เพราะว่ารักและใส่ใจ จึงมอบมื้ออาหารดีๆ แทนความรัก ต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์
กับ 5 คาเฟ่ออร์แกนิก ที่ทำด้วยใจ ใส่ใจ และคัดเลือกวัตถุดิบจากคนที่ผลิตด้วยหัวใจเหมือนกัน
คาเฟ่เล็กๆ แต่ความตั้งใจยิ่งใหญ่ของสองพี่น้องเจ้าของฟาร์มโคโร ฟิลด์ คุณมิตรดนัย และคุณพันดนัย สถาวรมณี ที่อยากให้ชีวิตเกษตรกรและคนเมืองดีขึ้นผ่านประสบการณ์ด้านการเกษตร ด้วยการนำความสดสะอาดของวัตถุดิบเกรดเอปลอดสารเคมีจากฟาร์มมาเสิร์ฟถึงจานอาหารในกรุงเทพฯ
อาหารโฮมเมดสไตล์ไทย-ญี่ปุ่นฟิวชั่นที่สดใหม่ อร่อย คุณภาพคับจาน ท่ามกลางบรรยากาศที่เหมือนยกฟาร์มโคโร ฟิลด์มาไว้ใจกลางเมือง ประเดิมความสดชื่นดีต่อใจด้วยน้ำเมลอนสดและสมูทตี้โทมิเมลอน แล้วลิ้มรสชิกเก้นโบโลเนสที่ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสของมะเขือเทศเชอร์รี่เต็มปากตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย พล่ากุ้งย่างโทมิเมลอนก็อวลไปด้วยกลิ่นหอมของกุ้งย่างผสานกลิ่นเมลอน เนื้อกุ้งเด้งกับเมลอนฉ่ำรวมกันแล้วอร่อยเข้ากัน
มันมุราซากิทอดเสิร์ฟพร้อมซอส 3 รสชาติ หนึ่งในจานโปรดของเจ้าของฟาร์ม เมนูง่ายๆ แต่ได้ใจเพราะชิ้นมันกรอบนอกนุ่มใน กินเพลินจนไม่อยากหยุด เสริมด้วยวัตถุดิบชั้นดีจากเพื่อนเกษตรกรในราชบุรี ยิ่งทำให้อาหารของโคโร ฟิลด์หลากหลายและเต็มอิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสันคอหมูย่างชิ้นโตๆ กินกับซอสสับปะรดที่ได้จากเกษตรกรบ้านคา ข้าวผัดมันกุ้งย่างซึ่งใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่จากโพธาราม ผัดเคล้ากับมันกุ้งสดและเครื่องเทศ หอมมันกินอร่อย
ตบท้ายด้วยของหวานอย่างโทมิเมลอนครัมเบิ้ลดินหรือโรตีกับไอศกรีมเมลอน รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ตัดกับความกรอบของโรตีและความกรุบของครัมเบิ้ลอย่างลงตัว อีกเมนูเป็นเต้าฮวยมันม่วงเคี้ยวหนุบหนับในน้ำเชื่อมเย็นชื่นใจ อิ่มแล้วจะช็อปปิ้งต่อที่หน้าร้านเป็นเฟรช มาร์เก็ต จำหน่ายผลผลิตสดๆ จากฟาร์ม อาทิ โทมิเมลอน มะเขือเทศเชอร์รี่สายพันธุ์ฮอลแลนด์ ผักสลัดที่ปลูกด้วยน้ำแร่ มันมุราซากิ แยมและน้ำสลัดเมลอน ตลอดจนผลิตภัณฑ์จากชุมชน
สาขา 2 อยู่ที่ชั้น G เอสพละนาดรัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เปิดทุกวันเวลา 10.00-22.00 น.
โทร. 065-613-1166
GPS: 13.765953, 100.569364
https://goo.gl/maps/2ncSLrFTtdT2
ร้านอาหารฟิวชันบรรยากาศหรูบนชั้น 6 ของโครงการ Piman 49 ย่านสุขุมวิท ออกแบบเป็นห้องเรือนกระจกสไตล์อังกฤษ การตกแต่งเน้นสีขาว มีต้นไม้เขียว ๆ ห้อยระย้าดูผ่อนคลาย ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ของกระจุกกระจิก หรือดิสเพลย์อาหาร ออกแนวสวยหวานน่าถ่ายภาพ
นอกจากร้านจะตกแต่งได้สวยงามน่านั่งมากแล้วที่อยากแนะนำมากๆ คือ อาหารของที่นี่เน้นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ วัตถุดิบสั่งวันต่อวันมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีใบรับรองมาตรฐาน โดยเฉพาะวัตถุดิบจำพวกผักผลไม้จะเป็นออร์แกนิกทั้งหมด อย่างเมนูเครื่องดื่ม มีตั้งแต่น้ำผักผลไม้สกัดเย็น น้ำปั่นผสมเมล็ดเจียหรือสาหร่ายสไปรูลินา ไปจนถึงเซตอาฟเตอร์นูนที เมนูแนะนำคือ Memoirs of Sunrise ชาสีชมพูที่มีส่วนผสมของกระเจี๊ยบ ตะไคร้ และแอปเปิ้ล รสเปรี้ยวหอมกลิ่นผลไม้ มีทั้งแบบร้อนและเย็น
ส่วนเมนูเรียกน้ำย่อย ต้องชิม Organika Rocket Salad ที่ใช้ผักจากฟาร์มออร์แกนิก แทรกด้วยรสเปรี้ยวสดชื่นจากพีช ปกติใช้พีชเชื่อม แต่ถ้าเป็นฤดูกาลจะสั่งพีชสดจากโครงการหลวง เพิ่มรสหวานกรุบกรอบด้วยอัลมอนด์เคลือบคาราเมลที่ทางร้านทำเอง สำหรับอาหารจานหลักมีหลากหลาย อย่าง Grilled Pork Chop ที่ใช้เนื้อหมูปลอดสารพิษและมัสตาร์ดซอสแบบโฮมเมด Crab Pasta ซึ่งใช้ปูพาสเจอไรซ์ปลอดสารพิษนำเข้าจากต่างประเทศ ตบท้ายด้วยของหวานเมนูเด็ดคือ Apple Crumble แอปเปิ้ลเขียวทั้งลูกอบกับซินนามอน เสิร์ฟพร้อมครัมเบิ้ลและครีมมาบนเขียงไม้ แต่งจานด้วยพลั่วตักดินขนาดเล็กสุดเก๋
Organika Café & Restaurant
ชั้น 6 อาคาร A โครงการพิมาน 49 ซ. สุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เปิดเวลา จ.-พฤ. 09.30-21.30 น. ศ.-อา. 09.00-21.00 น. (ส.-อา.ไม่รับจองโต๊ะ)
โทร. 0-2665-1899 / http://organikahouse.com/cafe/
GPS: 13.732341, 100.576403
https://goo.gl/maps/6uwtbbGqqS92
“โรงงานที่ผลิตผักและอาหารปลอดภัย” คือนิยามของร้าน Salad Factoryที่คุณกอล์ฟ-ปิยะ ดั่นคุ้ม เจ้าของร้านได้ต่อยอดธุรกิจส่งออกผลไม้ของครอบครัว และรวมรวมวัตถุดิบไร้สารเคมีจากเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ทั่วทุกภูมิภาค มารังสรรค์เป็นเมนูเพื่อสุขภาพส่งตรงถึงลูกค้า
