
Food route
หลายคนเรียกร้องให้ “นายรอบรู้” แนะนำร้านกาแฟน่ารักๆ ในกรุงเทพฯบ้าง วันนี้ขอจัดสนองนีด(need)ซะหน่อย
กำหนดการงาน วันช้างไทย ประจำปี ๒๕๖๓
ระหว่างวันที่ ๑๒ –๑๔ มีนาคม ๒๕๖๓
ณ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง
*************************
ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า?…
เพลงนี้ดังก้องหูตั้งแต่จำความได้ เป็นเพลงที่ร้องกันแต่ไหนแต่ไร เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ที่มีวิถีชีวิต มีความผูกพันกับคนไทยตั้งแต่อดีต ช้างเป็นสัตว์ที่สำคัญประจำชาติ ในสมัยก่อนได้นำช้างเป็นสัญลักษณ์ของธงชาติ อีกทั้งยังมีการเคารพและศรัทธาช้าง ตามความเชื่อทางพุทธศาสนาและยังถือว่าช้างเป็นสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าช้างเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยอย่างหนึ่งเลยทีเดียว จึงได้มีการกำหนดให้วันที่ 13 มีนาคมของทุกปี เป็นวันช้างไทย เพื่อให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง รักและหวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ช้างให้มากขึ้น
สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เล็งเห็นความสำคัญของช้างไทย ทั้งนี้เพื่อเป็นการเชิดชูคุณค่าและเกียรติของช้างไทยควบคู่ไปกับการปลุกจิตสำนึกการอนุรักษ์วัฒนธรรมและเรียนรู้ภูมิปัญญาการเลี้ยงช้างของล้านนา รวมถึงความร่วมมือของชุมชนให้รักษาประเพณีนี้และสืบสานต่อไปในอนาคตด้วย จึงได้กำหนดจัดงานวันช้างไทย ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2563 ณ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง
โดยภายในงานประกอบด้วยหลากหลายกิจกรรมเริ่มตั้งแต่พิธีสงฆ์ที่เป็นพิธีบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้แก่ช้างที่เสียชีวิตไปแล้ว พิธีบวงสรวงพระพิฆเนศวร สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เจ้าพ่อขุนตาลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบริเวณพื้นที่
นอกจากนี้ยังมีการประกวดจัดแสดงซุ้มอาหารช้าง กิจกรรมใส่บาตรร่วมกับช้าง พิธีฮ้องขวัญช้าง (บายศรีสู่ขวัญ) ผูกขวัญช้าง(ผูกด้ายสายสิญจน์ที่หูช้าง) และการจัดเลี้ยงอาหารช้าง โดยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๓
พิธีทางศาสนา
เวลา ๐๖.๓๐ น. เริ่มพิธีการบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ \
เวลา ๐๖.๓๐ – ๐๗.๑๕ น. – องค์พระพิฆเนศวร ณ โรงเรียนฝึกควาญช้างและช้าง
เวลา ๐๗.๓๐ – ๐๘.๓๐ น. – สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ สันดอยเรือ
เวลา ๐๙.๐๐ – ๐๙.๔๕ น – องค์พระพิฆเนศวรปางนาฏลีลาประทานพร
เวลา ๐๙.๔๕ – ๑๐.๓๐ น. – ศาลเจ้าพ่อขุนตาน
– ร่วมคล้องพวงมาลัยรูปปั้นโขลงช้าง บริเวณป้ายด้านหน้าสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ
เวลา ๑๐.๓๐ – ๑๑.๓๐ น. พิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศให้กับช้าง ณ คชานุสรณ์สถาน
การจัดประกวดซุ้มอาหารช้าง
เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. การประกวดจัดซุ้มอาหารช้างของหน่วยงานภายนอก ประกาศผลการตัดสินการประกวดจัดซุ้มอาหารช้าง ณ เวทีกลาง บริเวณด้านข้างไปรษณีย์ช้างไทย (เวลา ๑๕.๓๐ น.)
