เมี่ยงยี่ห้อนี้เป็นเมนูสูตรเด็ดขึ้นชื่อของร้าน “แม่ซอต” อ. โพนพิสัย จ. หนองคาย ที่มีทีเด็ดเรื่องรสชาติและความอร่อย เป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนกันตรึมตั้งแต่เช้าจรดเย็น
หน้าตาปลาเผาพันเมี่ยง 1 ชุด ประกอบไปด้วยปลานิลเผาตัวขนาดใหญ่ หนักประมาณหนึ่งกิโล คลุกเคล้าด้วยเกลือเม็ดละเอียด ก่อนนำขึ้นย่างไฟปานกลางจนเนื้อสุกเหลืองไปทั่ว ส่วนช่องท้องถูกผ่าล้างทำความสะอาดจนเกลี้ยงเกลา ยัดไส้ด้วยตระไคร้และใบมะกรูดเพื่อดับกลิ่นคาวก่อนนำขึ้นเผา ยกเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นขนมจีน แคบหมู ผักกาดดอง และผักสดต่างๆ ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการ เช่น มะเขือเทศ มะเขือลาย ตระไคร้หั่นฝอย ข่าอ่อนซอย หัวหอมซอย กระเทียม ผักกาดหอม ใบสะระแหน่ ใบชะพลู ใบชะมวง ผักชีลาว โอ้โห…เยอะจริงๆ
ส่วนพระเอกของงานนี้คงหนีไม่พ้นน้ำจิ้ม ที่ไม่มีสูตรเด็ดอะไรเป็นพิเศษ นอกจากรสชาติที่แตกต่างกันถึงสามรสสามแบบให้นักชิมเลือกลิ้มลองกัน ไล่ตั้งแต่ถ้วยแรกกับน้ำจิ้มแจ่ว มีรสชาติออกเค็มนิดเผ็ดนำหน่อย ถูกปากคนในท้องถิ่น ถ้วยสองน้ำจิ้มซีฟู้ด มีรสชาติเปรี้ยวนำเผ็ดตาม จี๊ดจ๊าดยั่วให้น้ำลายสอดีนักแล และสุดท้ายน้ำจิ้มหวานรสชาติหวานอมเปรี้ยว เข้มข้นด้วยส่วนผสมของน้ำมะขามเปียกกับน้ำตาลเคี่ยว เหมาะกับคนกินไม่เผ็ดและเด็กน้อยวัยกระเตาะที่เดินทางมากับครอบครัว
พูดถึงวิธีกินปลาเผาพันเมี่ยงให้อร่อยนั้น เริ่มต้นจากเด็ดใบผักขนาดพอคำวางไว้ในจาน ตักเนื้อปลาเผาใส่ โรยหน้าเพิ่มสีสันและคุณค่าด้วยนานาผักเคียงที่โปรดปราน ก่อนตักน้ำจิ้มที่ชื่นชอบราดซ้ำลงไป แล้วค่อยๆ ใช้มือบรรจงห่อผักใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ ได้ทันที
เมนูนี้ “นายรอบรู้” ไปชิมมาแล้ว จึงขอเล่ายั่วยวนความอร่อยให้รู้สึกน้ำลายสอกันซักกะติดเถอะว่า ขณะเคี่ยวปลาเผาพันเมี่ยงกรุบๆ กรับๆ อยู่ในปากนั้น นอกจากความหอม หวาน อร่อยของเนื้อปลาแล้ว เราก็ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นฉุยๆ ของบรรดาผักเคียงต่างๆ ที่เสริมรสชาติให้กลมกล่อมยิ่งขึ้นอีกด้วย
คราวหน้าไปเที่ยวหนองคาย นอกจากแวะซื้อหมูยอและกุนเชียงเป็นของฝากติดไม้ติดมือแล้ว ลองแวะสั่งปลาเผาพันเมี่ยงมากินกันสักมื้อ แล้วคุณจะรู้ทันทีว่าความอร่อยน่ะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมถึง
ร้านแม่ซอต ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำโขง ซ. สุขาภิบาล 11 อ. โพนพิสัย จ. หนองคาย โทร. 0-42471-326