แม่สะเรียง...เมื่อปลายฝนต้นหนาวมาเยือน

แม่สะเรียงอำเภอไม่ใหญ่มากของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยวมมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบเล็กๆ เต็มไปด้วยทุ่งนาและต้นข้าวเขียวขจี จุดเด่นของแม่สะเรียงมีอยู่ 3 อย่างคือ ทุ่งนา แม่น้ำยวม และวัฒนธรรมไทใหญ่  ว่ากันว่าเมืองแม่สะเรียงจะสวยที่สุดในปลายหน้าฝนต้นหนาว ความเขียวขจีของทุ่งนาที่มีลมเย็นๆพัดผ่าน คือสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกก็พร้อม แม่สะเรียงมีโรงแรมขนาดเล็กและเกสต์เฮาส์บรรยากาศดีน่าพักหลายแห่ง ส่วนใหญ่กตั้งอยู่บนถนนที่ขนาบไปกับแม่น้ำยวม บรรยากาศดีเหมาะกับการพักผ่อนและชื่นชมกับความเป็นแม่สะเรียง

หาเวลาไปไต่ 4 พระธาตุประจำเมือง ชมทิวทัศน์ 

ในรอบเมืองแม่สะเรียงมีเจดีย์ประจำทิศอยู่ 4 ทิศ อันได้แก่คือพระธาตุจอมมอญประจำทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  พระธาตุจอมแจ้ง ประจำทางทิศตะวันออก พระธาตุจอมกิตติประจำทางทิศตะวันตกเฉียงให้ และพระธาตุจอมทอง ประจำทางทิศตะวันออกเฉียงใต้  สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมืองราวพุทธศวรรษที่ 19 ตามความเชื่อของชาวเหนือที่นิยมสร้างเจดีย์ไว้ตามยอดดอยรอบๆเมือง ทั้งนี้ยังเป็นจุดหมายตาสำหรับผู้เดินทางให้รู้ว่าเข้าเขตเมืองใหญ่แล้ว 

นอกจากจะขึ้นไปสักการะพระธาตุแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่สวยงามของตัวเมืองแม่สะเรียงด้วย โดยเฉพาะที่พระธาตุจอมมอญที่มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองได้ 180 องศา บ้านเรือนอันหนาแน่นอยู่ริมแม่น้ำยวม ท่ามกลางทุ่งนาที่กำลังปักดำ ฉากหลังเป็นเขาสูง จะเสียเวลาสักหน่อยที่นี้คงไม่แปลก  อีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดชมทิวทัศน์ดับบพรีเมี่ยมคือพระธาตุจอมทองที่มองเห็นทุ่งนาและทิวทัศน์ของเมืองได้เช่นกัน 

ชมศิลปะของชาวไทใหญ่ผ่านวัดในเมือง

อย่างที่รู้กันว่า “ไทใหญ่” เป็นชนกลุ่มหลักของแม่สะเรียง รองลงเป็นกะเหรี่ยง ที่นี้จึงเต็มไปด้วยวัดแบบไทใหญ่ โดยเฉพาะวัดจองสูง ตั้งอยู่ ถนนแม่สะเรียงโดดเด่นด้วยเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญสามองค์ เมื่อหันหน้าเข้าหาเจดีย์ทั้งสามองค์ 

พระเจดีย์องค์ซ้ายมือคือเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยต้นรัชกาลที่ 6 ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุด พระเจดีย์องค์กลาง ไม่ปรากฎว่าสร้างขึ้นในสมัยใด เดิมทีเป็นพระเจดีย์เก่าเหลืออยู่เพียงครึ่งองค์  พบผอบทองรูปบรรจุพระบรมสาริกธาตุอยู่ภายใน ต่อมาได้ทำการบูรณะจนแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2499  ส่วนพระเจดีย์องค์ขวามือ เดิมเป็นวิหารแบบไทใหญ่  หลังคาซ้อนชั้นลดหลั่นอย่างสวยงาม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งเก้าองค์ประดิษฐานอยู่กลางแจ้งจึงมีการก่อสร้างเจดีย์ขึ้นเพื่อครอบพระพุทธรูปดังกล่าว 

ถัดมาเป็นวัดศรีบุญเรือง ตั้งถนนเวียงใหม่ อยู่ไม่ไกลจากวัดจองสูง มาที่นี้ต้องไปชม”จอง” ที่สร้างตามแบบศิลปะไทใหญ่ หลังคาซ้อนชั้น ประดับไม่ฉลุลวดลายลายละเอียดมาก 

จองสามหลังนี้เป็นทั้งโบสถ์ กุฎิและศาลาการเปรียญ ภายในกุฎิสงฆ์มีภาพเขียนเป็นเรื่องพระเวสสันดรชาดก ฝีมือช่างชาวพม่า

จากนั้นไปนมัสการพระคู่เมืองของแม่สะเรียงที่”วัดแสนทอง” ถนนแสงทอง ถือเป็นวัดแรกของแม่สะเรียงสร้างเมื่อ พ.ศ. 2336 บนกุฎิเจ้าอาวาสเป็นที่ประดิษฐานพระเพชรหรือพระสิงห์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนหล่อด้วยสำริด ขนาดหน้าตักกว่า 12 นิ้ว จำลองจากพระสิงห์ที่เชียงใหม่ 