หมายเหตุ มีการแสดงช้างและนั่งช้างตามเวลาในอัตราปกติ
วันศุกร์ที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๓
เวลา ๐๙.๐๐ น. – ๐๙.๐๕ น. ประธานในพิธีเดินทางมาถึงบริเวณงาน พิธีกรกล่าวต้อนรับ นำเข้าสู่พิธีการ
เวลา ๐๙.๐๕ น. – ๐๙.๑๐ น. ผู้อำนวยการสำนักสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ กล่าวรายงานการจัดงาน
เวลา ๐๙.๑๐ น. – ๐๙.๑๕ น. พิธีกรเรียนเชิญ ประธานในพิธีฯ กล่าวเปิดงาน และลั่นฆ้องชัยเปิดงาน
เวลา ๐๙.๑๕ น. – ๐๙.๓๐ น. พิธีกรเรียนเชิญประธานในพิธีฯ และแขกผู้มีเกียรติ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
เวลา ๐๙.๓๐ น. – ๐๙.๔๐ น. พิธีกรเรียนเชิญ ผอ.ส.คช. มอบของที่ระลึกให้กับประธาน
พิธีกรเรียนเชิญประธาน มอบเงินรางวัลการประกวดซุ้มอาหารช้าง พิธีมอบช้างพลายทรัพย์ไพรวัลย์ โดย คุณบุญ ชาติพาณิชย์
เวลา ๐๙.๔๐ น. – ๑๐.๑๐ น. พิธีฮ้องขวัญช้าง โดย หมอช้างประกอบพิธี
เวลา ๑๐.๑๐ น. – ๑๐.๑๕ น. พิธีกรเชิญผู้ร่วมงานร่วมผูกขวัญช้าง
พิธีกรเรียนเชิญประธาน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมกันนำกระเช้าอาหารช้าง วางบนสะโตกอาหารช้าง เพื่อเลี้ยงอาหารช้าง
เวลา ๑๑.๐๐ น. ชมช้างกินอาหารบนสะโตกอาหารช้าง
เวลา ๑๒.๐๐ น. ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน เสร็จสิ้นพิธี
ภาคบ่าย
เวลา ๑๓.๑๕ น. กิจกรรมช้างอาบน้ำ
เวลา ๑๓.๓๐ น. การแสดงช้าง
เวลา ๑๔.๓๐ น. ชมวิถีเลี้ยงช้างปล่อยโขลง ณ บริเวณอ่างน้ำข้างโรงเรียนฝึกควาญช้างและช้าง
เวลา ๑๖.๓๐ น. เลี้ยงอาหารช้างเลี้ยงโขลง ณ ปางบุญ
หมายเหตุ มีการแสดงช้าง นั่งช้าง และชมวิถีเลี้ยงช้างปล่อยโขลง ตามเวลาและค่าธรรมเนียมในอัตราปกติ
วันเสาร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๓
เวลา ๐๘.๓๐ น. พร้อมกันหน้าอาคารกัลยาณิวัฒนาการุณย์
เวลา ๐๘.๓๐ – ๐๙.๓๐ น. พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ ๓๐ รูป ร่วมกับช้าง
เวลา ๐๙.๓๐ – ๑๐.๓๐ น. บวงสรวงเจ้าพระยาไชยยานุภาพ บริเวณหน้าอาคารกัลยาณิวัฒนาการุณย์
เวลา ๑๐.๓๐ – ๑๑.๓๐ น. พิธีทำบุญเลี้ยงพระและถวายเพลพระภิกษุสงฆ์ จำนวน ๙ รูป เนื่องในวันช้างไทย ประจำปี ๒๕๖๓ มอบรางวัลควาญช้างดีเด่นประจำปี ๒๕๖๒
กิจกรรมเลี้ยงสะโตกช้าง
เวลา ๑๔.๓๐ น. กิจกรรมเลี้ยงสะโตกช้าง
เวลา ๑๕.๐๐ น. ชมวิถีช้างเลี้ยงปล่อยโขลง ณ บริเวณอ่างน้ำข้างโรงเรียนฝึกควาญช้างและช้าง
หมายเหตุ มีการแสดงช้าง นั่งช้าง และชมวิถีเลี้ยงช้างปล่อยโขลง ตามเวลาและค่าธรรมเนียมในอัตราปกติ
กำหนดการของทุกวันอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
