
“ลอง” ปั่นจักรยานพิชิตเขานางหงส์
“ชีวิตจะยืนยาว หนุ่มสาวจะยืนยง จงหมั่นออกกำลังกาย”
จากคนไม่กี่คน ได้ชักชวนคนในชุมชนให้หันมาออกกำลังกาย รวมกลุ่มกันนานนับ 6 ปี จนกลายเป็น “ทับปุดไบค์”
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจ GPS
มันแสนสุดลึกลับเหลือกำหนด
ให้วนอ้อมหนทางจนเลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในคำหลอกลวง
เป็นกลอนบ้าๆที่ผุดขึ้นมาในขณะหลงทางตามGPS บอกตำแหน่งเพื่อไปยัง Little Tree Garden
แม้เส้นทางจะดูสับสนงงงวย แต่พอถึงที่หมาย แล้วพบเข้ากับสวนสวย ๆ สไตล์อังกฤษขนาดกว่า 4 ไร่ ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ อ่อนตัวไหวเอนไปตามสายลมในอากาศบริสุทธิ์
ในเวลาเดียวกันกลิ่นหอมๆของเบเกอรี่ที่พึ่งออกมาจากเตากลิ่นกาแฟที่ลอยปนกับกลิ่นดอกไม้หลายชนิดที่แทบจะหาได้ยากในเมืองกรุงสลับกับอากาศสดชื่นเย็นสบายวิทย์ ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง เจ้าของร้าน Little Tree Garden และนักจัดแต่งสวนชื่อดังก็ออกมาเล่าความสุขที่ไม่ Little ของเขา
“หลายคนบอกว่ามาที่นี่มันไม่ Little Tree เลย”
บทสนทนาแรกที่วิทย์เปิดประโยคได้น่าสนใจกับความขัดแย้งที่ประจักษ์อยู่ตรงหน้าสวนทั้งสวนปกคลุมไปด้วยต้นไม้ความสดใสชีวิตและธรรมชาติแต่แน่นอนที่แห่งนี้มันไม่ใช่สถานที่เล็กๆเหมือนชื่อร้านเพราะขนาดสวน 4 ไร่กว่า ๆ และไม่นับรวมพื้นที่ในการปลูกต้นไม้ขาย
วิทย์เล่าว่าจุดเริ่มต้นของสถานที่แห่งนี้เริ่มจากต้นไม้เล็กๆเริ่มจากความชอบและความรักเล็กๆที่ก่อเกิดขึ้นมาเรื่อยๆซึ่งทั้งหมดเริ่มจากพ่อของเขา
“สมัยก่อนที่ผืนนี้เป็นที่เก่า มีช่วงเวลาหนึ่งที่คุณพ่อถมที่แล้วต้นไม้ใหญ่ก็ถูกตัดไปจึงเริ่มต้นปลูกต้นไม้ใหญ่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งก็เริ่มจากต้นกล้าเล็ก ๆ แล้วมันก็ค่อย ๆ เติบโตจนถึงทุกวันนี้ เราก็ใช้ชื่อว่าLittle Treeมาจนถึงปัจจุบัน”
“การที่ธุรกิจค่อย ๆ เติบโตผ่านมา 30 กว่าปี Little Tree ก็มีมุมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพิ่มขึ้นมาในพื้นที่ 4 ไร่กว่า ๆ โชคดีที่ Little Tree เป็นธุรกิจของครอบครัว แล้วทุกคนก็ใช้ความถนัดของแต่ละคนออกมาประกอบกิจการ ซึ่งเป็นคาเฟ่”
ความถนัดของแต่ละคนในครอบครัววิทย์เล่าว่าพ่อเป็นเกษตรกรปลูกต้นไม้ขายอยู่เรื่อยๆและปัจจุบันก็ยังคงตัดต่อชำกิ่งก้านของพันธุ์ไม้ขายอยู่เช่นเคยส่วนแม่ก็คอยดูแลต้อนรับลูกค้าที่มาร้านคอยสร้างรอยยิ้มและความสุขบนโต๊ะอาหารผ่านแจกันที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลายชนิด
พี่สาวเดิมสอนหนังสือ ก็มาดูแลเรื่องเบเกอร์รี เครื่องดื่ม และอาหารให้กับร้าน และวิทย์ผู้ซึ่งเป็นนักจัดสวนก็นำศิลปะ ความสร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่ตนเองมี มาจัดวางต้นไม้หลายพันธุ์ตามรูปแบบที่ให้ธรรมชาติดูแลกันเองได้อย่างลงตัว
และสถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่ของครอบครัวแต่ยังเป็นที่รวมตัวของผู้คนไว้คอยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับต้นไม้และสถานที่ของการเรียนรู้