ชาวเมืองแม่สะเรียงนับถือศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ เชื่อว่าพระเพชรบันดาลให้เกิดฝนสำหรับการทำการเกษตร  อีกพระพุทธรูปหนึ่งเป็น”พระแสนทอง” ปางมารวิชัยและศิลปะเชียงแสนเช่นกัน  เล่ากันว่าอัญเชิญมาจากอีกวัดหนึ่งโดยทางช้าง ทว่าช้างไม่ได้หยุดที่วัดไหนเลยจนท้ายที่สุดมาหยุดที่วัดแสนทองแห่งนี้  การขอเข้าชมอาจต้องแจ้งให้กับเจ้าอาวาสได้ทราบ เพราะมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย 

ชมน้ำตกกลางป่า สัมผัสหมอกและผืนป่า

(สอบถามเพิ่มเติม อบต แม่เหาะ  โทร. 0-5361-3524, 0-5369-2876)

ไม่ไกลจากตัวอำเภอแม่สะเรียงไปทางทุ่งบัวตองดอยแม่เหาะ มีน้ำตกขนาดกลางแห่งหนึ่งคือน้ำตกแม่สวรรค์น้อย ทางน้ำตกค่อยข้างลำบากหน่อย จากทางรถต้องเดินลงอีกไป500 เมตรจึงจะเจอกับน้ำตกซึ่งมีทั้งหมด 7ชั้น ชั้นที่สวยที่สุดคือชั้นที่ 4 สายน้ำตกไหลตกจากหน้าผาสูง 20 เมตร

ด้วยตัวน้ำตกตั้งอยู่กลางป่าดิบชื้นระหว่างทางไปยังน้ำตกแต่ละชั้นจะเห็นเฟิน มอสส์และเห็ด ขึ้นกระจายอยู่ตามโขดหินและขอนไม้  จากนั้นไปขึ้นดอยหว่ากลึโจ๊ะ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก อบต แม่เหาะ เป็นยอดเขาหนึ่งในเทือกเขาแดนลาว สูงจากระดับน้ำทะเล 1,340 ม.

ถือเป็นจุดชมทะเลมอกและพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามจุดหนึ่งของแม่สะเรียง ท่ามกลางป่าดิบแล้งและป่าดิบเขาที่เขียวชอุ่ม

เดินเที่ยวตลาดแม่สะเรียง 

ที่นี้จะคึกคักช่วงเช้า ด้านหน้าตลาดเปิดตลอดวัน ขายของใช้และเสื้อผ้า ส่วนด้านในเป็นแผงเตี้ยๆขายของสด ความสนุกอยู่ตรงที่ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านผ่านพวกผักพื้นบ้านดอกกระเจียว เห็ดไข่หาน ใบเมี่ยง หน่อขา

นอกจากนี้ยังมีปลาจากแม่น้ำสาละวินเช่นปลากดหัวเสียม ปลาแข้ ปลาคม ปลาคัง หากเดินเที่ยวชมแล้วหิววก็มีอาหารเช้าให้รองท้องมากมายอย่างกาแฟ โรตี วัฟเฟิล

รวมทั้งขนมและอาหารของไทใหญ่อย่างข้าวส้ม ข้าวเหลือ ขนมอาละหว่า เปงเม้ง ส่วนทะมิน เป็นต้น 

 ที่พัก

1. ริเวอร์เฮาท์โอเทล  ถนนแหล่งพาณิชย์ โทร. 0-5362-1201 http://www.riverhousehotels.com ราคาประมาณ 1,200-1,400 บาท 

2.  แทมมารีน แกรนด์ รีสอร์ท ถ. แม่สะเรียง  โทร. 08-7182-2711 08-6918-5307  เริ่มต้น800 บาท 

3. บ้านไร่ปลายดอย  บ้านดงสงัด  โทร.081-9930726  http://www.baanraipaidoi.com ราคา 350-850 บาท 

การเดินทาง 

สามารถเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางของ สมบัติทัวร์  โทร. 0-2553-1753, www.sombattour.com

Relate Place

News

ททท. เปิดตัวโครงการ STAR ยกระดับผู้ประกอบการ “มาร่วมสร้างท่องเที่ยวไทยให้ยั่งยืน”
เตรียมพร้อมรับตลาดนักท่องเที่ยวมูลค่าสูง ผ่าน 17 เป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating ณ ห้องโถงธนะรัชต์ อาคาร ททท. เพื่อเดินหน้า Shape Supply ยกระดับห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “มาร่วมสร้างท่องเที่ยวไทยให้ยั่งยืน”สอดรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน Sustainable Tourism Goals : STGs พร้อมผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสมดุลทุกมิติก้าวสู่การเป็น High Value and Sustainable Tourism โดยเตรียมเปิดรับสมัครผู้ประกอบการตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์ www.TATstar.org

News

ททท. เปิดตัว “โครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน”

ททท. เปิดตัวกิจกรรมสุดว้าว ภายใต้ “โครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตรงใจนักท่องเที่ยว

เริ่มแล้ว! ททท. จัดเต็มแสง เสียง กับงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร” ดึงเทคโนโลยีล้ำสมัย สะท้อนศิลปะและความเชื่อคนไทย ใน 3 พื้นที่แลนด์มาร์ก กรุงเทพมหานคร
News

ททท. จัดงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร”

เริ่มแล้ว! ททท. จัดเต็มแสง เสียง กับงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร” ดึงเทคโนโลยีล้ำสมัย
สะท้อนศิลปะและความเชื่อคนไทย ใน 3 พื้นที่แลนด์มาร์ก กรุงเทพมหานคร

News

เปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำ กรุงเทพมหานครถึงพระนครศรีอยุธยา

ททท. ร่วมกับหอการค้าไทย เดินหน้าเปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำ กรุงเทพมหานครถึงพระนครศรีอยุธยา หวังกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ สู่การท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน