พี่อู๋กล่าวว่า “ชื่อยาวทำการตลาดยากเลย ผมเลยคุยกับหุ้นส่วนว่าถ้าชื่อยาวขนาดนี้ต้องทำใจด้วยนะถ้าคนจะเรียกว่ารื่นรมย์เก่า รื่นรมย์ใหม่ หรือ ร้านพี่อู๋ เขาก็โอเคเลยเพราะฉากหน้าเขาให้เราเป็น owner (เจ้าของร้าน) เต็มตัว”
“ร้านนี้ผมอยากทำมากกว่าร้านกาแฟคือพื้นที่ของศิลปะด้วย”
พีเบอร์รี่ เพอร์เซ นอกจากจะเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี่แล้ว ยังมีส่วนของแกลอรี่เล็กๆ ที่เจ้าของร้านตั้งใจ
อยากให้มีพื้นที่ทางศิลปะร่วมกับการดื่มกินกาแฟ ด้วยจากประสบการณ์ที่เป็นนักชมพิพิธภัณฑ์และงานศิลป์อยู่แล้วจึงมองว่าส่วนใหญ่แกลอรี่ในมหาวิทยาลัยนั้นแห้งแล้ง ถึงจะมีพื้นที่สำหรับการจัดแสดงงาน แต่ก็ไม่มีกิจกรรมอย่างอื่นของผู้คนประกอบด้วยมากนัก
“ร้านนี้คืองานของคนท้องถิ่น คนสารคาม ขอนแก่น”
เมื่อมีพื้นที่ร้านเป็นของตัวเองนอกรั้วมหาวิทยาลัยแล้วพี่อู๋เองก็อยากใช้พื้นที่ตรงนี้ทำตามความฝันที่เคยวาดไว้ให้เกิดขึ้นจริง คือการเปิดพื้นที่ให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้มาโชว์ผลงานและเล่นดนตรี รวมถึงยังอยากให้เป็นสถานที่จัดงานเสวนาทั้งเป็นวิชาการและไม่เป็นวิชาการ อย่างงานแรกที่เพิ่งจัดไปเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา คืองาน “ศิลปสานอภิวัฒน์” หัวข้อ “ศิลปะกับการกดขี่” โดยมีอาจารย์ถนอม ชาภักดี เป็นวิทยากร และสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตคืออยากเชิญชวนนักเขียนที่รู้จักมาตั้งวงคุยกันที่ร้าน
ขนาดของห้องที่เตรียมไว้ก็สามารถรับคนได้ประมาณหนึ่ง ภายนอกมีพื้นที่ด้านหน้าสำหรับลงทะเบียน รวมถึงสนามหญ้าที่เป็นพื้นที่ว่าง ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ถูกจัดวางไว้สำหรับการเปิดพื้นที่ทางศิลปะและการพูดคุยไว้หมดแล้ว พี่อู๋บอกกล่าวกับเราว่างานศิลปะที่ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นงานร่วมสมัย เพราะงานพื้นถิ่นอีสานเองก็มีเสน่ห์มากพอที่จะแสดงได้