ทางร้านคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพมีความสดใหม่ ปราศจากสารเคมี เช่นเลือกใช้ผักสลัดออร์แกนิกจากหลายฟาร์ม ทั้งล้อมรักฟาร์ม จ. พะเยา ฟาร์มมังกรหยก จ. อ่างทอง ใช้มะเขือเทศอินทรีย์และผักสลัดบางชนิดจากฟาร์มเบิกบาน อ. ปากช่อง รวมทั้งใช้ผักสลัด อโวคาโด และเสาวรส ที่ทางร้านปลูกเองที่เชียงดาว
ยังเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิจากจังหวัดสุรินทร์ แบรนด์ออร์กาบา ที่ปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์100% ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จากสถาบันต่างๆรวมทั้งเนื้อหมูอนามัยเบทาโกรที่ไม่ใช้สารเร่งเนื้อแดง ปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะ และสารเคมีตกค้าง เป็นต้น
ปัจจุบัน Salad Factoryมีถึง 6 สาขาแล้ว กับเมนูอาหารกว่า 200 เมนู และที่ถือเป็นไฮไลท์คือลูกค้าสามารถครีเอทเมนูสลัดได้ตามชอบ โดยสามารถเลือกผักสลัดและ Topping ได้เองพร้อมน้ำสลัดสูตรเฉพาะของทางร้านถึง 18 รสชาติ
สาขาแรกเปิดที่ศูนย์การค้า Beehive เมืองทองธานีในบรรยากาศแสนอบอุ่นคลุมโทนด้วยสีขาวจากผนังอิฐสลับกับผนังสีเขียวของหญ้าเทียมพร้อมจัดเรียงโต๊ะเก้าอี้ไม้สีเบสไว้อย่างเป็นระเบียบตกแต่งน้อยๆ ด้วยกระถางต้นไม้ และโคมไฟสีขาวห้อยจากเพดาน
เมนูแนะนำห้ามพลาด คือเมี่ยงเห็ด 7 อย่าง ทั้งอร่อยและสุขภาพดีกับเห็ด 7 ชนิด ทั้งเห็ดฟาง เห็ดหูหนู เห็ดหลินดำ เห็นหลินขาว เห็ดโคนหิมะ เห็ดยานางิ และเห็ดออรินจิ ที่นำมามิกซ์แล้วลวกสุกราดด้วยน้ำยำพริกเผาสุดแซ่บ โรยด้วยหอมเจียว เสิร์ฟมาบนผักสลัดบัตเตอร์เฮดสดกรอบ อร่อยจนหยุดไม่อยู่ ต่อด้วยจานสลัดยอดนิยมอย่างสลัดหมูย่างสมุนไพร ที่เลือกใช้หมูอนามัยเบทาโก นำมาหมักแล้วย่างสุกกำลังดี หั่นชิ้นพอดีคำ วางบนผักสลัดหลากชนิด แล้วโรยด้วยสมุนไพรไทยทอดกรอบ เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดโหระพาสูตรเฉพาะของทางร้าน
หากใครชอบกินผลไม้แนะนำให้สั่งเมนูวินเทอร์สลัด เป็นจานที่มิกซ์ผักสลัดและผลไม้เมืองหนาวไว้ได้หลากหลาย เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดโยเกิร์ต อร่อยเข้ากันแถมได้วิตามินซีสูงยังมีเมนูอร่อยจัดหนักกับข้าวผัดผลไม้ควีนัวร์กุ้ง ที่ใช้ข้าวหอมนิลออร์แกนิกของออร์กาบา มาผสมกับควีนัวร์ออร์แกนิก3 สีที่นำเข้าจากเปรู ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด หุงจนสุกแล้วนำมาผัดรวมกับผลไม้อบแห้ง และกุ้งย่าง อร่อยกลมกล่อม
และอีกหลากหลายเมนูอร่อยที่คุณลองแล้วและติดใจ ด้วยคุณภาพ รสชาติ และราคาที่โดนใจ
สาขา Beehive เมืองทองธานีซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 33 ถนนแจ้งวัฒนะ ต. คลองเกลือ อ. ปากเกร็ดจ. นนทบุรี
เปิด 11.00-22.00 น.
โทร. 02-001-5659
GPS:13.911127, 100.539745
อิ่มอร่อยและผ่อนคลายในบรรยากาศอบอุ่นร่มรื่นท่ามกลางต้นไม้ สนามหญ้า และสระน้ำ พร้อมลิ้มลองรสชาติที่หลากหลายจากเมนูอาหารที่ใส่ใจต่อสุขภาพตั้งแต่ต้นทางผู้ผลิตจนถึงปลายทางผู้เบริโภค ทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมาปรุงอาหาร อย่างข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ ไข่ออร์แกนิก พืชผักปลอดสารพิษจากโครงการหลวง เนื้อสัตว์จากฟาร์มคุณภาพดี ตลอดจนใช้ชาออร์แกนิกสมุนไพร Chaidim กาแฟออร์แกนิกของ Mivana จากสวนกาแฟของชุมชนที่ใส่ใจอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ
นำมารังสรรค์เป็นเมนูแสนอร่อยอย่าง BBQ Meat Large เซ็ตบาร์บีคิวสำหรับ 4 คน ที่อัดแน่นด้วยสารพันเนื้อชั้นดี ทั้งเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมูคุโรบูตะ สันคอหมู ซี่โครงหมู และอกเป็ด เสิร์ฟพร้อมผักย่างและซอส 3 รสชาติ เมนู Rockets Salad and Spicy Sausage อร่อยกับผักสดกรอบปลอดสารพิษ เมนู Rigatoni Tomato Bacon “AL Forno” อร่อยชีสเยิ้ม ๆ กับพาสต้าสไตล์อิตาลี ตบท้ายด้วยเมนูของหวานที่พลาดไม่ได้อย่าง Hot Green Tea Chocolate Fondant ช็อคโกแล็ตฟองดองสอดไส้ด้วยชาเขียวผสมช็อคโกแล็ตเข้มข้นเสิร์ฟอุ่น ๆ เคียงมากับไอศกรีมโฮมเมดและสตอว์เบอร์รี่สด เมนู Lemongrass & Ginger Creme Brulee แครมบรูว์เลของหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่ผสมผสานสมุนไพรไทยอย่างตะไคร้และขิงได้อย่างลงตัว
ส่วนเครื่องดื่มของทางร้านก็ไม่ซ้ำใคร อร่อยเฟรซกับเมนู Ninety Nine ที่มีส่วนผสมของผักและสมุนไพรไทย ดื่มแล้วสดชื่น และอีกหลากหลายเมนูอาหารทั้งไทยและยูโรเปียนให้คุณได้เลือกอิ่มอร่อย และมีส่วนช่วยเหลือสังคม ซึ่งทางร้านได้ก่อตั้ง โครงการ FOOD4GOOD พี่อิ่มท้อง น้องอิ่มด้วย โดยจะบริจาค 10 บาทจากทุก ๆ เมนูที่ร่วมโครงการภายในร้าน สนับสนุนโภชนาการของเด็กในมูลนิธิต่าง ๆ เรียกว่าทั้งอิ่มอร่อย อิ่มเอม และอิ่มใจในคราวเดียว
ซอยพระรามเก้า 41 ถนนเสรี 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
เปิด 11.00 – 23.00 น. โทร. 0-2300-4339
www.facebook.com/99restbackyardcafe
จุด GPS : 13.742813, 100.616574
https://goo.gl/maps/iTryiDgSqTp
ออร์แกนิกคาเฟ่ที่เหมือนยกสวนสามพรานมาไว้ในกรุงเทพฯ เกิดจากความตั้งใจของผู้บริหารสามพราน ริเวอร์ไซด์ รุ่นใหม่ ที่อยากให้คนเมืองได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจากกลุ่มเกษตรกรในมูลนิธิสังคมสุขใจและสินค้าจากธุรกิจสามพรานฯ จึงพลิกฟื้นที่ดินของคุณตาคุณยายให้กลายเป็นปอดสีเขียวใจกลางสุขุมวิท ให้คนเมืองได้แวะมาพักใจกับธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้การกินอยู่ตามวิถีออร์แกนิก
อาหารและขนมของร้านทำสดใหม่ส่งมาจากสวนสามพรานทุกวัน ข้าวปิ่นโตและข้าวห่อใบตองเป็นเมนูไทยๆ อย่างข้าวยำดอกไม้กับน้ำบูดู ผัดไทยหัวปลี ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ข้าวกะเพราเต้าหู้เห็ด ข้าวน้ำพริกข่ากับไข่ต้มและเห็ดแดดเดียว แกงเผ็ดหลายชนิด วันเสาร์-อาทิตย์มีเพิ่มเมนูขนมจีน-น้ำยาต่างๆ
ของหวานมีทั้งขนมไทย เบเกอรี่ ขอแนะนำฮันนี่เค้ก ซึ่งใช้แป้งข้าวหอมนิลและน้ำผึ้งป่า ตกแต่งด้วยดอกพวงชมพูดูน่ารัก และทาร์ตช็อกโกแลตรสชาติเข้มข้นด้วยส่วนผสมหลักจากโกโก้ที่ปลูกในประจวบคีรีขันธ์ ส่วนเครื่องดื่มแก้วเด็ดต้องไม่พลาดโคโคนัทคอฟฟี่ที่หวานน้อยแต่หอมมาก ด้วยส่วนผสมของกะทิ นม และกาแฟอะราบิกา 100% ยังมีดาร์กช็อกโกแลต ชาสมุนไพร น้ำมะพร้าว และน้ำผลไม้คั้นสดจากสวนสามพราน จะเลือกนั่งชิลล์รับลมธรรมชาติในสวน หรือนั่งรับแอร์ในเรือนกระจกโปร่งโล่งรับแสงธรรมชาติก็เหมาะ ทั้งยังบริการแบบเซลฟ์เซอร์วิส ลูกค้าเลือกหยิบอาหารเองจากโต๊ะกลาง สั่งเครื่องดื่มและชำระเงินที่เคาน์เตอร์เอง กินเสร็จก็นำภาชนะไปเก็บโดยคัดแยกเศษอาหารเองอีกด้วย
ก่อนกลับอย่าลืมแวะซื้อผักผลไม้ออร์แกนิกที่เกษตรกรในนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียงนำมาวางขาย รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปแบรนด์ “ปฐม” ที่มีทั้งครีม สบู่ แชมพูน้ำแร่ และน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
ซ. สุขุมวิท 49/6 (ซ. พร้อมพรรค) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เปิด อังคาร-อาทิตย์ 09.30-18.00 น. ปิดวันจันทร์
โทร. 0-2084-8649 / www.patom.com
GPS: 13.738562, 100.579115
https://goo.gl/maps/AGmMktvnucL2
ททท. ร่วมกับหอการค้าไทย เดินหน้าเปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำ กรุงเทพมหานครถึงพระนครศรีอยุธยา หวังกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ สู่การท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน “เทศกาลประดับไฟ Aqua Lumina มหัศจรรย์แสงเรืองรองจากท้องทะเลอันดามัน” ใน 3 จังหวัดภาคใต้ กระบี่ ภูเก็ต และพังงา เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างมาตรฐานด้านความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ โดยงานเทศกาลประดับไฟในครั้งนี้จะมีขึ้นระหว่างเดือน 14 พฤษภาคม – 12 มิถุนายน 2565
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน “เทศกาลประดับไฟ Aqua Lumina มหัศจรรย์แสงเรืองรองจากท้องทะเลอันดามัน” ใน 3 จังหวัดภาคใต้ กระบี่ ภูเก็ต และพังงา เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างมาตรฐานด้านความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ โดยงานเทศกาลประดับไฟในครั้งนี้จะมีขึ้นระหว่างเดือน 14 พฤษภาคม – 12 มิถุนายน 2565
เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศจัดกิจกรรมล่องเรือชมโบราณสถานยามค่ำคืนในแม่น้ำเจ้าพระยาต้อนรับคณะผู้แทนเขตเศรษฐกิจเอเปคที่เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๙-๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เพื่อสานต่อเป้าหมายการเป็นเจ้าภาพเอเปค ๒๕๖๕ ภายใต้แนวคิดหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” หรือ “Open. Connect. Balance.” มุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ยุคหลังโควิด-19 ให้มีการค้า การลงทุนที่เปิดกว้าง เสรี และมีพลวัต เชื่อมโยงความสะดวกและปลอดภัย พร้อมกำหนดแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจ BCG เพื่อการเตรียมรับมือสถานการณ์ความผันผวนต่าง ๆ ในโลก
© 2018 All rights Reserved.