว่าจะทำขึ้นมาอย่างไร น้ำที่ใช้สรงพระบางชุมชนที่เคร่งครัดต้องมีการตระเตรียมน้ำจากบ่อหรือแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเชื่อถือ หรือไม่มีก็ใช้น้ำฝนและผ่านพิธีกรรมและมีคนหาบน้ำใส่หม้อดินแห่พร้อมๆ กับขบวนแห่พระด้วย
“สำเร็จเพียงตา ซาเพียงหู คูเพียงง่อน” (ชั้นสำเร็จยาวเท่าตา ชั้นซายาวเท่าหู ชั้นครูยาวเท่าท้ายทอย)
นอกจากฮางหดที่เป็นเครื่องประกอบพิธีที่สำคัญแล้ว ยังมีเครื่องประกอบพิธีกรรมอื่นๆ ที่สำคัญอีกคือ เครื่องยศ หรือหลาบเงิน หลาบทอง มีลักษณะแผ่นเงินแผ่นทองสำหรับจารหรือบันทึกชื่อของพระภิกษุที่ประกอบพิธีลงไป ขนาดของหลาบขึ้นอยู่กับลำดับชั้นในการฮดสรงดังนี้
หลาบชั้นสำเร็จ หรือ การเข้าพิธีครั้งแรก ได้หลาบขนาดกว้าง 1 นิ้ว หรือวัดความยาวจากคางขึ้นไปถึงลูกตาหรือ
หลาบขั้นชาหรือซา ขนาดกว้าง 1 นิ้ว วัดความยาวจากใบหูซ้ายไปจนถึงใบหูขวา ตำแหน่งซา ต้องผ่านพิธีกรรม หรือต้องฮดถึง 3 ครั้ง เรียกว่า ซา 1 หลาบ ซา 2 หลาบและ 3 หลาบ
หลาบเงินชั้นคู ขนาดกว้าง 1 นิ้ว หรือยาวจากท้ายทอยฝั่งด้านซ้ายไปจนถึงด้านขวา หรือวัดได้รอบศีรษะ ตำแหน่งคูนี้ ต้องผ่านพิธีกรรม หรือฮดถึง 3 ครั้ง เช่นกัน เรียกว่า คู 1 หลาบ คู 2 หลาบ คู 3 หลาบ
นอกจากนี้เครื่องประกอบพิธีกรรมยังต้องมีอัฐบริขาร เครื่องใช้ของพระภิกษุ 8 อย่าง (ผ้าจีวร ผ้าสังฆาฏิ ผ้าสบง รัดประคด มีดโกน กล่องเข็ม ธมกรกหรือเครื่องกรองน้ำ และมีดตัดเล็บ) ผ้าห่ม รองเท้า ไม้เท้าเหล็ก หมวก (หว่อม) ที่ทำด้วยผ้าสีแดงปักด้วยไหมทองสำหรับสวมทำเป็นเกศ เม็ง (เตียง) ตาลปัตร
พิธีกรรมเปลี่ยนผ่านนี้ในทางทฤษฎีทางมานุษยวิทยาเป็นสภาวะทางสังคมอย่างหนึ่งที่จะปฏิบัติเมื่อเปลี่ยนแปลงจากสภาวะหนึ่งเข้าสู่อีกสภาวะหนึ่ง โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นตอนคือ 1) ช่วงการแบ่งแยกหรือการผละออก (separation) 2) ช่วงที่เป็นสภาวะก้ำกึ่ง (liminal) และ 3) การกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยผ่านพิธีกรรมอันสมบูรณ์แล้ว (aggregation) (Turner,Victor.ค.ศ.1969 หน้า 94-130) ในช่วงเวลาของการประกอบพิธีกรรมนี้เป็นช่วงเวลาที่อยู่ในสภาวการณ์พิเศษ ซึ่งในเวลาปกติไม่สามารถกระทำการเช่นนี้หรือปฏิบัติกับพระสงฆ์อย่างในพิธีฮดสรงได้
ในช่วงการประกอบพิธีกรรมฮดสรง ชาวบ้านได้มีการแห่พระสงฆ์ที่จะเข้าประกอบพิธีกรรมรอบๆ โบสถ์หรือศาลาการเปรียญสามรอบ ในขณะที่แห่นั้นมีมหรสพรื่นเริงพร้อมด้วยชาวบ้าน คณะสงฆ์ผู้ใหญ่ผู้น้อยมาร่วมขบวนฟ้อนรำ ส่งเสียงดัง ชาวบ้านใช้เสลี่ยงแบกหาม หยอกล้อ โยนพระสงฆ์ที่กำลังจะเข้าพิธีขึ้นลงอย่างสนุกสนาน
จากนั้นเมื่อเข้าพิธีการสำคัญคือการ “ฮดสรง” โดยใช้น้ำอบน้ำหอมรดผ่านฮางฮด หรือ รางรดที่ได้ตระเตรียมไว้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ราดกับตัวพระเองก็เห็นว่าทำได้ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ในเวลาปกตินั้นไม่สามารถกระทำได้
