แม้ระยะทางไม่ไกล แต่ด้วยความชันของเส้นทางเดิน จึงเป็นอีกหนึ่งเขา “ปราบเซียน” ถ้าทำใจเดินแบบสบายๆ ชมวิวสองข้างทาง ทั้งในมุมสูง และความอุดมสมบูรณ์ของป่าเบญจพรรณก็จะเพลิดเพลิน แต่ตลอดเส้นทางไม่มีร้านค้าบริการ มีเพียงจุดบริการน้ำดื่มสำหรับนักท่องเที่ยวได้แก้กระหาย และพักเหนื่อย จากจุดประตูเข้าทางเดินขึ้นภู ถึงค่ายพักแรม มี 10 จุดพัก เช่น จุดชมวิว น้ำดิบผามะหาด ไทรงาม ถ้ำนารายณ์ ถ้ำพระ ปล่องนางนาค พระยาแล่นเรือ โดยด้านบนของเขาหลวงจะมีลานให้กางเต็นท์ นักท่องเที่ยวนิยมนำเต็นท์ขึ้นไปเอง ค่ากางเต็นท์ 30 บาทต่อคน บ้างก็ใช้บริการเช่าเต็นท์ของกรมอุทยานฯ และยังมีลูกหาบคอยบริการแบบสัมภาระ สนนราคากิโลกกรัมละ 25 บาท สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ทำการอุทยานฯ ด้านล่างก่อนเดินขึ้นได้เลย หรือจะโทรนัดหมายล่วงหน้าก็ได้ ส่วนค่าขึ้นอุทยานราคาเบาๆ ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ด้านบนของเขาหลวงอากาศจะเย็นสบายถึงเย็นมากตลอดปี มี 4 จุดไฮไลน์ห้ามพลาดให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพความประทับใจ เช่น ยอดพระเขาเจดีย์ ยอดเขาพระแม่ย่า (ชมพระอาทิตย์ตก) ยอดเขาภูกา และยอดเขานารายณ์ (ชมพระอาทิตย์ขึ้น)
แม้เขาหลวงจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ที่อยู่คู่กับจังหวัดสุโขทัยมายาวนาน แต่เมื่อองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ประกาศพื้นที่พิเศษในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เขาหลวงแห่งนี้ด้วย จึงมีกิจกรรมดีๆ ให้นักท่องเที่ยวนอกจากสุขใจเรื่องการเที่ยว ยังสุขใจกับการเป็นจิตอาสาพิทักษ์สิ่งแวดล้อม