การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ โกโปร (GoPro) ที่สุดแห่งกล้องแอ็กชันที่มาพร้อมกับความสามารถที่หลากหลายประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์ทะเลและการรักษาดูแลการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมพลนักดำน้ำในพื้นที่เกาะเต่า พื้นที่ใกล้เคียง และผู้สนับสนุน GoPro จากทั่วเอเชียแปซิฟิก ร่วมกันอนุรักษ์ทะเลไทยในงาน GoPro World Ocean Day 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน 2567 ที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการผลักดันการท่องเที่ยวสู่ความอย่างยั่งยืนและการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและผลักดันการท่องเที่ยวไปสู่ความยั่งยืน โดยการส่งเสริมและดูแลระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งเป็น 1 ใน 17 เป้าหมายที่สำคัญของเป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Tourism Goals (STGs) ซึ่ง ททท. พัฒนาขึ้นสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ เพื่อยกระดับและสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย โดย ททท. เชื่อว่าการใช้กลยุทธ์ Storytelling ในการเล่าเรื่องราวของการดูแลท้องทะเลไทยด้วยภาพท้องทะเลไทยที่สวยงาม น่าสนใจจะสามารถช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเชิงบวก เช่น การลดการใช้พลาสติก การร่วมกันทำความสะอาดชายหาด การนำขยะทะเลมาทำเครื่องประดับเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ และการสนับสนุนแนวทางการปฏิบัติที่จะนำไปสู่การสร้างความยั่งยืน ล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมทางทะเลไว้สำหรับคนรุ่นหลัง
Mr. Rick Loughery รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสื่อสารของ GoPro กล่าวว่า การจัดงาน GoPro World Ocean Day 2024 ในประเทศไทย มีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและและส่งเสริมการอนุรักษ์ทะเลไทย โดยการเชิญชวนให้นักดำน้ำถ่ายภาพและแบ่งปันประสบการณ์ใต้ท้องทะเลที่สวยงาม เพื่อมุ่งหวังที่จะสร้างชุมชนทั่วโลกที่มีความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะสำรวจท้องทะเลอันบริสุทธิ์ของเกาะเต่าโดยใช้กล้อง HERO12 Black บันทึกความสวยงามของท้องทะเลไทยและส่งเสริมการเดินทางอย่างยั่งยืน
ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ เวิร์คช็อป GoPro ซึ่งผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้การถ่ายภาพใต้น้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งจะแสดงถึงความสวยงามและความละเอียดอ่อนของระบบนิเวศทางทะเลไทย นอกจากนี้ ยังมีเวิร์คช็อป #SeaGlass เชิญชวนให้ผู้ร่วมงานนำขยะทะเลมาสร้างสรรค์ให้เป็นของสวยงามและนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและการพิทักษ์ดูแลสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ GoPro ยังได้มีการร่วมมือกับ PADI ในการเปิดหลักสูตรอบรมผู้สอนดำน้ำในเกาะเต่า ซึ่งเมื่อจบหลักสูตรดังกล่าว ผู้สอนดำน้ำจะมีคุณสมบัติในการเปิดสอนหลักสูตรเฉพาะทาง GoPro PADI ให้กับนักดำน้ำ PADI ทุกคน
Ms. Lisa Nicklin รองประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท PADI Worldwide กล่าวว่า หลักสูตรที่ได้ร่วมพัฒนากับ GoPro จะทำให้นักดำน้ำมีทักษะในการถ่ายภาพใต้น้ำและสามารถแชร์ประสบการณ์การผจญภัยที่มีคุณค่าและความหมาย การเรียนรู้เรื่องการดำน้ำสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ และการเรียนรู้วิธีการบันทึกภาพใต้น้ำและแชร์ประสบการณ์ผ่านกล้อง GoPro จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล
ทั้งนี้ GoPro เตรียมจัดกิจกรรม the GoPro Asia Best Challenge (GoProABC) เชิญชวนนักผจญภัย คอนเท้นต์ ครีเอเตอร์ และนักเล่าเรื่องจากทั่วทั้งเอเชีย มาร่วมแบ่งปันฟุตเทจ GoPro สุดโปรดที่ยังไม่ผ่านการตัดต่อ (Unedited GoPro Footage) โดยสามารถส่งผลงานได้ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 23:59 น. ผ่านทาง GoPro.com/ABC โดยจะประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลในเดือนสิงหาคม 2567
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
CORO FIELD เอาใจคนรักสุขภาพ เปิดตัวเมนูใหม่กว่า 70 เมนู อัดแน่นไปด้วยผักและผลไม้สดเกรด พรีเมี่ยมจากฟาร์ม CORO FIELD ทั้ง โทมิเมล่อน มะเขือเทศเชอร์รี่ ผักสลัด และผลไม้จากเพื่อนๆ เกษตรกร ทั้ง แตงโมกินนรี จ.กาญจนบุรี สับปะรดหอมเมืองราช ส้มโอเขาน้าผึ้ง และเสาวรส จ.ราชบุรี ที่เราเลือกเฟ้นมาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองผ่านเมนูใหม่แบบจัดเต็ม
เดอะ นาคา ไอแลนด์ อะลักชัวรี่ คอลเลคชั่น รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต
รับรางวัลโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ระดับดีเยี่ยม (ระดับทอง)
จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อลังการงานสร้างกับอาหารทะเลสด ๆ ดุจยกทะเลจันท์มาเสิร์ฟกันถึงโต๊ะ ที่ร้านอย่าลืมฉัน ร้านอาหารทะเลที่การันตีคุณภาพความสด ความใหญ่ จนจานที่ใส่ใหญ่ไม่พอ เลยต้องเสิร์ฟในซึ้งแทน
ใครจะรู้ว่าโคลนที่เอามามาร์กหน้า พอกตัวยังสามารถทำให้ผ้าเกิดความนุ่มลื่นขึ้น จากความช่างสังเกตของ คุณดวงพร อารีพันธุ์ หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านภูมิปัญญาผ้าหมักโคลน ที่ได้ค้นพบวิธีการหมักผ้าไทยด้วยโคลนจากแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เนื้อผ้ามีสัมผัสนุ่มลื่นจนเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน จากอุทกภัยน้ำท่วมเมื่อปี 2538 ที่ ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ทำให้ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เกิดความเสียหาย หลังจากน้ำลด ดวงพร ได้ทำความสะอาดบ้านจึงไปพบกับห่อผ้าของคุณแม่ที่ถูกโคลนทับเป็นเวลา 2-3 เดือน หลังจากนำมาซักกลับพบว่าผ้ามันนุ่มลื่น จนเกิดไอเดียเป็น “ผ้าหมักโคลนเจ้าพระยา” เช่นทุกวันนี้ แรกเริ่มเดิมทีคุณดวงพรใช้ผ้าลายไทยที่เป็นอัตลักษณ์ของภาคกลางไปหมักโคลนให้นุ่ม