“Little Tree มันก็เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นการจัดค่ายกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งเวิร์กชอปปลูกต้นไม้ การทำผ้ามัดย้อม การทำขนม การทำอาหาร ทำงานศิลปะ เรียนรู้การอยู่กับธรรมชาติ และก็เป็นจุดรวมตัวของผู้คนสำหรับการแบ่งปันต้นไม้ ขยายต้นไม้ หรือเรื่องของการเพาะปลูกต้นไม้สายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่จะมีผู้คนมารวมตัวกันเป็นประจำในทุก ๆ วัน”
นอกจากLittle Tree จะเป็นสถานที่ไว้คอยแลกเปลี่ยน และเป็นแหล่งเรียนรู้ สิ่งที่ขาดไม่ได้ของที่นี่คือคาเฟ่ซึ่งนับว่าเป็นจุดรวมตัวของผู้คนเพื่อมาชิมอาหารยอดนิยมของร้านคือ เค้กโฮมเมดซิกเนเจอร์ ได้แก่Macadamia Butterscotch และมะปี๊ด Cheesecake ซึ่งมีรสชาติหอม หวาน และมันอย่างลงตัวจากวัตถุดิบปลอดสาร รวมถึงอาหารที่มีจุดเริ่มต้นมาจากชีวิตวัยเด็กของวิทย์และครอบครัว
“จุดเริ่มต้นของเราไม่มีพื้นฐานในการทำร้านอาหารมาก่อน แต่เรามีเมนูที่เราทำกินและเป็นรสชาติที่เรากินมาตั้งแต่เล็ก ๆ อาหารของเราจึงเหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งนับว่าเป็นเมนูสำหรับครอบครัว แล้วก็เป็นอาหารที่ปลอดภัยด้วยวัตถุดิบปลอดสาร”
ไม่เพียงแต่อาหารหวาน ของคาวก็ได้รับความสนใจเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็น เมี่ยงดอกไม้ ที่ถูกม้วนอยู่ในแป้งบาง ๆ กับน้ำจิ้มรสเด็ด ยำหมูสามชั้นตะลิงปิง ที่ให้ความมันและรสเปรี้ยวจี้ดจ๊าดอย่างลงตัว ไข่เจียวดอกโสน คล้ายว่าจะเป็นเมนูที่หากินได้ทั่วไปแต่นาน ๆ ครั้งจะพบกับดอกโสนที่เหลืองอร่ามที่ขึ้นเองอย่างปลอดสาร อีกทั้ง เขียวหวานซี่โครงหมูกรุบกะลา เมนูที่ใคร ๆ ต่างยกให้เป็นสุดยอดของความนุ่มจากเนื้อหมูที่ละลายในปาก พร้อมกับกรุบกะลาที่หากินยากเพราะต้องใช้วัตถุดิบตอนที่มะพร้าวยังอ่อน ๆ และสุดท้าย หมูต้มเค็มคุณนาย รสชาติคล้ายพะโล้แต่จะเน้น ๆ ไปด้วยเนื้อหมูละลายในปาก หอมอร่อยเมื่อทานกับข้าวสวยร้อน ๆ
Little Tree ปรุงอาหารด้วยวัตถุดิบอินทรีย์ในสวน ไม่ว่าจะเป็นไข่เป็ดที่เลี้ยงดูจากเศษอาหารและเศษผักที่เหลือจากการทำอาหาร ผักสลัด ผักสวนครัวบางชนิดปลูกเองโดยไม่ใช้สารเคมีหรือปุ๋ยชีวะภาพ แต่ในปัจจุบันลูกค้าเพิ่มมากขึ้น การใช้วัตถุดิบในสวนอย่างเดียวคงไม่พอ สิ่งที่ทำได้คือการเลือกสรรให้ได้คุณภาพของวัตถุดิบที่ปลอดภัยต่อลูกค้า
“Little Tree ไม่ได้ทำเกษตรอินทรีย์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราเลือกแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ปลอดภัยทั้งจากพ่อค้าแม่ค้าขายผักที่รู้จัก ทั้งเนื้อหมูมาจากฟาร์มที่ปลอดสาร และมีวัตถุดิบบางอย่างที่เราปลูกเองอย่างดอกไม้กินได้ เช่น พวงชมพู อัญชัน กุหลาบ มินต์ และอื่น ๆ ที่เราสามารถปลูกได้ เราก็เอามาใช้ในร้านอาหารของเรา”
