“จับตูด งัดนม ยกซด” ที่กล่าวมาอาจฟังดูสองแง่สองง่าม กระเดียดไปทางทะลึ่งตึงตังไม่น้อย แต่นี่คือคำจำกัดความวิธีกินขนมของแม่ค้าเมืองลำพูน ลองทายกันดูสิ ขนมนี้คืออะไร

“เฉาก๊วยเหนียวๆ ดำๆ คือคำตอบ” แต่ขอบอกว่าเฉาก๊วยนี้ไม่ธรรมดา และหากินได้ไม่ง่ายๆ อย่างแน่นอน

ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย จ. ลำพูน ใกล้ๆ กับโพต้นใหญ่หน้าวัด มีรถไม้สักคันน้อยติดป้าย “เฉาก๊วยโบราณ มุกดา เฉาก๊วยแตกต่าง” ด้วยความชอบในรสหวานเย็นชื่นใจของเฉาก๊วยเป็นทุนเดิม จึงไม่ลังเลที่จะเข้าไปลิ้มลอง

“หวัดดีตัวเอง จะรับนางเฉาหรือนางเอก” คำถามของพี่มุกดาแม่ค้าเฉาก๊วยทำเอาเราต้องขมวดคิ้วด้วยความฉงน

“นางเฉา ก็เฉาก๊วย นางเอกก็น้ำส้มไง เราขายน้ำส้มด้วยนะตัวเอง” แม่ค้าบอก

อ๋อ…ถึงบางอ้อ อย่างนี้นี่เอง เราจึงตอบกลับไปว่า “นางเฉาค่ะ…นางเฉา”

แต่เดี๋ยวก่อน! ไม่จบอยู่แค่นั้น เจ้าของร้านยังถามต่อว่า “เอานมเล็กหรือนมใหญ่ตัวเอง” ความฉงนของเรากลับมาอีกครั้ง เธอจึงอธิบายว่า “นี่ไงนมเล็กก็บีบน้อย ส่วนนมหญ่ายยยย (ใหญ่) ก็บีบมาก ขึ้นอยู่กับว่าใหญ่แค่ไหน” (ฮา)

แล้วเราก็รู้ถึงความแตกต่างของเฉาก๊วยร้านนี้ คือนอกจากเครื่องเคราอย่างเนื้อเฉาก๊วย น้ำเชื่อม น้ำแข็งบด และน้ำตาลทรายแดงตามสูตรโบราณแล้ว ยังมีนมสดเหมือนที่ใช้ราดไอศครีมกะทิเพิ่มความหอมมันลงไปด้วย พี่มุกดาเล่าให้ฟังว่า มีลูกค้าคนหนึ่งมาสั่งแล้วไม่เอาทั้งนมเล็กนมใหญ่ กลับขอเป็นนมแม่ค้าแทน ด้วยความเป็นคนอารมณ์ดี เธอจึงแกล้งด้วยการเทนมลงไปในแก้วไม่หยุด จนลูกค้าต้องร้องให้พอจนเสียงหลง ก่อนเธอจะบอกลูกค้าอย่างติดตลกว่า

“อ้าว…ก็บอกว่าเอานมแม่ค้า ก็ต้องใส่เยอะๆ แบบนี้แหละ เพราะนมแม่ค้าน่ะ คัพ G นะ” (ฮา)

ด้วยความเป็นกันเองของเธอ เราจึงลองชวนเธอคุยไปพลางกินเฉาก๊วยโบราณใส่นมสูตรเฉพาะของเธอไปพลาง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เฉาก๊วยถ้วยละ 15 บาท จะทำให้เรารู้สึกได้ถึงความแตกต่างของรสชาติเพียงคำแรกที่ตักเข้าปาก ก็ต้องบอกว่า “อร่อยมากๆ” เธอบอกเราด้วยความภาคภูมิใจว่าเป็นสูตรที่เธอคิดค้นขึ้นมาเอง พร้อมกับสโลแกนการกินชวนขันอย่าง “จับตูด งัดนม ยกซด” จับตูดที่ว่าคือให้จับที่ส่วนปลายของแก้ว งัดนมคือการใช้ช้อนคนนมที่กองอยู่ก้นแก้วให้เข้ากัน สุดท้ายคือการยกซดลิ้มลองความอร่อยนั่นเอง

“เป็นไง สมชื่อเฉาก๊วยแตกต่างรึเปล่าตัวเอง” แม่ค้าถาม เราก็ได้แต่พยักหน้า บุ้ยใบ้ไปเพราะมัวแต่เพลินกับการกินเฉาก๊วยอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเธอ เธอเล่าให้ฟังว่าเธอเป็นลูกพ่อค้า ขายมาหลายอย่างทั้งอาหารตามสั่ง ของหวาน ของคาวสารพัด จนมาสิ้นสุดที่เฉาก๊วย ด้วยไอเดียง่ายๆ ว่าเธอเป็นคนชอบกินเฉาก๊วย ฉะนั้นจึงคิดว่าการขายเฉาก๊วยคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ

“เราต้องการให้เฉาก๊วยของเราแตกต่างจากเฉาก๊วยที่ขายอยู่ตามท้องตลาด เลยพัฒนาสูตรมาเรื่อยๆ จนได้สูตรนี้ แล้วเราก็มั่นใจนะว่าเฉาก๊วยเราต้องขายได้ คนกินแล้วต้องชอบ เราถึงกล้าเขียนที่ป้ายไม่พอใจยินดีคืนเงิน” นอกจากนี้เธอยังสามารถจดจำความต้องการลูกค้าของแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ เห็นหน้าแล้วรู้ทันทีว่าใครชอบแบบไหน ใส่นมเยอะๆ หรือไม่ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เฉาก๊วยพี่มุกดาจะมีลูกค้าขาประจำ ที่แวะเวียนมาซื้อเฉาก๊วยเธออยู่ไม่ได้ขาด

อย่าลืมสังเกตรถไม้สักคันน้อย แถวๆ ต้นโพใหญ่หน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย เมืองลำพูน หากใครมีโอกาสแวะเวียนไปที่วัดพระธาตุฯ ขอแนะนำให้ลองพิสูจน์กันดู ว่าเฉาก๊วยร้านนี้จะ “แตกต่าง” อย่างที่ว่ามาหรือไม่

ที่ตั้ง ใกล้ต้นโพใหญ่หน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย อ. เมืองลำพูน จ. ลำพูน เปิดเวลา 06.00-18.00 น.