หลายคนเรียกร้องให้ “นายรอบรู้” แนะนำร้านกาแฟน่ารักๆ ในกรุงเทพฯบ้าง วันนี้ขอจัดสนองนีด(need)ซะหน่อย
เมื่อขึ้นไปถึงเป้าหมายที่ทำให้เรามีความมานะบากบั่นมุ่งตรงมาถึงคือ “ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาตร์” ศิลปะจากถ้ำโดยฝีมือมนุษย์อายุกว่า 3,000 ปี บนชะโงกผา ทำให้ความเหนื่อยล้าระหว่างทางหายไปทันที
เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซียตั้งอยู่ใกล้กับจังหวัดสตูล สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือตำมะลัง อ. เมืองสตูลข้ามไปได้ใช้เวลา 1 ชั่วโมง แต่เดิมนักท่องเที่ยวสามารถทำบัตรข้ามแดนชั่วคราว (Temporary Border pass) ได้ โดยไม่ต้องใช้พาสปอร์ต (Passport) เพียงมีสำเนาบัตรประชาชน แต่ปัจจุบันนี้ นับตั้งแต่วันที่ 26 ธันวามคม 2558 เป็นต้นไป รัฐบาลมาเลเซียห้ามใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว ใช้พาสปอร์ตได้เท่านั้น เตือนนักท่องเที่ยวที่จะข้ามไปเกาะลังกาวีต้องใช้ พาสปอร์ตเท่านั้น ไม่มีการทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว ( Temporary Border pass) ที่ท่าเรือตำมะลังอีกแล้ว เดี่ยวจะอดเที่ยวกันนะ ขอบคุณข้อมูลจาก
“ผัก” คำที่เราคุ้นเคย ที่พอเอ่ยถึงแล้วก็รู้ได้ว่าคือตัวแทนแห่งคุณค่าทางโภชนาการ และถ้าใครสักคนบอกกับเราว่า “กินผักสิ ผักมีประโยชน์ต่อร่างกาย” ก็แปลได้ว่าเขาห่วงใยและปรารถนาดีต่อเรา ร้าน “PAAK” ก็เช่นกัน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
“สำเนียงระยองเป็นสำเนียงที่มีเอกลักษณ์ ทางคณะหนังใหญ่จึงมีการนำสำเนียงและภาษาระยองเข้ามาสอดแทรกในการแสดง โดยเฉพาะบทเจรจา หรือ บางทีมีการประยุกต์นำเหตุการณ์ปัจจุบันสอดแทรกเข้าไปบ้าง” ครูอำไพ บุญรอด ครูพากย์และผู้ดูแลคณะหนังใหญ่วัดบ้านดอน จังหวัดระยอง กล่าวถึงการประยุกต์นำอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่โดดเด่น เช่นภาษาของคนระยองมาปรับใช้กับการแสดงหนังใหญ่
หลายคนคงสงสัยว่า เอ๊ะ! นี่มันฤดูอะไรกันหว่า อากาศมันช่างร้อนเหลือหลายสลับกับฝนตกบ้างเป็นบางวันจนร่างกายปรับตัวไม่ถูกแล้ว เอาน่า…แม้ว่าฤดูกาลจะสับสนไปบ้างแต่เราก็อย่าสับสนไปตามฤดูกาลแล้วกัน ร้อนๆ อย่างนี้หาของกินชื่นใจช่วยให้ร่างกายสดชื่นกันดีกว่า
โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ ภูมิใจนำเสนอ พระรามสี่ บิสโตร (Phar-Ram IV Bistro) บิสโตรใหม่ล่าสุดที่มาช่วยผนึกกำลังให้กับโรงแรมในฐานะจุดหมายในไลฟ์สไตล์กินดื่ม
ทะเลของเกาะพะงันเป็นทะเลเงียบๆ ไร้คลื่นลมแรง แต่ดึงดูดคนที่อยากพักพิงหัวใจให้มาถึงที่นี่ ว่ากันว่าทะเลที่เกาะพะงันช่วยชะล้างพลังงานไม่ดีออกจากร่างกายของเราได้
© 2018 All rights Reserved.