
“LESS PLASTIC ABLE” ช่วยกันลด ช่วยกัน LESS
คนสายรักษ์โลกจะถูกใจกับร้านนี้ “Less Plastic Able” ร้านรีฟีลล์เล็กๆ ย่านฝั่งธน-วงเวียนใหญ่ ที่สามารถนำภาชนะอย่างขวดพลาสติกใช้แล้วมาบรรจุผลิตภัณฑ์ที่เลือกซื้อจากร้านได้อ
มาเยือนจังหวัดน่านครั้งใด เป็นต้องมาไหว้พระขอพร พร้อมชมความงดงามของวัดวาอารามและพระประธานในโบสถ์ที่สวยงามมีเอกลักษณ์แบบฉบับล้านนาทุกครั้งไป แต่การมาท่องเที่ยวคราวนี้พิเศษกว่าครั้งไหนๆ ก็ตรงที่เราจะได้สนุกไปกับการเรียนรู้ ดูขอจริง และลงมือทำ กับกิจกรรมการแกะสลักพระไม้ที่วัดมหาโพธิ์ ต. ในเวียง อ. เมือง จ. น่าน
วัดมหาโพธิ์เป็นวัดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในชุมชนมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ที่อพยพมาจากเมืองหงสา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประมาณปี พ.ศ. 2200 นำโดยแสนหลวง พรมจักรและแม่นางคำแปง ครูบาวิชัยผู้เป็นพี่ชายของแสนหลวง พรมจักร และชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างวัดศรีมหาโพธิ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2217 ต่อมาชุมชนได้ขยายใหญ่ขึ้นและตั้งชื่อหมู่บ้านตามต้นโพซึ่งถือเป็นไม้สำคัญของชุมชน เมื่อพระยาสุมนเทวราช เจ้าเมืองน่านได้ย้ายเมืองใหม่มายังพื้นที่เขตเมืองปัจจุบัน เนื่องจากมีน้ำท่วมและต่อมาเกิดไฟไหม้วิหารในคุ้มวัดเหลือเพียงพระพุทธรูปไม้แกะสลักทรงเครื่องลงรักปิดทอง ปางเปิดโลก สูง 2.83 เมตร จึงได้นำไปฝากไว้ที่วัดเชียงแข็ง ต่อมาได้ย้ายกลับมาประดิษฐานเป็นพระประธานของอุโบสถวัดมหาโพธิ์จนปัจจุบัน
ดยพระพุทธรูปไม้แกะสลักทรงเครื่องปางเปิดโลก มีพุทธลักษณะที่งดงามสมบูรณ์ จึงเป็นแรงบันดาลใจของการสืบทอดการแกะสลักพระไม้ที่วัดมหาโพธิ์ซึ่งปัจจุบันทางวัดจัดกิจกรรมการแกะสลักพระไม้ไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ให้ได้เรียนรู้ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ได้เรียนรู้สัดส่วนแบบโบราณของการสร้างพระพุทธรูป เรียนรู้เครื่องมือต่างชนิดที่ใช้ เรียนรู้การเลือกไม้ โดยส่วนใหญ่จะใช้ไม้มงคล โดยมีความเชื่อเกี่ยวกับไม่ชนิดนั้น ควบคู่ไปกับการสร้างอานิสงส์การสร้างพระ อย่างไม้ขนุนคือการหนุนให้สูงขึ้น ไม้สักคือไม้เนื้อแข็งมีค่า ไม้จันทน์ คือไม้ที่มีกลิ่นหอม ซึ่งถือว่ามีชื่อเป็นมงคล และลงมือทำโดยมีพระภิกษุที่มีความเชี่ยวชาญคอยแนะนำอยู่ตลอด
ทั้งสนุกและได้เรียนรู้ พร้อมได้ลงมือทำจนสำเร็จ จนได้พระไม้แกะสลักฝีมือของตัวเอง นอกจากจะมีความภูมิใจ ยังได้เพิ่มพูนศักยะภาพใหม่ๆ ของตัวเอง และยังถือเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาตามคติของชาวล้านนาอีกด้วย เพราะชาวล้านนาเชื่อว่าอานิสงส์การสร้างพระไม้คือการถวายเป็นพุทธบูชาจะได้เสวยอานิสงส์ 20 กัป ถ้าสร้างด้วยไม้จันทน์และไม้มหาโพธิ์ จะได้เสวยพลานิสงส์ 70 กัป และอาจจะได้เสวยพลานิสงส์อันหาที่สุดมิได้
วัดมหาโพธิ์ ต. ในเวียง อ. เมือง จ. น่าน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
คนสายรักษ์โลกจะถูกใจกับร้านนี้ “Less Plastic Able” ร้านรีฟีลล์เล็กๆ ย่านฝั่งธน-วงเวียนใหญ่ ที่สามารถนำภาชนะอย่างขวดพลาสติกใช้แล้วมาบรรจุผลิตภัณฑ์ที่เลือกซื้อจากร้านได้อ
ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนาและถนนคนเดินท่าแพ มีร้านกาแฟมีสไตล์แบบโคโลเนียนและล้านนาซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางไม้ใหญ่ บริเวณร้านตกแต่งด้วยกล้วยไม้และงานประติมากรรมตัวการ์ตูนน่ารักด้วย บรรยากาศชวนให้นั่งขนาดนี้ จะพลาดได้ไง ว่าแล้วก็รีบสั่งเบเกอรี่และกาแฟมาชิม
‘วันสบาย ๆ ที่รู้สึกอยากกินไอศกรีม’ คือคอนเซปต์แรกของร้าน SIMPLE DAY ร้านไอศกรีมเจลาโต้โฮมเมดที่ “นายรอบรู้” การันตีความอร่อย ตั้งในโครงการ The Bloc ราชพฤกษ์ คอมมูนิตี้เล็ก ๆ ที่รวมขนม กาแฟ และของดีไซต์ไว้ในตู้คอนเทรนเนอร์
ถ.ทรงวาด หรือย่านเยาวราช หนึ่งในย่านเก่าของกรุงเทพมหานคร มีคาเฟ่ชิคๆ เก๋ๆ ซ่อนอยู่มากมาย CHATA Specialty COFFEE ก็เป็นหนึ่งในคาเฟ่สุดชิคในย่านนี้ คาเฟ่เรือนกระจกขนาดเล็กซ่อนตัวอยู่ด้านหลังโรงแรม Baan2459 โรงแรมที่ปรับปรุงตึกเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6
© 2018 All rights Reserved.