การฮดนั้นมีลำดับขั้นของการถวายยศ หรือ สมณศักดิ์ คือ ชั้นฮดครั้งแรกคือ “สำเร็จ”เมื่อสึกออกมาเรียก “จาน” (อาจารย์) ฮดครั้งที่ 2 เรียก “ซา” สึกออกมาเรียก “อาจารย์ซา” ฮดครั้งที่ 3 เรียก “ญาครู” สึกออกมาเรียก “อาจารย์ครู” ฮดครั้งที่ 4 เรียก “ญาท่าน” สึกออกมาเรียก “พระหลักคำ” ฮดครั้งที่ 5 เรียก “พระลูกแก้ว” ฮดครั้งที่ 6 เรียก “พระยอดแก้ว” (กันหา สีกุนวง.2559)
ปัจจุบันพิธีกรรมฮดสรงเหลือให้คนรุ่นใหม่เห็นไม่มากนัก พบมากก็แต่ร่องรอยของการมีพิธีดังกล่าวจากฮางฮด หรือ รางรดน้ำที่แขวนอยู่บนศาลาวัด แต่ก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว บางชุมชนที่มีความเคร่งครัดในพิธีกรรมแบบดั้งเดิมก็ยังปฏิบัติสืบทอดกันอยู่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับพระภิกษุ เชื่อมร้อยความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับวัดในฐานะศูนย์กลางของชุมชนอย่างที่เคยเป็นมา
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
วัดอรุณฯ หนึ่งในวัดที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร หลายคนไปเที่ยวไหว้พระ ถ่ายภาพแชร์มุมเก๋ผ่านโซเชียยลกันยกใหญ่ แล้วคุณรู้จักวัดอรุณดีแค่ไหน?
ไปสัมผัสวิถีชีวิตและเรื่องราวของพรานล่ากุ้งก้ามกรามแห่งเขื่อนลำปาว ที่ อ.สหัสขันธ์ จ. กาฬสินธุ์ ชมวิธีการงมกุ้งก้ามกรามตัวโต จนไปถึงกินกุ้งจนพุงกาง
จำได้ลางๆ ว่าเคยมาเที่ยว จ. ลพบุรี สมัยครั้งยังเป็นเด็กน้อย กาลเวลาผ่านไปจนเกือบลืมเรื่องราวความสนุกของจังหวัดที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย อาจเป็นโชคดีที่นำพาเรากลับมาลพบุรีอีกครั้ง มารำลึกความหลังเมืองลิง ถิ่นพระนารายณ์
วันนี้เด็กฝึกงานจากโคราชขออาสา พาเที่ยวเมืองลิง สัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์ ไหว้พระ ชมวิว กันสักหน่อยแล้วกัน
วันนี้ขอพาทุกคนมาตามล่าหาจุดเซลฟี่แห่งใหม่กับโครงการ “Pipit BangLamphu Street Art”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
นี้ จังหวัดสุรินทร์ได้กำหนดให้มีการจัดงานแสดงช้างฯ ในวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2561 ที่ยังคงรักษาความโดดเด่นทางด้านขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และความเป็นอัตลักษณ์ชาวเขมร กูย และลาวไว้
น้ำผักสะทอน เป็นหนึ่งภูมิปัญญาน้ำปรุงรสที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดเลย ที่ อ. ด่านซ้าย และ อ. นาแห้ว โดยเฉพาะในช่วงเมษาหน้าร้อนเช่นนี้ หากเพื่อนๆ เดินทางไป จ.เลย ก็อาจจะได้พบพี่น้องชาวบ้านตั้งเตาต้มน้ำผักสะทอนกันแทบทุกบ้าน
“หนมดู๋” คืออะไร หนมดู๋มาจากไหน? ตอนนี้กำลังสงสัยกันอยู่ใช่ไหมคะ คำว่า ขนมดู๋ คือ ชื่อขนมสำเนียงคนใต้ แต่สำหรับคนภาคกลางที่ไม่คุ้นชินกับคำนี้ จะเรียกกันว่า “ขนมดู” ขนมดูเป็นขนมพื้นบ้านของจังหวัดสงขลา
รอบๆ ตัวเมืองบางขลัง มีซากโบราณที่เป็นวัดร้าง เจดีย์ร้างตั้งเป็นระยะเรียงรายอยู่รอบพื้นที่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ได้ถูกขุดค้น ทำลายจนเกือบสูญสิ้นสภาพไป เกือบทั้งหมดแล้วเช่นเดียวกัน
© 2018 All rights Reserved.