ความเอาใจใส่ต่อลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม หรือการบริการต่าง ๆ เหล่านี้ ซึ่งแน่นอนได้รับความประทับใจกลับไป และนอกเหนือสิ่งอื่นใด คือบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ร่มเย็น ที่หาที่ไหนไม่ได้ในเมืองหลวง และร่วมถึงความสุข Little Little ในจิตใจ จาก Little Tree Garden
ต. บ้านใหม่ อ. สามพราน จ. นครปฐม
เปิดเวลา 09.00-18.00 น. ปิดวันจันทร์
โทร. 081-824-4119
GPS 13.687611, 100.252227
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
“ชีวิตจะยืนยาว หนุ่มสาวจะยืนยง จงหมั่นออกกำลังกาย”
จากคนไม่กี่คน ได้ชักชวนคนในชุมชนให้หันมาออกกำลังกาย รวมกลุ่มกันนานนับ 6 ปี จนกลายเป็น “ทับปุดไบค์”
ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองที่โคราช มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน มีร้านหนึ่งตั้งอยู่ในจุดที่มองเห็นทิวทัศน์อ่างเก็บน้ำได้อย่างสวยงามเต็มตาโดยเฉพาะเวลาเย็น ทั้งอาหารก็รสเลิศไม่เป็นรองใคร คือร้านครัวอีสาน
10 พระธาตุที่ควรสักการะ 1. พระธาตุดอยสุเทพ ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุดอยสุเทพ ต. สุเทพ อ.เมือง จ. เชียงใหม่ สร้างขึ้นใน พ.ศ. 1962 เจดีย์เป็นศิลปะเชียงแสน เป็นพระธาตุประจำปีมะแมหรือปีแพะ ในช่วงคืนก่อนวันวิสาขบูชาของทุกปีจะมีงานประเพณีเดินขึ้นดอยสุเทพไปนมัสการพระธาตุ 2. พระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่ที่ ต. ห้วยไคร้ อ. แม่สาย จ. เชียงราย เป็นพระธาตุประจำผู้ที่เกิดปีกุนหรือปีหมู สร้างขึ้นใน พ.ศ. 1454 ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกไหปลาร้าของพระพุทธเจ้า ใกล้องค์พระธาตุมีรอยแยกบนพื้นซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ปักตุงตามตำนาน ทุกๆปี
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
จะดีแค่ไหน ถ้าเราได้ออกเดินทางท่องเที่ยว แล้วยังช่วยลดโลกร้อนได้ในคราวเดียว กับการท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่แบบวิถีคาร์บอนต่ำ สัมผัสวิถีชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทำกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ ที่จะทำให้ทั้งคุณและคนในชุมชน สนุกและอิ่มสุขอย่างแน่นอน
‘เสน่ห์จันทน์’ เป็นชื่อขนมไทยดั้งเดิมที่นิยมใช้ในงานมงคล ถูกหยิบยกมาเป็นชื่อร้านอาหารเพื่อคงคุณค่าความเป็นอาหารไทยรสแท้
“ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือกัน” เป็นประโยคยอดฮิตที่ใครๆ ต้องเอ่ยเมื่อมาเยือนกรุงเก่าอย่าง จ. พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมองไปทางไหนก็เห็นแต่เรือ…เรือ…เรือ…จอดเทียบท่าอยู่บนบก พร้อมเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวเรือที่มีทั้งสูตรโบราณ สูตรต้นตำรับ สูตรประยุกต์ และสูตรเฉพาะตัวแบบคนกรุงเก่า ให้คุณได้เลือกลิ้มชิมรสกันอย่างจุใจ
ยามเช้าในวันที่สายหมอกปกคลุมยอดดอย อากาศเย็นไหลวนจนไม่อยากลุกจากที่นอน ถ้ามีกาแฟหอมๆกับขนมอร่อยๆ รับเช้าวันใหม่ ที่ Groon Cafe มันก็คงจะดีไม่น้อย…
© 2018 All rights Reserved.