บ้านดงเย็น ร่มเย็นสมชื่อ

ถ้ามาเที่ยวที่บ้านเชียง และอยากซื้อของฝากกลับไป คุณจะนึกถึงอะไรเป็นอย่างแรก? เชื่อว่าหลายคนทราบกันดีว่าสินค้า OTOP ที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี่ก็คือ ไหหม้อดิน แต่ก็ไม่ได้มีแค่ไหเท่านั้นที่เป็นของดีของเด่นประจำเมือง นายรอบรู้เลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับ ชุมชนบ้านดงเย็น 

1

ชุมชนบ้านดงเย็นเกิดจากการที่ เดิมชาวบ้านอพยพมาจากเมืองเชียงขวาง ประเทศลาว เมื่อปี 2327 เนื่องจากเกิดสงครามแย่งชิงอำนาจของเจ้าเมือง จึงได้อพยพมาเพื่อแสวงหาแหล่งทำมาหากินที่สงบ อุดมสมบูรณ์ จนมาเจอเนินสูงเป็นป่าดงแพง มีลำห้วยล้อมรอบ หลังจากนั้นก็ได้มีผู้อพยพเข้ามาอาศัยเป็นจำนวนมากขึ้นจนเกิดเป็นชุมชน

ชื่อ บ้างดงเย็น นั่นก็เพราะว่า ทางที่จะเข้าไปในชุมชนจะผ่านดงป่าดงหนึ่ง ระหว่างที่เข้าไปในดงอากาศจะเย็น และร่มรื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นอีกหนึ่งความน่าหลงใหลของสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมา จึงเรียกว่า บ้านดงเย็น นั่นเอง

4

กลุ่มจักรสานพื้นบ้าน

เมื่อก่อนมีการทำงานจักสานกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ถ่ายทอดให้แก่ลูกหลาน จนเป็นที่รู้จักว่าหมู่บ้านแห่งนี้ทำเครื่องจักสานกันมาก ที่นี่มีวัฒนธรรมการบริโภคข้าวเหนียวเป็นปกติ เลยเป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องจักสานประเภทกระติบข้าว เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย จึงผลิตแต่กระติบข้าวที่ทำจากไม้ไผ่เป็นหลัก 

ตอนนี้ได้ต่อยอดโดยการผลิตอย่างอื่นขึ้นมา เช่น กล่องใส่ทิชชู่ ตะกร้า โคมไฟไม้ไผ่ กล่องกับตะกร้าอเนกประสงค์ กระเป๋า เพื่อให้มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น สานขึ้นด้วยมือ ทำขึ้นด้วยใจ ของคนในชุมชน

5

กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง

เกิดมาจากการที่ชาวบ้านทอผ้า ย้อมคราม เพื่อสวมใส่กันเอง แล้วได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของชาวบ้านเชียง กลายมาเป็นสินค้า OTOP ของหมู่บ้าน และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยลายผ้าแต่ก่อนดูจากหนังสือ แต่ในภายหลังได้ลองนำลายเขียนสีจากหม้อดินเผาบ้านเชียงมาประยุกต์

ผ้าย้อมครามมาจากการปลูกครามเองตามธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี ใช้ต้นครามที่มีอายุ 3 เดือน เพื่อให้ได้สีครามที่สวยพอดี ไม่เข้มหรืออ่อนจนเกินไป  สินค้าที่น่าสนใจ ได้แก่ ผ้าพันคอ, ผ้าตัดเสื้อ, ผ้าซิ่น, ผ้าขาวม้า, ผ้าคลุมไหล่, ผ้าสีพื้น, กระเป๋า และยังรับทำผ้าตามสั่งทั่วไป

9

กลุ่มปั้นหม้อเขียนลาย

งานหัตถกรรมที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของชุมชนบ้านเชียง ทำขึ้นจากดินที่มาจากห้วยดินดำ ดินที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเชียงนำมาใช้ปั้น เขียนลายสีแดงอิฐ ลวดลาย และรูปทรงเลียนแบบเครื่องปั้นดินเผาโบราณบ้านเชียง  และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในปี 2552 อีกด้วย

ลวดลายแรกที่เริ่มทำคือ ลายก้นหอย ก้างขด ก้างปลา ในปัจจุบันมีลวดลายอิสระ ตามความคิดของเรา เพื่อให้มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทุกคนได้ลองสัมผัสวิธีการ ปั้นไห หรือ เขียนลาย ได้ด้วยตนเองอีกด้วย คงจะดีไม่น้อยถ้าได้ของที่ระลึกจากมือของเราเองใช่มั้ยหละ

12
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest

Info

ชุมชนบ้านดงเย็น

ที่ตั้ง ต. บ้านดงเย็น อ. หนองหาน จ. อุดรธานี

เปิด ทุกวัน 8.00 – 18.00 น.

โทร. 085-675-6288

Previous
Next

Guide ใกล้ : Application คู่ใจคนชอบท่องเที่ยวตัวจริง

Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว

Writer/ Photographer

ณัชชา โหมดวัฒนมงคล

ณัชชา โหมดวัฒนมงคล

Relate Place

tips travelers

คลองดำเนินมีมาตั้งแต่ครั้งใด

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ดำเนินการขุดคลองดำเนินสะดวกในปี พ.ศ. 2409 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2411 มีความยาวกว่า 32 กม. ผ่านพื้นที่สามจังหวัด คือ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และราชบุรี

Travel

เสาะหา “น้ำค้างกลางเที่ยง” ที่ภูสอยดาว

ฤดูฝนผืนป่าชุ่มฉ่ำเขียวขจี นักเดินทางหลายคนนึกถึงการเที่ยวป่า…เดือนที่ผ่านมา โชคชะตาพาให้เราได้ไปนอนค้างแรมบนดอยสูงท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ร่ำลือกันว่าบนยอดภูในช่วงสายฝนโปรยปรายมีดอกไม้นานาพันธุ์แข่งกันเบ่งบานอวดโฉม โดยเฉพาะดอกหงอนนาค ที่บางคนเรียกว่า “น้ำค้างกลางเที่ยง”

Travel

 เที่ยวโหดมันฮา ที่บ้านคีรีวงกต

“ถ้าไม่ผ่านเขาวงกต คุณมาผิดแล้วละครับ” เสียงหัวเราะพร้อมคำตอบจากปลายสายคลายความหวั่นใจของเราไปได้เปลาะหนึ่ง เพราะเส้นทางที่ผ่านมาช่างคดเคี้ยว โอบล้อมด้วยผืนป่าและภูเขา ชวนให้คิดว่าหลงอยู่ในเขาวงกตสมชื่อหมู่บ้านคีรีวงกต เสียจริงๆ !

Travel

ป้าจิ๊บฟาร์ม ลุย-เล่น-เลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์

“ป้าจิ๊บฟาร์ม” เปรียบเสมือนโลกกว้างให้เด็กๆ ได้มาเรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียงแบบเกษตรอินทรีย์ ได้ลงมือปฏิบัติจริง ไม่ใช่การเรียนรู้ที่อยู่แต่ในห้องเรียน